ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ป่วนนราฯอีก! โจรใต้วางบึ้มทหารเจ็บ 6 นาย ด้านกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจรถ พร้อมสอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยแนวร่วม 16 ศพพบ 1 ใน 3 เป็นน้องชาย "บูรฮัน เจ๊ะนะ" ที่ถูกวิสามัญ และมีเอี่ยวโจมตีทหาร ระดมกำลังปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายไล่ล่าไม่หยุด ชาวบาเจาะผวา พบแผ่นปลิวมีข้อความป้ายสีการตาย 16 ศพฝีมือฝ่ายรัฐฆ่าผู้บริสุทธิ์ ขู่เอากลับพุ่งเป้าครู-ปชช. "ศอ.บต." ยันไม่มีการจ่าย 7.5 ล้านบาท จับได้อีก 1 มือบึ้มลีการ์เด้นส์ พลาซ่า
เมื่อเวลา 07.30 น.วานนี้ (14 ก.พ.) คนร้ายได้ลอบจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู สังกัด ฉก.นราธิวาส 37 ที่บริเวณหัวสะพานบ้านลาเวง หมู่ 3 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 6 นาย หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.พยุง สานุกูล ผกก.สภ.ศรีสาคร ได้ระดมกำลังไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพบที่บริเวณหัวสะพานมีหลุมระเบิดลึก 2 ฟุต กว้าง 3 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 5 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน
สอบสวน จ.ส.อ.วรวิทย์ ปลั่งดี หัวหน้าชุด ร้อย ร.3111 ฉก.นราธิวาส 37 ซึ่งนำกำลังลูกรวม 6 นาย เดินเท้าออกจากฐานปฏิบัติการณ์ที่บ้านกาดี ต.เชิงคีรี เพื่อลาดตระเวนเส้นทางให้คณะครูในพื้นที่ ต.เชิงคีรี ซึ่งเป็นภารกิจที่จะต้องปฏิบัติเป็นประจำทุกวันที่โรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอน เมื่อเดินเท้าถึงบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบจุดชนวนระเบิดที่วางไว้ริมถนน แต่เนื่องจากรัศมีการทำลายล้างแผ่กระจายไปในพงหญ้ารกทึบข้างทางทำให้ทหารทั้ง 6 นายรอดตายหวุดหวิด
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการตอบโต้ของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ RKK เพื่อแก้แค้นให้กับสมาชิก RKK ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตไป 16 ศพหลังนำกำลังบุกโจมตีฐานปฎิบัติการร้อยปืนเล็กที่ 2 ฉก.นราธิวาส 32 บ้านยือลอ หมู่ 3 ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ก.พ.56 ที่ผ่านมา
**ตรวจรถ-สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัย
วันเดียวกัน พ.ต.อ.จันที แจ่มจันทร์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ 4) กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ได้เดินทางมาตรวจสอบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บฉ 5999 ปัตตานี ที่จอดไว้ที่ สภ.รือเสาะ หลังจากที่ ร.ต.ต.อยุวะ ศิริพรประสิทธิ์ รอง สวป.ปฏิบัติหน้าที่ หน.จราจร สภ.รือเสาะ และพวกรวม 6 นาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่จับกุมได้ที่บริเวณสามแยกหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขา อ.รือเสาะ เขตเทศบาลตำบลรือเสาะ หลังพบว่ารถยนต์กระบะคันดังกล่าวมีชายฉกรรจ์ 3 คน ได้นั่งโดยสารผ่านมา ซึ่งที่บริเวณประตูด้านซ้ายหน้ามีคราบเลือดจำนวนหนึ่งติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน พร้อมรถยนต์กระบะมาสอบสวนในเบื้องต้นที่ สภ.รือเสาะ ซึ่งการตรวจพิสูจน์ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บคราบลายนิ้วมือแฝง ดีเอ็นเอ และคราบเลือดที่ติดอยู่ข้างประตูรถยนต์กระบะไปตรวจสอบตามหลักวิทยาศาสตร์
ผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนประกอบด้วย 1.นายฟาเดร์ เจ๊ะมะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 ม.7 ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นคนขับ 2.นายอาลีย๊ะ ลาเต๊ะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.6 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และ 3.นายมูฮัมหมัดกาดาพี เจ๊ะนะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.4 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงใช้กฎอัยการศึกในการควบคุมตัวไปสอบสวนที่ฐานปฏิบัติการทหารกรมทหารพรานที่ 41 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลาว่าเกี่ยวข้องกับกรณีที่ขับรถยนต์คันดังกล่าวนำผู้ได้รับบาดเจ็บหลบหนีจากเหตุบุกยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหารกองร้อยปืนเล็กที่ 2 อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงคืนวันที่ 13 ก.พ.จนถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ 16 ศพหรือไม่
