คลังพร้อมกู้ตาม พ.ร.ก. 3.5 แสนล้านบาทหลังกบอ.เสนอโครงการเข้าที่ประชุมครม.เดือนเมษายนนี้ ระบุเงินกู้อาจไม่เต็มวงเงินหลังมีการเบิกจ่ายไปแล้วกว่าหมื่นล้านและอาจมีบางโครงการประมูลเข้ามาต่ำกว่าราคากลาง ระบุ หลัง ครม.ให้ความเห็นชอบพร้อมเรียกสถาบันการเงิน 30 แห่งดำเนินการกู้เงินได้ภายใน 15 วัน
นายสุวิชญ โรจนวานิช รองผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ขั้นตอนการดำเนินงานตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศพ.ศ.2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาทนั้น มีการกู้เงินและเบิกจ่ายไปแล้วประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกกว่า 3.4 แสนล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินงานคัดเลือกผู้รับเหมาเพื่อประมูลก่อสร้างโครงการ
โดยขั้นตอนการคัดเลือกผู้รับเหมาเพื่อดำเนินการตามโครงการทั้ง 10 โมดูลตามแผนนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ที่มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธาน ซึ่งมีทั้งผู้รับเหมาจากในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งผู้รับเหมาที้เป็นกิจการร่วมค้าระหว่างผู้รับเหมาในประเทศและต่างประเทศยื่นข้อเสนอเข้ามาสู่กระบวนการพิจารณา
“คาดว่ารองนายกรัฐมนตรีและรมว.วิทยาศาสตร์ฯ จะสรุปผลโครงการและเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในเดือนเมษายนเพื่อให้กระบวนการกู้เงินตามกฎหมายตามที่ พ.ร.ก.กำหนดว่าต้องดำเนินการภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ได้ตามเวลา โดยในการเสนอโครงการเพื่อให้ครม.ตัดสินใจนั้นจะต้องมีข้อสรุปและรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าในแต่ละโครงการทั้ง 10 โมดูลนั้นมีผู้รับเหมารายใดเป็นผู้รับผิดชอบและวงเงินแต่ละโครงการที่ยื่นซองประมูลเข้ามาเป็นวงเงินมากน้อยกว่าราคากลางเพียงใด”
นายสุวิชญกล่าวว่า หลังจากที่ ครม.ตัดสินใจตามที่ กบอ.เสนอไปแล้วนั้นขั้นตอนต่อไปคือกระบวนการหาแหล่งเงินกู้ของสบน.ที่จะต้องดำเนินการต่อไป โดยในทางปฏิบัติแล้วหากโครงการที่ กบอ.เสนอนั้นผ่านการพิจารณาของครม.แล้วและสำนักงบประมาณและสำนักงานคระกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ศึกษารายละเอียดของโครงการทั้งหมดและส่งเรื่องมายังสบน.แล้วก็จะสามารถดำเนินการกู้เงินได้ภายใน 15 วันเพื่อให้มีการเบิกจ่ายตามขั้นตอนต่อไป
“หากกระบวนการต่างๆ เรียบร้อยแล้ว สบน.ก็จะเชิญสถาบันการเงินทั้ง 30 แห่งที่เปิดดำเนินการในประเทศไทยทั้งสถาบันการเงินของไทยและต่างชาติยื่นข้อเสนอการกู้เงินเข้ามาให้ สบน.พิจารณา โดยจะดำเนินการคัดเลือกสถาบันการเงินที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดและรับบาลได้ประโยชน์สูงสุด ในขณะที่การกู้เงินนั้นจะทำสัญญาเงินกู้และเบิกจ่ายเป็นรายงวดตามขั้นตอนของสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเพื่อไม่ให้เกิดภาระดอกเบี้ยมากเกินความจำเป็น” นายสุวิชญกล่าวและว่า การกู้เงินในครั้งนี้อาจไม่จำเป็นต้องกู้เต็มวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท เนื่องจากมีการกู้และเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาทและราคาประมูลที่เกิดขึ้นอาจต่ำกว่าราคากลางได้.
นายสุวิชญ โรจนวานิช รองผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ขั้นตอนการดำเนินงานตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศพ.ศ.2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาทนั้น มีการกู้เงินและเบิกจ่ายไปแล้วประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกกว่า 3.4 แสนล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินงานคัดเลือกผู้รับเหมาเพื่อประมูลก่อสร้างโครงการ
โดยขั้นตอนการคัดเลือกผู้รับเหมาเพื่อดำเนินการตามโครงการทั้ง 10 โมดูลตามแผนนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ที่มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธาน ซึ่งมีทั้งผู้รับเหมาจากในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งผู้รับเหมาที้เป็นกิจการร่วมค้าระหว่างผู้รับเหมาในประเทศและต่างประเทศยื่นข้อเสนอเข้ามาสู่กระบวนการพิจารณา
“คาดว่ารองนายกรัฐมนตรีและรมว.วิทยาศาสตร์ฯ จะสรุปผลโครงการและเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในเดือนเมษายนเพื่อให้กระบวนการกู้เงินตามกฎหมายตามที่ พ.ร.ก.กำหนดว่าต้องดำเนินการภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ได้ตามเวลา โดยในการเสนอโครงการเพื่อให้ครม.ตัดสินใจนั้นจะต้องมีข้อสรุปและรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าในแต่ละโครงการทั้ง 10 โมดูลนั้นมีผู้รับเหมารายใดเป็นผู้รับผิดชอบและวงเงินแต่ละโครงการที่ยื่นซองประมูลเข้ามาเป็นวงเงินมากน้อยกว่าราคากลางเพียงใด”
นายสุวิชญกล่าวว่า หลังจากที่ ครม.ตัดสินใจตามที่ กบอ.เสนอไปแล้วนั้นขั้นตอนต่อไปคือกระบวนการหาแหล่งเงินกู้ของสบน.ที่จะต้องดำเนินการต่อไป โดยในทางปฏิบัติแล้วหากโครงการที่ กบอ.เสนอนั้นผ่านการพิจารณาของครม.แล้วและสำนักงบประมาณและสำนักงานคระกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ศึกษารายละเอียดของโครงการทั้งหมดและส่งเรื่องมายังสบน.แล้วก็จะสามารถดำเนินการกู้เงินได้ภายใน 15 วันเพื่อให้มีการเบิกจ่ายตามขั้นตอนต่อไป
“หากกระบวนการต่างๆ เรียบร้อยแล้ว สบน.ก็จะเชิญสถาบันการเงินทั้ง 30 แห่งที่เปิดดำเนินการในประเทศไทยทั้งสถาบันการเงินของไทยและต่างชาติยื่นข้อเสนอการกู้เงินเข้ามาให้ สบน.พิจารณา โดยจะดำเนินการคัดเลือกสถาบันการเงินที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดและรับบาลได้ประโยชน์สูงสุด ในขณะที่การกู้เงินนั้นจะทำสัญญาเงินกู้และเบิกจ่ายเป็นรายงวดตามขั้นตอนของสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเพื่อไม่ให้เกิดภาระดอกเบี้ยมากเกินความจำเป็น” นายสุวิชญกล่าวและว่า การกู้เงินในครั้งนี้อาจไม่จำเป็นต้องกู้เต็มวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท เนื่องจากมีการกู้และเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาทและราคาประมูลที่เกิดขึ้นอาจต่ำกว่าราคากลางได้.
