นครศรีธรรมราช - ญาติแห่ศพ "พลทหารพีรยุทธ์ เอียดจุ้ย" นาวิกโยธินที่เสียชีวิตในนราธิวาสมาประท้วงขอความเป็นธรรมหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังผลชันสูตร รพ.มอ.ชี้ชัดว่าไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตาย พร้อมจวกผู้บังคับบัญชาของผู้ตายมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงรับผิดชอบ
ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (14 ก.พ.56) นายอุดร และนางประคอง เอียดจุ้ย บิดาและมารดา รวมทั้งครอบครัวกว่า 30 คนได้นำศพของพลทหารพีรยุทธ์ เอียดจุ้ย ทหารนาวิกโยธิน สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ กองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช โดยศพถูกบรรจุมาในหีบศพคลุมด้วยธงชาติ และมีภาพพลทหารพีรยุทธ์ ในชุดเครื่องแบบทหารราชวัลลภ บรรทุกท้ายรถยนต์กระบะตระเวนไปทั่วตัวเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนมาตั้งบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากพลทหารพีรยุทธ์ เอียดจุ้ย ได้เสียชีวิตเนื่องจากถูกยิงด้วยอาวุธปืน เมื่อวันที่ 17 ม.ค.56 เวลาประมาณ 15.00 น.ที่บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านเปล ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยมีการสรุปในเบื้องต้นว่า พลทหารพีรยุทธ์ เสียชีวิตเนื่องจากสาเหตุฆ่าตัวตาย
หลังจากที่นำศพมาตั้งไว้ที่หน้าศาลากลางแล้วได้มีการปราศรัยโดยกลุ่มญาติ ถึงการเสียชีวิตที่มีความผิดปกติ และผิดวิสัยของการฆ่าตัวตายโดยใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ที่จะสามารถนำปืนเอ็มไปจ่อยิงศีรษะตนเองมาจากกลางศีรษะและวิถีกระสุนทะลุมาอยู่ใต้คาง รวมทั้งสภาพบาดแผลกลางศีรษะที่มีขนาดเล็ก แต่แผลออกใต้คางกลับมีขนาดใหญ่มากสอดคล้องกับอานุภาพของอาวุธปืนเอ็ม 16 แต่หากยิงตัวเองจากใต้คางแผลใต้คางต้องมีขนาดเล็ก และบนศีรษะ ที่เป็นแผลออกนั้นต้องกระจายแน่ ขณะเดียวกันยังกล่าวถึงผู้บังคับบัญชาของผู้ตายที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับญาติของผู้ตายในวันไปรับศพหลายประการ
ขณะที่นายอุดร และนางประคอง บิดาและมารดาของพลทหารพีรยุทธ์ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม กองทัพเรือโดยผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพภาคที่ 4 เพื่อเรียกร้องถึงความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน เนื่องจากมั่นใจว่าพลทหารเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เมื่อ 17 ม.ค.56 ในภารกิจสำคัญ แต่กลับถูกสรุปว่าพลทหารพีรยุทธ์ ฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 อย่างไม่เป็นธรรม และขัดกับรายงานการชันสูตรของแพทย์นิติเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อย่างชัดเจน
โดยการร้องเรียนขอความเป็นธรรมได้มี พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.นครศรีธรรมราช (รองผู้ว่าราชการจังหวัดฝ่ายทหาร) มารับหนังสือโดยพบว่าญาติพลทหารพีรยุทธ์ ได้แนบรายงานการชันสูตรของหน่วยนิติเวชศาสตร์และพิษวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งผ่าชันสูตรศพ โดย นพ.วิธู พฤกษนันท์ ได้สรุปบาดแผลของพลทหารพีรยุทธ์ ตามรายงานการชันสูตรที่ น56016 ลงวันที่ 1 ก.พ.56 ว่า “มีบาดแผลถูกยิงเข้ากลางศีรษะเป็นรูปดาว 6 แฉก พบเขม่าดินปืนจำนวนมากอยู่ด้านในศีรษะใต้ต่อบาดแผลกระสุนปืน และบริเวณรอยแตกของกะโหลกศีรษะ กระสุนปืนทะลุสมองซีกซ้าย ทะลุฐานกะโหลกศีรษะซีกซ้าย บริเวณเหนือช่องไขสันหลังเล้กน้อย ทะลุโพรงอากาศฟีนอยด์ ถากกระดุกขากรรไกรบนและล่าง แล้วทะลุออกบริเวณใต้คาง บาดแผลกระสุนปืนทางออกมีขนาด 4.0 คูณ 2.5 ซม. ไม่พบหัวกระสุนปืน วิถีกระสุนปืนถูกยิงจากบนลงล่าง และหลังมาหน้าเล้กน้อย ระยะยิงถูกยิงระยะประชิดติดผิวหนัง” รายงานการชันสูตรระบุ