โดยในเบื้องต้นจากการตรวจประวัตินายมูฮัมหมัดกาดาพี เป็นน้องชายของนายบูรฮัน เจ๊ะนะ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.4 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านตามุง ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส พร้อมยึดอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก แต่ผลการสอบสวนเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผย แต่หากพบว่าไม่เกี่ยวข้อง และพัวพันเจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวก่อนจัดทำประวัติไว้
**ใบปลิวป้ายสี"รัฐฆ่าผู้บริสุทธิ์"ว่อนนราฯ
นอกจากนี้ จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญโจรใต้เสียชีวิต 16 ราย ขณะบุกโจมตีฐานปฏิบัติการกองร้อยปืนเล็กที่ 2 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่บ้านยือลอ ม.3 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์โปรยใบปลิวที่เขียนข้อความภาษาไทยในกระดาษ A4 และสำเนาตระเวนโปรยในพื้นที่ อ.บาเจาะ ซึ่งในข้อความระบุว่า ทารุณ จับกุม ข่มขู่ ยัดเยียด ทรมาน และวิสามัญผู้บริสุทธิ์ ในภาวะขัดขืนการจับกุมด้วยการสร้างภาพ และตีข่าว (การฆ่าผู้บริสุทธิ์ให้ดูดี)
โดยย่อหน้าที่ 2 ได้เขียนข้อความภาษาไทยอีกด้วยว่า วันนี้เราจะไม่นิ่งนอนใจ เราจะทำการตอบโต้ทุกรูปแบบด้วยกำลังความพร้อมทางอาวุธ กำลังทรัพย์ และทุกมวลชน เพื่อทุกความเจ็บปวดทุกหยดเลือด ทุกชีวิต ที่เกิดจากความรุนแรงของรัฐทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นวันนี้ และจากนี้ และลมหายใจที่ประชาชน ครู อาจารย์ ชุมชนไทยพุทธพวกมันเอง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนใช้เส้นทางถนน ชีวิตประจำวัน คุ้มกันอย่างไรก็ตาม เราจะปลิดชีพมัน และทวงคืนทุกชีวิตที่เราสูญเสียไป
อีกทั้ง ในใบปลิวประโยคสุดท้ายยังเขียนข้อความในวงเล็บอีกด้วยว่า หยดเลือดมุสลิมผู้บริสุทธิ์มีค่ามากกว่าไทยพุทธเป็น 10 เท่า ส่งผลทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เกิดความหวาดกลัว และไม่แน่ใจว่าใบปลิวดังกล่าวเป็นของกลุ่มผู้ไม่หวังดีหรือไม่ จึงได้มีการถ่ายข้อความในใบปลิวส่งแชร์กันทางเฟซบุ๊ก เพื่อให้ทุกคนอย่าตั้งอยู่ในความประมาทในการป้องกันเหตุร้ายอาจจะเกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์ต่อไป
**รองโฆษกทบ.เชื่อใบปลิวเป็นของเก่า
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ใบปลิวที่กำลังเผยแพร่อยู่ในขณะนี้ยืนยันว่า มีมาก่อนที่จะเกิดเหตุปะทะระหว่างผู้ก่อการร้ายและเจ้าหน้าที่ ฉก.นราธิวาส 32 เมื่อวันที่ 13 ก.พ.โดยมีการเผยแพร่ออกมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.โดยเนื้อหาของใบปลิวจะเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งเรื่องการจับกุม การยัดเยียดข้อหา การซ้อมทรมาน หรือกล่าวหาว่ามีการวิสามัญผู้บริสุทธิ์ และอ้างว่าทุกอย่างเป็นเพราะความรุนแรงของรัฐ
"ในความเป็นจริง เช่น เรื่องการจับกุมโดยเจ้าหน้าที่รัฐที่ผ่านมาได้ดำเนินการขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายที่สามารถพิสูจน์ได้ในทุกขั้นตอน อีกทั้งยังมีการอำนวยความสะดวกให้ผู้ถูกกล่าวหาในหลายอย่างที่ในหลายประเทศไม่เคยมีมาก่อน ส่วนเรื่องการปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุมตัวในขั้นการสอบสวนก็มีการบันทึกภาพเป็นหลักฐานไว้ในทุกขั้นตอน เพื่อที่จะได้ไม่ถูกนำมาแอบอ้างว่าเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง"
**ปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายล่ากลุ่ม 16 ศพ
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารยังคงปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายเพื่อกดดันไล่ล่าและหาตัวกลุ่มคนร้ายที่โจมตีทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินอย่างต่อเนื่อง โดยยังมั่นใจว่ากลุ่มคนร้ายทั้งหมดจะยังคงไม่หนีออกนอกประเทศอย่างแน่นอน
ส่วนการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 รายเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมานั้นมีหลักฐานค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า ทั้ง 3 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุกลุ่ม 16 ศพที่บุกโจมตีหน่วยทหารนาวิกโยธินที่ อ.บาเจาะ โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุดร้อย ร.3111 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 37 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ก.พ.นั้น เป็นยุทธวิธีการตอบโต้ของกลุ่มคนร้าย
