วานนี้(10 มี.ค.56) รศ.ฉัตรสุมน พฤฒิภิญโญ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมทำข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป โดยเฉพาะประเด็นสำคัญคือเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า มีข้อมูลที่น่าสนใจ คือก่อนหน้านี้ไทยได้ทำเอฟทีเอกับออสเตรเลีย โดยกรมศุลกากรไทยนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากออสเตรเลียในเดือนธ.ค.2555 ที่ผ่านมาจำนวน 0.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะเดียวกันในอีกหนึ่งเดือนถัดมาคือม.ค. 2556 ปรากฏว่ายอดการนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้น่าตกใจว่าระยะเวลาผ่านไปแค่หนึ่งเดือนแต่ยอดนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงมากถึง 1 ล้านเหรียญในประเทศไทย ซึ่งนี้เป็นการเทียบกันของตารางฐานข้อมูลของศุลกากรเดือนต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาวิจัยซึ่งทำในช่วงปี 2554-2555 มองเห็นปัญหาสำคัญ คือ หากไทยทำเอฟทีเอสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหมือนกรณีสินค้าอื่นๆ จะทำให้มีการนำเข้า การขาย การทำการตลาด และการลงทุนของเครื่องดื่มสุรามากขึ้น และนั้นจะนำมาสู่อันตรายต่อสุขภาพคนไทยเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
“รัฐบาลต้องนำสุราออกจากเรื่องการเจรจา FTA โดยเฉพาะกับประเทศใหม่ๆ เพราะเป็นเรื่องทวิภาคี เรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องเป็นข้อสงวน ส่วนประเทศเก่าที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ก็ขอให้ทบทวน เพราะเรื่องนี้มีผลต่ออนาคตโดยเฉพาะการเข้าสู่ประเทศอาเซียนซึ่งจะเป็นข้อผูกพันสัญญาเป็นกลุ่มประเทศ ซึ่งขณะนี้มีเพียงประเทศบรูไนประเทศเดียวที่มีข้อสงวนเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” รศ.ดร.ฉัตรสุมน กล่าว
ทั้งนี้ผลกระทบที่จะตามมา คือการเคลื่อนไหวยอดขาย บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะคนไทยมีรสนิยมเห่อเหล้านอก เมื่อสินค้าเหล่านี้มีราคาถูกลงอีก ก็ยิ่งตอกย้ำการบริโภค ปัญหาที่ตามมาก็เป็นระวิงทั้งความรุนแรง อาชญากรรม และอันตราย อุบัติเหตุ ปัญหาสังคม ครอบครัว ที่เป็นต้นตอมากจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งนี้น่าตกใจว่าระยะเวลาผ่านไปแค่หนึ่งเดือนแต่ยอดนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงมากถึง 1 ล้านเหรียญในประเทศไทย ซึ่งนี้เป็นการเทียบกันของตารางฐานข้อมูลของศุลกากรเดือนต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาวิจัยซึ่งทำในช่วงปี 2554-2555 มองเห็นปัญหาสำคัญ คือ หากไทยทำเอฟทีเอสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหมือนกรณีสินค้าอื่นๆ จะทำให้มีการนำเข้า การขาย การทำการตลาด และการลงทุนของเครื่องดื่มสุรามากขึ้น และนั้นจะนำมาสู่อันตรายต่อสุขภาพคนไทยเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
“รัฐบาลต้องนำสุราออกจากเรื่องการเจรจา FTA โดยเฉพาะกับประเทศใหม่ๆ เพราะเป็นเรื่องทวิภาคี เรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องเป็นข้อสงวน ส่วนประเทศเก่าที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ก็ขอให้ทบทวน เพราะเรื่องนี้มีผลต่ออนาคตโดยเฉพาะการเข้าสู่ประเทศอาเซียนซึ่งจะเป็นข้อผูกพันสัญญาเป็นกลุ่มประเทศ ซึ่งขณะนี้มีเพียงประเทศบรูไนประเทศเดียวที่มีข้อสงวนเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” รศ.ดร.ฉัตรสุมน กล่าว
ทั้งนี้ผลกระทบที่จะตามมา คือการเคลื่อนไหวยอดขาย บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะคนไทยมีรสนิยมเห่อเหล้านอก เมื่อสินค้าเหล่านี้มีราคาถูกลงอีก ก็ยิ่งตอกย้ำการบริโภค ปัญหาที่ตามมาก็เป็นระวิงทั้งความรุนแรง อาชญากรรม และอันตราย อุบัติเหตุ ปัญหาสังคม ครอบครัว ที่เป็นต้นตอมากจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์