วานนี้(11 มี.ค.56) พ.ต.ท. ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีทุจริตก่อสร้างโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ(ทดแทน) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กล่าวว่า วันนี้ (11 มี.ค.) นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ประธานกรรมการบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ได้ยื่นหนังสือโต้แย้งและคัดค้านคำสั่งอายัดเงินในบัญชีธนาคารออมสิน สาขาประตูช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ซึ่งดีเอสไอได้มีคำสั่งอายัดเงินในบัญชีทั้งหมดที่ได้รับโอนจากสตช. เพื่อใช้ในการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนจนกว่าคดีถึงที่สุด โดยเนื้อหาในหนังสืออ้างว่า คำสั่งอายัดเงินในบัญชีดังกล่าว ตามบัญชีเลขที่ 020035554664 หรือเงินในบัญชีเงินฝากอื่นๆ ที่โอนมาจากสตช. จนกว่าคดีจะถึงที่สุดนั้นเงินในบัญชีดังกล่าวเป็นเงินได้ที่เกิดจากการที่บริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างและส่งมอบงวดงานให้แก่ สตช.ในฐานะผู้ว่าจ้าง ซึ่งสตช.ก็พิจารณาแล้วเห็นว่าผลงานก่อสร้างของบริษัทถูกต้องและเป็นไปตามข้อกำหนดของสัญญาว่าจ้าง จึงได้พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินค่าว่าจ้าง ซึ่งเงินค่าว่าจ้างเป็นจำนวนเงินที่คิดจากปริมาณงาน จึงไม่ใช่เงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด
นายพิบูลย์ ระบุอีกว่า การก่อสร้างโครงการดังกล่าวกระทำโดยสุจริตนับตั้งแต่การประมูลงานก่อสร้าง ซึ่งใช้วิธีการแข่งขันราคาด้วยระบบอีอ็อคชั่น ซึ่งได้มีการเสนอราคาต่ำกว่างบประมาณกลาง 540 ล้านบาท เปรียบเป็นร้อยละ 8.45 ซึ่งไม่ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงหรือต่ำกว่า ร้อยละ15 ตามที่ได้กำหนดไว้ในระเบียบการประมูลราคา โดยหากการก่อสร้างแล้วเสร็จตามสัญญาบริษัทจะมีผลกำไรร้อยละ 10 หรือประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ยอมรับได้ในการประมูลงานและบริหารงานทั่วไป
ดังนั้น การที่ดีเอสไอใช้ดุลพินิจสั่งอายัดเงินโดยไม่รอพยานหลักฐานย่อมส่งผลกระทบทำให้บริษัทได้รับความเสียหายและขอโต้แย้งเพราะศาลยังมิได้มีคำพิพากษาว่าบริษัทกับพวกได้กระทำผิดตามที่ได้รับแจ้งข้อกล่าวหาจากดีเอสไอ การออกคำสั่งดังกล่าวถือเป็นการออกคำสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล หรือนิติบุคคลซึ่งยังไม่ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง ดังนั้น ขอให้ดีเอสไอทบทวนและมีคำสั่งยกเลิกการอายัด หากเพิกเฉยบริษัทอาจจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมายกับดีเอสไอและผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านพ.ต.ท.ถวัล กล่าวว่า เบื้องต้นจากการพิจารณาหลักฐานยังไม่เห็นสมควรให้มีการถอนคำสั่งอายัด เพราะบัญชีที่อายัดคือบัญชีที่เปิดรับเงินที่ได้รับโอนเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสถานีตำรวจจากสตช. ซึ่งจำเป็นต้องอายัดไว้ตรวจสอบ โดยดีเอสไอได้ประสานให้ธนาคารออมสินอายัดทุกบัญชีที่ได้รับโอนเงินจากสตช. เบื้องต้นรอการแจ้งยอดเงินที่ชัดเจนจากธนาคาร สำหรับการติดตามเงินที่ได้เบิกจ่ายล่วงหน้าจากสตช.