ร้องผู้ว่าฯ ระยอง ชาวบ้านไม่เห็นด้วย อบจ.เรียกเก็บค่าเหยียบท่าเรือเกาะเสม็ด

ระยอง - อดีต ส.อบจ.ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าฯ หลังอบจ.ประกาศจัดเก็บค่าเหยียบท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด ชี้ชาวบ้านไม่เอาด้วย

วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง นายยานยนต์ อรุณเวสสะเศรษฐ อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ระยอง ตัวแทนผู้ประกอบการเรือโดยสาร เรือเร็ว และเรือบรรทุกสินค้าอุปโภคบริโภค บ้านเพ-เกาะเสม็ด อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด หมู่ 4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัด กรณีองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ประกาศจะเริ่มจัดเก็บค่าบริการท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีนายธาตรี นามะสนธิ ปลัดจังหวัดรับหนังสือแทนนายวิชิตซึ่งติดราชการ พร้อมรับปากว่าจะรีบรายงานให้ผู้ว่าราชกาจังหวัดทราบโดยเร็ว

นายยานยนต์กล่าวว่า สะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดแห่งใหม่ที่ก่อสร้างโดย อบจ.ระยอง เพิ่งเริ่มเปิดใช้เมื่อเร็วๆ นี้ อบจ.ก็ประกาศจัดเก็บค่าเทียบเรือโดยสาร เรือชาวบ้าน เรือบรรทุกสินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่จะเดินทางไปเที่ยวเกาะเสม็ดต้องเสียเงินค่าเหยียบสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดด้วย ซึ่งเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว

“สะพานเก่าที่เคยใช้มากว่า 30 ปีไม่ต้องเสียเงินค่าเทียบเรือ ขณะที่ อบจ.บอกกับชาวเกาะเสม็ดว่าจะก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือแห่งใหม่แทน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเกาะเสม็ด โดยไม่ชี้แจงว่าจะจัดเก็บค่าใช้สะพาน ชาวบ้านจึงไม่คัดค้าน แต่ถ้าบอกก่อนว่าสร้างแล้วจะจัดเก็บค่าเหยียบสะพาน รับรองได้ว่าชาวเกาะเสม็ด รวมทั้งผู้ประกอบการเรือไม่ยอมให้สร้างแน่นอน”

นายยานยนต์กล่าวว่า สำหรับอัตราจัดเก็บต่อครั้ง เช่น เรือโดยสาร 200 บาทต่อครั้ง รายเดือน 1,500 บาท เรือบรรทุกน้ำ 200 บาท รายเดือน 2,000 บาท เรือบรรทุกสินค้าอุปโภคบริโภคขนาด 8 ตัน ครั้งละ 100 บาท รายเดือน 1,000 บาท เรือบรรทุกวัสดุก่อสร้าง 200 บาท รายเดือน 6,000 บาท รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง 20 บาท รายเดือน 300 บาท ซึ่งมีเรือที่ต้องใช้สะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดกว่า 200 ลำ รถจักรยานยนต์และรถยนต์กว่า 200 คัน รวมแล้ว อบจ.จะมีรายได้จากการจัดเก็บปีละประมาณ 3 ล้านบาท

ทั้งนี้ สะพานท่าเทียบเรือแห่งใหม่เริ่มเปิดใช้เพียง 2 เดือน พบว่ายางกันกระแทกเรือบริเวณโคนเสาสะพานหลุดเสียหายหลายจุด หลังคาที่สร้างคลุมสะพานชำรุด ฝนตกหลังคารั่ว ทำให้ชาวเกาะและนักท่องเที่ยวต้องเดินเปียกฝน สร้างความไม่มั่นใจให้ชาวเกาะเกรงว่าสะพานจะพัง จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจให้ชาวเกาะ และนักท่องเที่ยว