"จะไม่มีการจ่ายเงินเยียวยา 7.5 ล้านบาท ให้ครอบครัวของกลุ่มคนร้าย 16 ศพที่บุกเจ้าโจมตีหน่วยทหารนาวิกโยธินอย่างแน่นอน แต่จะดำเนินการเยียวยาตามหลักมนุษยธรรมเท่านั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารยังคงปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย กดดันหาตัวกลุ่มคนร้ายที่โจมตีทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินอยู่"
**"ศอ.บต."ยันไม่จ่าย 7.5 ล้าน 16 ศพ
ว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ชี้แจงประเด็นการเยียวยาครอบครัวกลุ่มคนร้าย 16 รายที่ถูกวิสามัญหลังเข้าโจมตีฐานหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 32 บ้านยือลอ ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะว่า ความจริงแล้วมีการสั่งการให้เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่มีความเสียหายด้านทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน รถยนต์ หรือสวนยางพารา ซึ่งจะมีการตรวจสอบรายละเอียดกันอีกครั้ง แต่สำหรับกลุ่มผู้เสียชีวิตนั้นทางการจะเน้นย้ำในการเยียวยาฟื้นฟูทางด้านจิตใจ แก่ครอบครัว เพราะบางครอบครัวมีความเดือดร้อนที่ต้องสูญเสียบุคคลในครอบครัวไป ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการ เพราะหากไม่ทำอย่างนี้แล้วจะเกิดกระแสต่อต้าน การกระทำของเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง
แต่อย่างไรก็ตาม ทาง รร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ก็มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงเน้นย้ำให้มีการเร่งเข้าไปดูแลเยียวยาครอบครัว ผู้สูญเสีย ทางด้านจิตใจ แต่มิได้มีการกำชับให้ต้องจ่ายเงินเยียวยา เหมือนกรณีของกรือเซะ หรือตากใบ ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย เพราะประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุชัดเจนอยู่แล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ว่า ทางราชการจะไม่ดำเนินการใดๆ เป็นการซ้ำเติม แต่จะดูแลด้านมนุษยธรรมกับครอบครัวที่ไม่รู้เห็นกับผู้หลงผิด ซึ่งกรณีผู้เสียชีวิตทั้ง 16 รายดังกล่าวไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการเยียวยา แต่ทาง ศอ.บต.จะช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม จะได้ฟื้นฟูความรู้สึกที่ดีกับชาวมุสลิม ที่สำคัญคือ การป้องกันการแก้แค้นกับเป้าหมายที่อ่อนแอ เช่น คนไทยพุทธ พระ ครู และข้าราชการ ซึ่งจากข่าวลือที่ว่าจะมีการเยียวยาจำนวนมาก เหมือนที่กรือเซะ หรือที่ตากใบ ซึ่งไม่เป็นความจริง ขอให้ทำความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย
เช่นเดียวกับนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 16 คนไม่อยู่ในระเบียบที่จะเยียวยาได้ เนื่องจากระบบการเยียวยาเราไม่สามารถช่วยเขาได้ โดยประเด็นที่ไม่เข้าเงื่อนไขการเยียวยา คือ เป็นคนร้ายที่มุ่งเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่
"ผู้ที่เข้าเงื่อนไขเยียวยาคือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรง เช่น ชาวบ้าน หรือเจ้าหน้าที่ที่ถูกคนร้ายทำร้ายก็จะได้รับการเยียวยา แต่กรณีนี้จากพฤติการเป็นลักษณะการเข้ามาโจมตีทหารแล้วทหารป้องกันตัวจนทำให้เกิดการเสียชีวิต ซึ่งมันไม่เข้าข่าย แต่สิ่งที่ทางราชการจะช่วยได้คือการดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตตามสมควร ถ้าครอบครัวของผู้เสียชีวิตเดือดร้อนอะไรเราก็จะเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวเขาตามสมควร เรื่องครอบครัวก็เป็นเรื่องครอบครัวก็ดูแลในฐานะพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอะไร เราก็จะช่วยเหลือ แต่จะให้เป็นรูปแบบเหมือนกับกรณี ตากใบ กรือเซะ หรือสะบ้าย้อยไม่เข้าข่าย"
**"เฉลิม" แจงเยียวยาโจรใต้ไม่ต้องให้เงิน
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเยียวยาให้ครอบครัวกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เสียชีวิต 16 รายจากเหตุการณ์นำกำลังบุกฐานปฏิบัติการกองร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ใน อ.บาเจาะนั้นเป็นอำนาจการพิจารณาของ ศอ.บต.ซึ่งอาจไม่จำเป็นที่จะต้องเยียวยาด้วยตัวเงินเพียงอย่างเดียว
ทางด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เรื่องความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมันมีกลไกกติกาอยู่ แต่ว่าคำว่าเยียวยา อาจจะเข้าใจความหมายแตกต่างกัน ซึ่งการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อทำให้ความรู้สึกดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า กรณีของการเยียวยาจะไปชดใช้เหมือนแบบคนที่ไม่ได้กระทำความผิด โดยการเยียวยามีหลายรูปแบบไม่ใช่เอาเงินไปให้อย่างเดียว