จำนวนกว่า 1,500 ล้านบาทนั้นผู้เชี่ยวชาญสำนักคดีการเงินการธนาคารกำลังเร่งวิเคราะห์เส้นทางการเงินเพื่อตรวจสอบธุรกรรมเงินสดว่าหลังได้รับเงินงวดแรกกับเงินล่วงหน้าเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างนั้นมีการนำไปใช้จ่ายอย่างไร ส่วนกรณีที่บริษัท พีซีซีฯ ขู่ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนที่ทำคดีฐานทำให้บริษัทเสียหาย ตนเห็นว่าเป็นสิทธิที่จะดำเนินการได้แต่ยืนยันว่าคดีนี้ได้ดำเนินการไปอย่างตรงไปตรงมาไม่มีคำสั่งจากนักการเมืองแน่นอน
นายพิบูลย์ ระบุอีกว่า การก่อสร้างโครงการดังกล่าวกระทำโดยสุจริตนับตั้งแต่การประมูลงานก่อสร้าง ซึ่งใช้วิธีการแข่งขันราคาด้วยระบบอีอ็อคชั่น ซึ่งได้มีการเสนอราคาต่ำกว่างบประมาณกลาง 540 ล้านบาท เปรียบเป็นร้อยละ 8.45 ซึ่งไม่ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงหรือต่ำกว่า ร้อยละ15 ตามที่ได้กำหนดไว้ในระเบียบการประมูลราคา โดยหากการก่อสร้างแล้วเสร็จตามสัญญาบริษัทจะมีผลกำไรร้อยละ 10 หรือประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ยอมรับได้ในการประมูลงานและบริหารงานทั่วไป
ดังนั้น การที่ดีเอสไอใช้ดุลพินิจสั่งอายัดเงินโดยไม่รอพยานหลักฐานย่อมส่งผลกระทบทำให้บริษัทได้รับความเสียหายและขอโต้แย้งเพราะศาลยังมิได้มีคำพิพากษาว่าบริษัทกับพวกได้กระทำผิดตามที่ได้รับแจ้งข้อกล่าวหาจากดีเอสไอ การออกคำสั่งดังกล่าวถือเป็นการออกคำสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล หรือนิติบุคคลซึ่งยังไม่ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง ดังนั้น ขอให้ดีเอสไอทบทวนและมีคำสั่งยกเลิกการอายัด หากเพิกเฉยบริษัทอาจจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมายกับดีเอสไอและผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านพ.ต.ท.ถวัล กล่าวว่า เบื้องต้นจากการพิจารณาหลักฐานยังไม่เห็นสมควรให้มีการถอนคำสั่งอายัด เพราะบัญชีที่อายัดคือบัญชีที่เปิดรับเงินที่ได้รับโอนเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสถานีตำรวจจากสตช. ซึ่งจำเป็นต้องอายัดไว้ตรวจสอบ โดยดีเอสไอได้ประสานให้ธนาคารออมสินอายัดทุกบัญชีที่ได้รับโอนเงินจากสตช. เบื้องต้นรอการแจ้งยอดเงินที่ชัดเจนจากธนาคาร สำหรับการติดตามเงินที่ได้เบิกจ่ายล่วงหน้าจากสตช.จำนวนกว่า 1,500 ล้านบาทนั้นผู้เชี่ยวชาญสำนักคดีการเงินการธนาคารกำลังเร่งวิเคราะห์เส้นทางการเงินเพื่อตรวจสอบธุรกรรมเงินสดว่าหลังได้รับเงินงวดแรกกับเงินล่วงหน้าเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างนั้นมีการนำไปใช้จ่ายอย่างไร ส่วนกรณีที่บริษัท พีซีซีฯ ขู่ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนที่ทำคดีฐานทำให้บริษัทเสียหาย ตนเห็นว่าเป็นสิทธิที่จะดำเนินการได้แต่ยืนยันว่าคดีนี้ได้ดำเนินการไปอย่างตรงไปตรงมาไม่มีคำสั่งจากนักการเมืองแน่นอน