เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชื่อก้องโลก วัย 82 ปี สามารถทำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้เกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29,840 ล้านบาท) เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2012 ที่ผ่านมา จากการเข้าเก็งกำไรกับค่าเงินเยนของญี่ปุ่น ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยของเหล่งข่าวที่เป็นบุคคลใกล้ชิดกับโซรอส แถมยังเพิ่มการถือหุ้นในบริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง “แอปเปิล อิงก์”
รายงานของสื่อต่างประเทศหลายสำนักซึ่งอ้างคนใกล้ชิดของโซรอสเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (14) ระบุว่า พ่อมดการเงินชาวอเมริกันเชื้อสายฮังการีรายนี้ สามารถทำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้เกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปีที่แล้ว จากการเข้าเก็งกำไรค่าเงินเยนของญี่ปุ่น หลังจากค่าเงินแดนปลาดิบอ่อนค่าลงกว่า 17 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ราวช่วงต้นไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 ซึ่งถือเป็นวิกฤตการอ่อนค่าของเงินเยนที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 1985 เป็นต้นมา สวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นนิกเกอิที่ปรับตัวพุ่งขึ้นกว่า 28 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่ช่วงสิ้นไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว
เป็นที่คาดกันว่า สกอตต์ เบสเซนต์ หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของกองทุนโซรอส ฟันด์ แมเนจเมนต์ ซึ่งมีฐานอยู่ที่มหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ คือ “คีย์แมน” คนสำคัญที่ช่วยให้โซรอสโกยเงินเข้ากระเป๋าจากการเก็งกำไรค่าเงินเยนในครั้งนี้
อย่างไรก็ดี ไมเคิล วาชอน โฆษกของโซรอสปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ ต่อข่าวดังกล่าวที่มีการรายงานผ่านสื่อต่างประเทศหลายสำนักทั้งวอลล์สตรีท เจอร์นัล, บลูมเบิร์ก ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 1992 จอร์จ โซรอส เคยโจมตีค่าเงินปอนด์ของอังกฤษจนสามารถทำกำไรได้นับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้ธนาคารกลางของอังกฤษ (Bank of England) เกือบต้องประสบภาวะล้มละลาย ขณะเดียวกันโซรอสยังเคยทำกำไรมหาศาลจากการโจมตี “ค่าเงินบาท” ของไทย และสกุลเงินของอีกหลายชาติในเอเชียมาแล้วเมื่อช่วงวิกฤตการเงินในเอเชีย ซึ่งมีจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม ปี 1997
ทั้งนี้ นอกจากข่าวการทำกำไรของโซรอสจากค่าเงินเยนของญี่ปุ่นแล้ว ยังมีรายงานว่า โซรอสซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินในความครอบครองทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 600,000 ล้านบาท) เพิ่งทุ่มเงินซึ่งไม่เปิดเผยจำนวนที่แน่ชัดเพื่อเข้าซื้อหุ้นของบริษัท “แอปเปิล อิงก์” ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีของสหรัฐฯ เพิ่มเติมเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ผ่านทางกองทุนโซรอส ฟันด์ แมเนจเมนต์ของเขาในนิวยอร์ก เป็นเหตุให้ขณะนี้โซรอสถือหุ้นกว่า “183,976 หุ้น” ในบริษัทแอปเปิล ผู้ผลิตโทรศัพท์อัจฉริยะ “ไอโฟน” และแท็บเล็ตยอดฮิตอย่าง “ไอแพด” คิดเป็นวงเงินไม่ต่ำกว่า 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,924 ล้านบาท)