ทั้งนี้ การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้ก่อความไม่สงบที่เสียชีวิตนั้น เป็นเรื่องของหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ ศอ.บต.ซึ่งไม่ได้เป็นการเยียวยาแต่เป็นการช่วยเหลือ ขณะเดียวกันการเยียวยาครอบครัวผู้ก่อความไม่สงบ กับผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมนั้น มีความแตกต่างกัน จึงนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เรื่องนี้เป็นการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และเรื่องนี้สามารถชี้แจงต่อสังคมได้เพราะคนที่อยู่ไม่ได้กระทำความผิด
ส่วนการดูแลความปลอดภัยของครู และนักเรียนในพื้นที่ๆ เกิดเหตุนั้น ในบางจุดที่จะมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการอะไร ก็ต้องให้อำนาจการตัดสินใจของในพื้นที่ เพราะหากมีการเกิดเหตุรุนแรงก็เป็นหน้าที่ๆ จะต้องตัดสินใจ และต้องเข้าใจว่า สถานการณ์เกิดขึ้นรุนแรง ทางพื้นที่จะต้องทำอย่างไร คือไม่เหมือนกับเหตุการณ์ปกติที่เมื่อปิดโรงเรียนแล้วรู้สึกว่ามีผลกระทบกับนักเรียน แต่ในพื้นที่ๆ มีสถานการณ์รุนแรงหากไม่ปิดโรงเรียนก็จะหนักกว่า ซึ่งก็ต้องเห็นใจผู้อำนวยการโรงเรียน และครูด้วย ส่วนกำลังอารักขาโรงเรียนขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนว่า จำเป็นแค่ไหน
**นายกฯชี้ปัญหาไฟใต้เรื่องละเอียดอ่อน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการก่อเหตุรายวันว่า อยากขอความร่วมมือทางสื่อมวลชนว่า จริงๆ ประเด็นภาคใต้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเชื่อว่าไม่มีใครต้องการอยากเห็นการสูญเสียนี้เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม ขอเรียนว่าทุกอย่างเราพยายามทำงานในลักษณะของการป้องกัน ไม่อยากเห็นการเกิดความรุนแรง เสียเลือดเนื้อของใครทั้งนั้น
ส่วนกรณีที่กลุ่มก่อความไม่สงบออกใบปลิวตอบโต้เจ้าหน้าหลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มก่อความไม่สงบบุกฐาน ฉก.นาวิกโยธิน จ.นราธิวาส ทำให้ผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 16 นั้น นายกฯย้ำว่า ไม่อยากให้ใครเป็นแบบนั้นหรอก ตรงนี้ต้องขอความร่วมมือเป็นประเด็นละเอียดอ่อน เพราะการที่กล่าวพูดกันไปมา อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด จึงขอเรียนว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนคงจะต้องพยายามอย่างเต็มที่และระมัดระวังเรื่องต่างๆเหล่านี้ สิ่งที่เราเน้นคือการพัฒนา และป้องกันก่อนเกิดเหตุ ไม่ใช่งานที่ทำกันปลายเหตุ ขณะนี้ทีมงานก็ได้เริ่มทำงานอย่างเต็มที่พร้อมกับการดูแล
**บุกจับมือระเบิดลีการ์เด้นส์ได้อีก 1
เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการณ์ ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.อ.บุญสิน พาดกลาง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 นำกำลังร่วมเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 105/1 ม.6 บ้านลูโบะจาแว ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี หลังสายข่าวรายงานว่า มีผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเข้ามาหลบซ่อนตัวในบ้านหลังดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่ามีผู้ต้องหาตามเป้าหมายอยู่ภายในบ้านจริง จึงได้วางกำลังเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันการปะทะ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เรียกผู้ใหญ่บ้านมาเจรจา กับผู้ต้องหา ประมาณ 10 นาที จนกระทั่งผู้ต้องหายอมที่จะมอบตัว และได้เดินออกมาจากบ้านโดยที่ไม่มีการขัดขืนแต่อย่างใด
จากการสอบสวนทราบชื่อนายอูเซ็ง โต๊ะโย๊ะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.6 ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา ตรวจสอบพบว่ามีหมายจับ ป.วิอาญา 10 หมาย อาทิ 1.คดีลอบวางระเบิดหาดใหญ่ 7 จุด เมื่อปี 2550 2.ร่วมกับพวกเกือบ 20 คน ถล่มฐานปฏิบัติการณ์ทหารพรานทำให้ อส.ทพ.เสียชีวิต 1 นาย เมื่อปี 2554 3.ลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า หาดใหญ่ เมื่อปี 2550 และล่าสุดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ เมื่อปี 2555
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการซัดทอดของนายเจะหมะ วานิ หรือไคโร หรือมาค่อม 1 ในผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.55 ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ ตชด.43 และกำลังตำรวจจากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จับกุมได้เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะกบดานอยู่ที่บ้านเลขที่ 128 ม.5 ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา โดยนายเจะหมะ วานิ ได้ยอมรับสารภาพว่า ร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่าจริง โดยมีผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน คือ นายเสรี แวมามุ นายรุสลัน ใบมะ ที่เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว และแนวร่วมจากจากปัตตานีไม่ทราบชื่ออีก 1 คน
