xs
xsm
sm
md
lg

อัดครม.ปูทำงบพิสดาร กู้เลี่ยงตรวจสอบ-แต่งตัวเลขตบตา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอรรถวิช สุวรรณภักดี โฆษกครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมว่า พรรคขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล ให้เลิกการจัดงบภาคพิสดาร หลังจากพิจารณาแผนของรัฐบาลที่มีการตั้งเป้าว่า จะจัดงบประมาณแบบสมดุล ในปี 2560 และตั้งเป้าขาดดุลในปี 2557 อีก 2.5 แสนล้านบาท พบว่าเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา เพราะงบลงทุนเกือบทั้งหมดจะไปอยู่ในพ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนระบบราง เท่ากับงบปกติจะมีเพียงงบเงินเดือน นอกนั้นจะไปอยู่ในพ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้าน และ พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้ระบบการตรจสอบงบประมาณ รวนทั้งระบบ
นายอรรถวิช กล่าวด้วย จากการพิจารณาการใช้จ่ายเงินลงทุนของรัฐบาล ที่อ้างว่าจะไม่กู้เงินในคราวเดียว แต่จะทยอยกู้นั้น ทำให้จะมีการใช้เงินลงทุนปีละประมาณ 3 แสนล้านบาท ซึ่งอยุ่ในวิสัยที่จะจัดสรรในงบประมาณปกติได้ โดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการงบประมาณภาคพิสดาร ด้วยการออก พ.ร.บ.และ พ.ร.ก. เพราะเงินจำนวนดังกล่าวสามารถจัดงบแบบขาดดุล และประหยัดงบประมาณจากโครงการอื่น เช่น โครงการรับจำนำข้าว หากยุติโครงการก็จะประหยัดเงินขาดทุนได้ปีละ 2 แสนล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนในโครงการที่จำเป็นได้ ซึ่งจะดีกว่าการจัดงบประมาณแบบภาพลวงตา พร้อมกันนี้ยังประเมินด้วยว่า หากมีการกู้เงินตามแผนรัฐบาล หนี้สาธารณะจะเกิน 50 % อย่่างแน่นอน โดยอาจแตะถึง 60 % และเห็นว่าตัวเลขของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หรือ สบน. ที่มีการนำเสนอถึงเหตุผลที่จะทำให้ตัวเลขหนี้สาธารณะไม่เกิน 50 % นั้น อยู่บนสมมติฐานที่เป็นไปไม่ได้ คือ เศรษฐกิจไทยจะโตเฉลี่ย 7.5 % ทุกปี และหลังปี 2556 การจำนำข้าวจะไม่ขาดทุน
"ครม.เงาเห็นว่า การอธิบายด้วยตัวเลขดังกล่าวเป็นเหมือนเป็นวิธีการของพ่อมดการเงิน เพื่อหลอกลวงประชาชนว่า จะไม่เกิดความสียหายจากการกู้เงินจำนวนมากนอกระบบงบประมาณ และเชื่อว่าการจัดตัวเลขของสบน.นั้นเกิดจากนโยบายของฝ่ายการเมือง และอยากเตือนว่า ความไม่ชัดเจนของพ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ที่มีการเปิดวงเงินไว้แล้ว 1 หมื่นล้านบาท แต่มีการเบิกจ่ายจริงเพียงแค่ 6 พันล้านบาท ในขณะเดียวกันก็กำลังจะครบกำหนดระยะเวลาที่ต้องกู้เงินภายในดือนมิถุนายนนี้ ตามเงื่อนไขของ พ.ร.ก. ดังกล่าว จึงไม่เชื่อว่าจะมีการกู้เงินได้ทัน และถ้ามีการใช้รูปแบบลงนามร่วมกับธนาคารกรุงไทย เพื่อให้เปิดวงเงินเต็มจำนวนไว้ก่อน แต่จะคิดดอกเบี้ย เมื่อมีการเบิกจ่ายจริงนั้น จะถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของพ.ร.ก. และพรรคจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในประเด็นนี้ด้วย"
นายอรรถวิช กล่าวด้วยว่า รัฐบาลขาดความชัดเจนในการใช้เงินกู้ เพื่อบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยในปัจจุบันมีการระบุว่า จะได้ตัวผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการราวเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งหากพิจารณาตามข้อมูลดังกล่าว อาจทำให้เกิดปัญหาการชะงักงันของโครงการได้ เพราะในระหว่างที่มีการเบิกจ่ายเงินตัวเลขหนี้สาธารณะอาจจะพุ่งสูงจนควบคุมไม่ได้ กระทบกับการดำเนินโครงการให้สะดุดได้ด้วยเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น