xs
xsm
sm
md
lg

ยอดโกงสอบครู500ราย เรียก7 ผอ.-“เสมา1”โยนดีเอสไอสอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(3 มี.ค.56)นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการร้องเรียนให้ตรวจสอบทุจริตสอบคัดเลือกตำแหน่งครูผู้ช่วย 2,000 อัตราทั่วประเทศว่า ว่า ดีเอสไอกำลังเร่งสืบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันเพื่อแจ้งผลการตรวจสอบกลับไปยังกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาดำเนินการต่อไป เนื่องจากคดีดังกล่าวไม่อยู่ในบัญชีแนบท้ายพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ หากตรวจสอบพบความผิดปกติดีเอสไอต้องส่งเรื่องกลับไปให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาว่าต้องการให้ดีเอสไอสอบสวนต่อหรือไม่ ก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) รับเป็นคดีพิเศษได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่กังวลว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการขอข้อมูลจากในบางพื้นที่ที่ส่อทุจริตเช่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ในฐานะดีเอสไอเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายดังนั้นย่อมมีอำนาจในการตรวจสอบข้อมูลอย่างเต็มที่ เบื้องต้นไม่คิดว่าจะมีการปกปิดข้อมูล เพราะจะถือเป็นความผิดได้
ด้านนายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามทุจริต ดีเอสไอ กล่าวว่า เบื้องต้นภายในกำหนดระยะเวลา 15 วัน ดีเอสไอจะต้องสืบสวนและแจ้งต่อกระทรวงศึกษาธิการให้ได้ในภาพรวมว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ส่วนการสอบสวนเชิงลึกให้ได้ตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการต้องให้กคพ.รับเป็นคดีพิเศษเพื่อจะได้มีอำนาจเข้าไปสอบสวนเต็มที่ แต่เบื้องต้นตามที่กระทรวงศึกษาธิการประสานข้อมูลทำให้วางแนวทางการสืบสวนตามประเด็นที่ส่อผิดปกติคือ กรณีมีรายชื่อผู้เข้าสอบซ้ำกัน 2 พื้นที่ กรณีการนำเครื่องมือสื่อสารซุกซ่อนเข้าห้องสอบและกรณีข้อสอบรั่ว ทำให้มีการทำโพยข้อสอบให้ผู้เข้าสอบท่องก่อนเข้าห้องสอบ โดยดีเอสไอจะสุ่มตรวจสอบสนามสอบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนเพราะมีข้อมูลชี้ชัดสุด ซึ่งสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 ราย ตามที่มีเบาะแสระบุว่าบุคคลกลุ่มนี้มีพฤติกรรมที่อาจมีส่วนรู้การสอบครั้งนี้ เข้าให้ข้อมูล จากนั้นจะทยอยเชิญบุคคลกลุ่มอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลต่อไป
นายธานินทร์ กล่าวต่อว่า หากผลตรวจสอบดีเอสไอมีพยานหลักฐานชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติและส่งเรื่องกลับไปให้กระทรวงศึกษาธิการตามที่ร้องขอให้ตรวจสอบแล้ว การจะพิจารณาดำเนินการยกเลิกการสอบหรือไม่เป็นดุลยพินิจของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งการยกเลิกการสอบถือเป็นเรื่องใหญ่และส่งผลกระทบกับบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น ดีเอสไอต้องตรวจสอบเพื่อเสนอข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาอย่างรอบคอบเพราะการยกเลิกการสอบอาจทำได้ทั้งการยกเลิกการสอบทั้งหมดหรือการยกเลิกสอบในบางจุดที่พบทุจริต หากมีพยานหลักฐานชี้ให้เห็นถึงการความผิดปกติที่เกิดขึ้นทุกภาคก็แสดงว่ามีการทุจริตทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากการจัดสอบที่เกิดขึ้นทั่วประเทศครั้งนี้พฤติกรรมการทุจริตสอบน่าจะมีความใกล้เคียงกับการจัดสอบข้าราชการตำรวจซึ่งกระจายไปทั่วประเทศ
แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า แผนประทุษกรรมของขบวนการโกงข้อสอบบรรจุเป็นข้าราชการในทุกสังกัด จะกระทำใน 3 ลักษณะ วิธีการแรกเป็นการส่งมือปืนรับจ้างเข้าไปร่วมสอบแล้วส่งคำตอบผ่านเครื่องมือสื่อสาร ซึ่งวิธีการนี้ผู้สอบต้องเข้ารับการอบรมวิธีใช้เครื่องมือสื่อสารในการเฉลยคำตอบ วิธีการที่ 2 เป็นการเฉลยคำตอบให้ท่องจำก่อนเข้าสอบ 1 วัน โดยวิธีนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อข้อสอบรั่ว โดยข้อสอบที่รั่วจะมีราคาชุดละ 1-2 ล้านบาท วิธีการที่ 3 เป็นการส่งบุคคลอื่นเข้าสอบแทน ในส่วนของค่าธรรมเนียมในการเฉลยข้อสอบจะเรียกเก็บเป็น 2 อัตรา กรณีข้อสอบบรรจุเป็นข้าราชการซี 3 เรียกเก็บ 300,000 บาท และข้อสอบบรรจุเป็นข้าราชการซี 2 เรียกเก็บ 200,000 บาท ทั้งนี้จากข้อมูลเบาะแสเบื้องต้นคาดว่าในการสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้มีการทุจริตครบทั้ง 3 วิธีการ ประเมินเบื้องต้นว่ามีผู้ทุจริตประมาณ 500 คน ซึ่งถือเป็น 1 ใน 4 ของ 2,000 อัตราที่เปิดรับครั้งนี้
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เสนอให้เลื่อนการสอบบรรจุข้าราชการครูทั่วไปในเดือน เม.ย.ออกไปก่อน หลังจากมีการตรวจพบการทุจริตการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็นพิเศษหรือเหตุพิเศษ ว12 ซึ่งพบว่าอาจมีผู้บริหารระดับสูงใน สพฐ.เกี่ยวข้องและขณะนี้ก็อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่า แนวคิดของ นายเสริมศักดิ์ เป็นเรื่องที่ดี เพราะต้องตรวจสอบการทุจริตกรณีที่เกิดขึ้นนี้ให้เรียบร้อยก่อน จะได้ดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีจุดบกพร่องที่ใด เพื่ออุดจุดบอดนั้นไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก ซึ่งจะนำไปสู่การจัดระบบการสอบครั้งใหม่ให้รัดกุม โปร่งใส ไม่ให้มีใครได้เปรียบเสียเปรียบหรือมีใครรู้ข้อสอบก่อน ดังนั้น ตนจะรอดีเอสไอ ส่งข้อมูลกลับมาซึ่งคิดว่าไม่นาน
ถามว่า กระทรวงศึกษาธิการ จะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะมีผู้บริหารระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้อง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ดีเอสไอ ซึ่งเป็นองค์กรจากภายนอกทำหน้าที่ตรวจสอบอยู่ และเราก็เชื่อได้ว่าข้อมูลจากดีเอสไอเป็นกลางที่สุด หากให้ศธ.หรือ สพฐ.ตรวจสอบเอง สาธารณะชนอาจเกิดความคลางแคลงใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น