เมื่อเวลา 07.30 น.วานนี้ (14 ก.พ.) คนร้ายได้ลอบจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู สังกัด ฉก.นราธิวาส 37 ที่บริเวณหัวสะพานบ้านลาเวง หมู่ 3 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 6 นาย หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.พยุง สานุกูล ผกก.สภ.ศรีสาคร ได้ระดมกำลังไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพบที่บริเวณหัวสะพานมีหลุมระเบิดลึก 2 ฟุต กว้าง 3 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 5 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน
สอบสวน จ.ส.อ.วรวิทย์ ปลั่งดี หัวหน้าชุด ร้อย ร.3111 ฉก.นราธิวาส 37 ซึ่งนำกำลังลูกรวม 6 นาย เดินเท้าออกจากฐานปฏิบัติการณ์ที่บ้านกาดี ต.เชิงคีรี เพื่อลาดตระเวนเส้นทางให้คณะครูในพื้นที่ ต.เชิงคีรี ซึ่งเป็นภารกิจที่จะต้องปฏิบัติเป็นประจำทุกวันที่โรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอน เมื่อเดินเท้าถึงบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบจุดชนวนระเบิดที่วางไว้ริมถนน แต่เนื่องจากรัศมีการทำลายล้างแผ่กระจายไปในพงหญ้ารกทึบข้างทางทำให้ทหารทั้ง 6 นายรอดตายหวุดหวิด
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการตอบโต้ของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ RKK เพื่อแก้แค้นให้กับสมาชิก RKK ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตไป 16 ศพหลังนำกำลังบุกโจมตีฐานปฎิบัติการร้อยปืนเล็กที่ 2 ฉก.นราธิวาส 32 บ้านยือลอ หมู่ 3 ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ก.พ.56 ที่ผ่านมา
**ตรวจรถ-สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัย
วันเดียวกัน พ.ต.อ.จันที แจ่มจันทร์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ 4) กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ได้เดินทางมาตรวจสอบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บฉ 5999 ปัตตานี ที่จอดไว้ที่ สภ.รือเสาะ หลังจากที่ ร.ต.ต.อยุวะ ศิริพรประสิทธิ์ รอง สวป.ปฏิบัติหน้าที่ หน.จราจร สภ.รือเสาะ และพวกรวม 6 นาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่จับกุมได้ที่บริเวณสามแยกหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขา อ.รือเสาะ เขตเทศบาลตำบลรือเสาะ หลังพบว่ารถยนต์กระบะคันดังกล่าวมีชายฉกรรจ์ 3 คน ได้นั่งโดยสารผ่านมา ซึ่งที่บริเวณประตูด้านซ้ายหน้ามีคราบเลือดจำนวนหนึ่งติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน พร้อมรถยนต์กระบะมาสอบสวนในเบื้องต้นที่ สภ.รือเสาะ ซึ่งการตรวจพิสูจน์ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บคราบลายนิ้วมือแฝง ดีเอ็นเอ และคราบเลือดที่ติดอยู่ข้างประตูรถยนต์กระบะไปตรวจสอบตามหลักวิทยาศาสตร์
ผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนประกอบด้วย 1.นายฟาเดร์ เจ๊ะมะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 ม.7 ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นคนขับ 2.นายอาลีย๊ะ ลาเต๊ะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.6 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และ 3.นายมูฮัมหมัดกาดาพี เจ๊ะนะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.4 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงใช้กฎอัยการศึกในการควบคุมตัวไปสอบสวนที่ฐานปฏิบัติการทหารกรมทหารพรานที่ 41 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลาว่าเกี่ยวข้องกับกรณีที่ขับรถยนต์คันดังกล่าวนำผู้ได้รับบาดเจ็บหลบหนีจากเหตุบุกยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหารกองร้อยปืนเล็กที่ 2 อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงคืนวันที่ 13 ก.พ.จนถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ 16 ศพหรือไม่
โดยในเบื้องต้นจากการตรวจประวัตินายมูฮัมหมัดกาดาพี เป็นน้องชายของนายบูรฮัน เจ๊ะนะ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.4 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านตามุง ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส พร้อมยึดอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก แต่ผลการสอบสวนเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผย แต่หากพบว่าไม่เกี่ยวข้อง และพัวพันเจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวก่อนจัดทำประวัติไว้
