xs
xsm
sm
md
lg

ลำนำ ว่าด้วยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

เผยแพร่:   โดย: อภินันท์ สิริรัตนจิตต์

โดย...อภินันท์ สิริรัตนจิตต์
คณะศิลปศาสตร์และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่

อาชีพนักการเมือง เป็นอาชีพของผู้มีเกียรติที่มีเก้าอี้นั่งในรัฐสภา และเกียรติที่มี ย่อมเกิดจากความสุจริตในการทำหน้าที่ ตามภาษิตโบราณที่กล่าวสอนไว้ ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตของนักการเมืองทั้งผู้นำประเทศและผู้มีส่วนร่วมฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ก็ควรถือปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตในงาน

หากจะวิเคราะห์หน้าที่ในภารงานของผู้นำประเทศในตำแหน่งต่างๆ ที่ดำรงอยู่ เช่น ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รองนายรัฐมนตรี รัฐมนตรีและอื่นๆ กับรายได้และโอกาสการมีรายได้อื่นๆ อันเป็นผลพวงของการมีตำแหน่ง ในสายตานักเศรษฐศาสตร์ คงบ่งชี้ได้ว่า การมีรายได้จากตำแหน่ง ย่อมมีโอกาสมากกว่าผู้ประกอบอาชีพอื่นในสังคมอย่างมหาศาล แต่หากจะคิดคำนวณน้ำหนักในผลงานของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับประเทศ โดยวิเคราะห์ตามคำอธิบายภารงาน (Job Description: JD) ในตำแหน่ง ตามศาสตร์การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HR) ผู้เขียนคิดเห็นว่าประชาชน คงประเมินผลและตัดสินผลงาน ด้วยสายตาเชิงประจักษ์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ว่า รัฐบาลสอบตก

เหตุปัจจัยหนึ่ง ที่ผู้เขียน มีแนวโน้มให้ความเห็นเช่นนี้ เพราะในไตรมาสแรกของปี ผู้นำประเทศและบรรดาแกนนำของพรรคการเมืองทั้งสองขั้วใหญ่ ต่างขวักไขว่ ช่วงชิงโอกาสแก่งแย่งเก้าอี้ในเมืองหลวง เพื่อรักษาผลประโยชน์และฐานอำนาจทางการเมือง โดยเฉพาะฝั่งรัฐบาลที่อาจหลงลืมหน้าที่ของผู้บริหารประเทศ ไปเล่นผิดหน้าที่และผิดบทบาท โดยลงพื้นที่ช่วยผู้แทนพรรคหาเสียงกันอย่างดุดันและเผ็ดร้อน ไม่แพ้การเลือกตั้งทั่วไปทั้งประเทศ และถ้าหากจะตั้งกระทู้ถามว่า ภารกิจการช่วยหาเสียงให้ผู้แทนพรรคชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.เป็นภาระงานในตำแหน่งของผู้บริหารประเทศด้วยหรือไม่ คงจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ คลี่คลายคำตอบนี้

อนึ่ง แม้ว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศ จะรู้สึกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะมีผลกระทบต่อการบริหารประเทศและฐานอำนาจทางการเมืองอยู่จริง แต่ผู้เขียน ยังคิดเห็นต่างไป ว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นี้ มีความไม่ยุติธรรมสำหรับผู้สมัครรายเล็ก ที่มีเพียงแค่ตนเอง เป็นฐานสำหรับการแข่งขันและนำเสนอตัวต่อสาธารณชน แต่จะต้องไปต่อสู้กับผู้รับสมัครรายใหญ่ ที่มีฐานพรรคการเมืองช่วยเหลือ เมื่อลงสนามการต่อสู้ทางการเมือง จึงเสียเปรียบมากถึงมากที่สุด คล้ายว่า เป็นการแข่งขันระหว่างหมู่คณะกับบุคคล นี่จึงเป็นประเด็นให้คนเมืองหลวงได้พินิจและตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม.ของตนว่า จะเลือกผู้ว่าฯ กทม.จากฐานคิดของพรรคการเมือง หรือบุคคล

แม้ผู้เขียน ไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ แต่มีโอกาสได้เห็นการโฆษณาแนวคิด นโยบาย และการนำเสนอตนเองของผู้สมัคร ทั้งในนามพรรคการเมืองและส่วนบุคคล อันดารดาษทางเท้าของเมืองหลวง ซึ่งป้ายหาเสียงเหล่านั้น จะกลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้ยากจนคนทำมาหากิน ผู้มีบ้านเรือนในเมืองกรุง ซึ่งหลังคารั่วหรือฝาบ้านผุพัง โดยนำไปซ่อมแซมให้บ้านเรือนตนเองอยู่ได้ ในขณะที่นักการเมืองผู้มารับสมัครหาเสียงเป็นผู้ว่าฯ กทม.แทบจะไม่ต้องคิดเรื่องทำมาหากินหรือเรื่องซ่อมแซมบ้านที่มีอยู่ในเมืองกรุง นี่จะเป็นภาพความแตกต่างระหว่างผู้มีสิทธิออกเสียงกับผู้เสนอตัวรับใช้ชาวกรุง
กำลังโหลดความคิดเห็น