**ใบปลิวป้ายสี"รัฐฆ่าผู้บริสุทธิ์"ว่อนนราฯ
นอกจากนี้ จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญโจรใต้เสียชีวิต 16 ราย ขณะบุกโจมตีฐานปฏิบัติการกองร้อยปืนเล็กที่ 2 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่บ้านยือลอ ม.3 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์โปรยใบปลิวที่เขียนข้อความภาษาไทยในกระดาษ A4 และสำเนาตระเวนโปรยในพื้นที่ อ.บาเจาะ ซึ่งในข้อความระบุว่า ทารุณ จับกุม ข่มขู่ ยัดเยียด ทรมาน และวิสามัญผู้บริสุทธิ์ ในภาวะขัดขืนการจับกุมด้วยการสร้างภาพ และตีข่าว (การฆ่าผู้บริสุทธิ์ให้ดูดี)
โดยย่อหน้าที่ 2 ได้เขียนข้อความภาษาไทยอีกด้วยว่า วันนี้เราจะไม่นิ่งนอนใจ เราจะทำการตอบโต้ทุกรูปแบบด้วยกำลังความพร้อมทางอาวุธ กำลังทรัพย์ และทุกมวลชน เพื่อทุกความเจ็บปวดทุกหยดเลือด ทุกชีวิต ที่เกิดจากความรุนแรงของรัฐทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นวันนี้ และจากนี้ และลมหายใจที่ประชาชน ครู อาจารย์ ชุมชนไทยพุทธพวกมันเอง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนใช้เส้นทางถนน ชีวิตประจำวัน คุ้มกันอย่างไรก็ตาม เราจะปลิดชีพมัน และทวงคืนทุกชีวิตที่เราสูญเสียไป
อีกทั้ง ในใบปลิวประโยคสุดท้ายยังเขียนข้อความในวงเล็บอีกด้วยว่า หยดเลือดมุสลิมผู้บริสุทธิ์มีค่ามากกว่าไทยพุทธเป็น 10 เท่า ส่งผลทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เกิดความหวาดกลัว และไม่แน่ใจว่าใบปลิวดังกล่าวเป็นของกลุ่มผู้ไม่หวังดีหรือไม่ จึงได้มีการถ่ายข้อความในใบปลิวส่งแชร์กันทางเฟซบุ๊ก เพื่อให้ทุกคนอย่าตั้งอยู่ในความประมาทในการป้องกันเหตุร้ายอาจจะเกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์ต่อไป
**รองโฆษกทบ.เชื่อใบปลิวเป็นของเก่า
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ใบปลิวที่กำลังเผยแพร่อยู่ในขณะนี้ยืนยันว่า มีมาก่อนที่จะเกิดเหตุปะทะระหว่างผู้ก่อการร้ายและเจ้าหน้าที่ ฉก.นราธิวาส 32 เมื่อวันที่ 13 ก.พ.โดยมีการเผยแพร่ออกมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.โดยเนื้อหาของใบปลิวจะเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งเรื่องการจับกุม การยัดเยียดข้อหา การซ้อมทรมาน หรือกล่าวหาว่ามีการวิสามัญผู้บริสุทธิ์ และอ้างว่าทุกอย่างเป็นเพราะความรุนแรงของรัฐ
"ในความเป็นจริง เช่น เรื่องการจับกุมโดยเจ้าหน้าที่รัฐที่ผ่านมาได้ดำเนินการขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายที่สามารถพิสูจน์ได้ในทุกขั้นตอน อีกทั้งยังมีการอำนวยความสะดวกให้ผู้ถูกกล่าวหาในหลายอย่างที่ในหลายประเทศไม่เคยมีมาก่อน ส่วนเรื่องการปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุมตัวในขั้นการสอบสวนก็มีการบันทึกภาพเป็นหลักฐานไว้ในทุกขั้นตอน เพื่อที่จะได้ไม่ถูกนำมาแอบอ้างว่าเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง"
**ปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายล่ากลุ่ม 16 ศพ
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารยังคงปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายเพื่อกดดันไล่ล่าและหาตัวกลุ่มคนร้ายที่โจมตีทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินอย่างต่อเนื่อง โดยยังมั่นใจว่ากลุ่มคนร้ายทั้งหมดจะยังคงไม่หนีออกนอกประเทศอย่างแน่นอน
ส่วนการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 รายเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมานั้นมีหลักฐานค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า ทั้ง 3 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุกลุ่ม 16 ศพที่บุกโจมตีหน่วยทหารนาวิกโยธินที่ อ.บาเจาะ โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุดร้อย ร.3111 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 37 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ก.พ.นั้น เป็นยุทธวิธีการตอบโต้ของกลุ่มคนร้าย
"จะไม่มีการจ่ายเงินเยียวยา 7.5 ล้านบาท ให้ครอบครัวของกลุ่มคนร้าย 16 ศพที่บุกเจ้าโจมตีหน่วยทหารนาวิกโยธินอย่างแน่นอน แต่จะดำเนินการเยียวยาตามหลักมนุษยธรรมเท่านั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารยังคงปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย กดดันหาตัวกลุ่มคนร้ายที่โจมตีทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินอยู่"
**"ศอ.บต."ยันไม่จ่าย 7.5 ล้าน 16 ศพ
ว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ชี้แจงประเด็นการเยียวยาครอบครัวกลุ่มคนร้าย 16 รายที่ถูกวิสามัญหลังเข้าโจมตีฐานหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 32 บ้านยือลอ ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะว่า ความจริงแล้วมีการสั่งการให้เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่มีความเสียหายด้านทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน รถยนต์ หรือสวนยางพารา ซึ่งจะมีการตรวจสอบรายละเอียดกันอีกครั้ง แต่สำหรับกลุ่มผู้เสียชีวิตนั้นทางการจะเน้นย้ำในการเยียวยาฟื้นฟูทางด้านจิตใจ แก่ครอบครัว เพราะบางครอบครัวมีความเดือดร้อนที่ต้องสูญเสียบุคคลในครอบครัวไป ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการ เพราะหากไม่ทำอย่างนี้แล้วจะเกิดกระแสต่อต้าน การกระทำของเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง
แต่อย่างไรก็ตาม ทาง รร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ก็มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงเน้นย้ำให้มีการเร่งเข้าไปดูแลเยียวยาครอบครัว ผู้สูญเสีย ทางด้านจิตใจ แต่มิได้มีการกำชับให้ต้องจ่ายเงินเยียวยา เหมือนกรณีของกรือเซะ หรือตากใบ ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย เพราะประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุชัดเจนอยู่แล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ว่า ทางราชการจะไม่ดำเนินการใดๆ เป็นการซ้ำเติม แต่จะดูแลด้านมนุษยธรรมกับครอบครัวที่ไม่รู้เห็นกับผู้หลงผิด ซึ่งกรณีผู้เสียชีวิตทั้ง 16 รายดังกล่าวไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการเยียวยา แต่ทาง ศอ.บต.จะช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม จะได้ฟื้นฟูความรู้สึกที่ดีกับชาวมุสลิม ที่สำคัญคือ การป้องกันการแก้แค้นกับเป้าหมายที่อ่อนแอ เช่น คนไทยพุทธ พระ ครู และข้าราชการ ซึ่งจากข่าวลือที่ว่าจะมีการเยียวยาจำนวนมาก เหมือนที่กรือเซะ หรือที่ตากใบ ซึ่งไม่เป็นความจริง ขอให้ทำความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย
เช่นเดียวกับนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 16 คนไม่อยู่ในระเบียบที่จะเยียวยาได้ เนื่องจากระบบการเยียวยาเราไม่สามารถช่วยเขาได้ โดยประเด็นที่ไม่เข้าเงื่อนไขการเยียวยา คือ เป็นคนร้ายที่มุ่งเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่
"ผู้ที่เข้าเงื่อนไขเยียวยาคือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรง เช่น ชาวบ้าน หรือเจ้าหน้าที่ที่ถูกคนร้ายทำร้ายก็จะได้รับการเยียวยา แต่กรณีนี้จากพฤติการเป็นลักษณะการเข้ามาโจมตีทหารแล้วทหารป้องกันตัวจนทำให้เกิดการเสียชีวิต ซึ่งมันไม่เข้าข่าย แต่สิ่งที่ทางราชการจะช่วยได้คือการดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตตามสมควร ถ้าครอบครัวของผู้เสียชีวิตเดือดร้อนอะไรเราก็จะเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวเขาตามสมควร เรื่องครอบครัวก็เป็นเรื่องครอบครัวก็ดูแลในฐานะพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอะไร เราก็จะช่วยเหลือ แต่จะให้เป็นรูปแบบเหมือนกับกรณี ตากใบ กรือเซะ หรือสะบ้าย้อยไม่เข้าข่าย"
**"เฉลิม" แจงเยียวยาโจรใต้ไม่ต้องให้เงิน
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเยียวยาให้ครอบครัวกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เสียชีวิต 16 รายจากเหตุการณ์นำกำลังบุกฐานปฏิบัติการกองร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ใน อ.บาเจาะนั้นเป็นอำนาจการพิจารณาของ ศอ.บต.ซึ่งอาจไม่จำเป็นที่จะต้องเยียวยาด้วยตัวเงินเพียงอย่างเดียว
ทางด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เรื่องความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมันมีกลไกกติกาอยู่ แต่ว่าคำว่าเยียวยา อาจจะเข้าใจความหมายแตกต่างกัน ซึ่งการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อทำให้ความรู้สึกดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า กรณีของการเยียวยาจะไปชดใช้เหมือนแบบคนที่ไม่ได้กระทำความผิด โดยการเยียวยามีหลายรูปแบบไม่ใช่เอาเงินไปให้อย่างเดียว
ทั้งนี้ การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้ก่อความไม่สงบที่เสียชีวิตนั้น เป็นเรื่องของหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ ศอ.บต.ซึ่งไม่ได้เป็นการเยียวยาแต่เป็นการช่วยเหลือ ขณะเดียวกันการเยียวยาครอบครัวผู้ก่อความไม่สงบ กับผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมนั้น มีความแตกต่างกัน จึงนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เรื่องนี้เป็นการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และเรื่องนี้สามารถชี้แจงต่อสังคมได้เพราะคนที่อยู่ไม่ได้กระทำความผิด
ส่วนการดูแลความปลอดภัยของครู และนักเรียนในพื้นที่ๆ เกิดเหตุนั้น ในบางจุดที่จะมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการอะไร ก็ต้องให้อำนาจการตัดสินใจของในพื้นที่ เพราะหากมีการเกิดเหตุรุนแรงก็เป็นหน้าที่ๆ จะต้องตัดสินใจ และต้องเข้าใจว่า สถานการณ์เกิดขึ้นรุนแรง ทางพื้นที่จะต้องทำอย่างไร คือไม่เหมือนกับเหตุการณ์ปกติที่เมื่อปิดโรงเรียนแล้วรู้สึกว่ามีผลกระทบกับนักเรียน แต่ในพื้นที่ๆ มีสถานการณ์รุนแรงหากไม่ปิดโรงเรียนก็จะหนักกว่า ซึ่งก็ต้องเห็นใจผู้อำนวยการโรงเรียน และครูด้วย ส่วนกำลังอารักขาโรงเรียนขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนว่า จำเป็นแค่ไหน
**นายกฯชี้ปัญหาไฟใต้เรื่องละเอียดอ่อน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการก่อเหตุรายวันว่า อยากขอความร่วมมือทางสื่อมวลชนว่า จริงๆ ประเด็นภาคใต้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเชื่อว่าไม่มีใครต้องการอยากเห็นการสูญเสียนี้เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม ขอเรียนว่าทุกอย่างเราพยายามทำงานในลักษณะของการป้องกัน ไม่อยากเห็นการเกิดความรุนแรง เสียเลือดเนื้อของใครทั้งนั้น
ส่วนกรณีที่กลุ่มก่อความไม่สงบออกใบปลิวตอบโต้เจ้าหน้าหลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มก่อความไม่สงบบุกฐาน ฉก.นาวิกโยธิน จ.นราธิวาส ทำให้ผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 16 นั้น นายกฯย้ำว่า ไม่อยากให้ใครเป็นแบบนั้นหรอก ตรงนี้ต้องขอความร่วมมือเป็นประเด็นละเอียดอ่อน เพราะการที่กล่าวพูดกันไปมา อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด จึงขอเรียนว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนคงจะต้องพยายามอย่างเต็มที่และระมัดระวังเรื่องต่างๆเหล่านี้ สิ่งที่เราเน้นคือการพัฒนา และป้องกันก่อนเกิดเหตุ ไม่ใช่งานที่ทำกันปลายเหตุ ขณะนี้ทีมงานก็ได้เริ่มทำงานอย่างเต็มที่พร้อมกับการดูแล
**บุกจับมือระเบิดลีการ์เด้นส์ได้อีก 1
เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการณ์ ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.อ.บุญสิน พาดกลาง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 นำกำลังร่วมเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 105/1 ม.6 บ้านลูโบะจาแว ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี หลังสายข่าวรายงานว่า มีผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเข้ามาหลบซ่อนตัวในบ้านหลังดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่ามีผู้ต้องหาตามเป้าหมายอยู่ภายในบ้านจริง จึงได้วางกำลังเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันการปะทะ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เรียกผู้ใหญ่บ้านมาเจรจา กับผู้ต้องหา ประมาณ 10 นาที จนกระทั่งผู้ต้องหายอมที่จะมอบตัว และได้เดินออกมาจากบ้านโดยที่ไม่มีการขัดขืนแต่อย่างใด
จากการสอบสวนทราบชื่อนายอูเซ็ง โต๊ะโย๊ะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.6 ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา ตรวจสอบพบว่ามีหมายจับ ป.วิอาญา 10 หมาย อาทิ 1.คดีลอบวางระเบิดหาดใหญ่ 7 จุด เมื่อปี 2550 2.ร่วมกับพวกเกือบ 20 คน ถล่มฐานปฏิบัติการณ์ทหารพรานทำให้ อส.ทพ.เสียชีวิต 1 นาย เมื่อปี 2554 3.ลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า หาดใหญ่ เมื่อปี 2550 และล่าสุดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ เมื่อปี 2555
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการซัดทอดของนายเจะหมะ วานิ หรือไคโร หรือมาค่อม 1 ในผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.55 ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ ตชด.43 และกำลังตำรวจจากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จับกุมได้เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะกบดานอยู่ที่บ้านเลขที่ 128 ม.5 ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา โดยนายเจะหมะ วานิ ได้ยอมรับสารภาพว่า ร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่าจริง โดยมีผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน คือ นายเสรี แวมามุ นายรุสลัน ใบมะ ที่เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว และแนวร่วมจากจากปัตตานีไม่ทราบชื่ออีก 1 คน