โดยรายงานการชันสูตรฉบับนี้ จึงทำให้ญาติปักใจเชื่อว่าไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตายเนื่องจากผิดวิสัยหากใช้อาวุธปืนเอ็ม16 ซึ่งเป็นปืนยาวนั้นจะไม่สามารถยิงตัวเองได้นอกจากมีคนที่มาลอบยิงเท่านั้น จึงขัดกับการสรุปของพนักงานสอบสวนและผู้บังคับบัญชาของผู้ตาย โดยมีข้อเรียกร้องให้ ทางการจัดการงานศพขอพระราชทานเพลิงศพไปตามประเพณีสมเกียรติกับผู้ตาย ดูแลครอบครัวและบุพการีเช่นเดียวกับผู้อื่น และดูแลเยียวยาตามความเป็นจริงเท่านั้น
ขณะที่ พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.นครศรีธรรมราช รับว่า จะนำเรื่องนี้เข้าประสานกับแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อสั่งการให้มีการตรวจสอบพร้อมกันนั้นจะเร่งส่งหนังสือร้องเรียนตามความประสงค์ของครอบครัวของพลทหารธีรยุทธ์ ไปยังแต่ละหน่วยงานอย่างเร่งด่วน
ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (14 ก.พ.56) นายอุดร และนางประคอง เอียดจุ้ย บิดาและมารดา รวมทั้งครอบครัวกว่า 30 คนได้นำศพของพลทหารพีรยุทธ์ เอียดจุ้ย ทหารนาวิกโยธิน สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ กองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช โดยศพถูกบรรจุมาในหีบศพคลุมด้วยธงชาติ และมีภาพพลทหารพีรยุทธ์ ในชุดเครื่องแบบทหารราชวัลลภ บรรทุกท้ายรถยนต์กระบะตระเวนไปทั่วตัวเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนมาตั้งบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากพลทหารพีรยุทธ์ เอียดจุ้ย ได้เสียชีวิตเนื่องจากถูกยิงด้วยอาวุธปืน เมื่อวันที่ 17 ม.ค.56 เวลาประมาณ 15.00 น.ที่บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านเปล ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยมีการสรุปในเบื้องต้นว่า พลทหารพีรยุทธ์ เสียชีวิตเนื่องจากสาเหตุฆ่าตัวตาย
หลังจากที่นำศพมาตั้งไว้ที่หน้าศาลากลางแล้วได้มีการปราศรัยโดยกลุ่มญาติ ถึงการเสียชีวิตที่มีความผิดปกติ และผิดวิสัยของการฆ่าตัวตายโดยใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ที่จะสามารถนำปืนเอ็มไปจ่อยิงศีรษะตนเองมาจากกลางศีรษะและวิถีกระสุนทะลุมาอยู่ใต้คาง รวมทั้งสภาพบาดแผลกลางศีรษะที่มีขนาดเล็ก แต่แผลออกใต้คางกลับมีขนาดใหญ่มากสอดคล้องกับอานุภาพของอาวุธปืนเอ็ม 16 แต่หากยิงตัวเองจากใต้คางแผลใต้คางต้องมีขนาดเล็ก และบนศีรษะ ที่เป็นแผลออกนั้นต้องกระจายแน่ ขณะเดียวกันยังกล่าวถึงผู้บังคับบัญชาของผู้ตายที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับญาติของผู้ตายในวันไปรับศพหลายประการ
ขณะที่นายอุดร และนางประคอง บิดาและมารดาของพลทหารพีรยุทธ์ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม กองทัพเรือโดยผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพภาคที่ 4 เพื่อเรียกร้องถึงความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน เนื่องจากมั่นใจว่าพลทหารเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เมื่อ 17 ม.ค.56 ในภารกิจสำคัญ แต่กลับถูกสรุปว่าพลทหารพีรยุทธ์ ฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 อย่างไม่เป็นธรรม และขัดกับรายงานการชันสูตรของแพทย์นิติเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อย่างชัดเจน
โดยการร้องเรียนขอความเป็นธรรมได้มี พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.นครศรีธรรมราช (รองผู้ว่าราชการจังหวัดฝ่ายทหาร) มารับหนังสือโดยพบว่าญาติพลทหารพีรยุทธ์ ได้แนบรายงานการชันสูตรของหน่วยนิติเวชศาสตร์และพิษวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งผ่าชันสูตรศพ โดย นพ.วิธู พฤกษนันท์ ได้สรุปบาดแผลของพลทหารพีรยุทธ์ ตามรายงานการชันสูตรที่ น56016 ลงวันที่ 1 ก.พ.56 ว่า “มีบาดแผลถูกยิงเข้ากลางศีรษะเป็นรูปดาว 6 แฉก พบเขม่าดินปืนจำนวนมากอยู่ด้านในศีรษะใต้ต่อบาดแผลกระสุนปืน และบริเวณรอยแตกของกะโหลกศีรษะ กระสุนปืนทะลุสมองซีกซ้าย ทะลุฐานกะโหลกศีรษะซีกซ้าย บริเวณเหนือช่องไขสันหลังเล้กน้อย ทะลุโพรงอากาศฟีนอยด์ ถากกระดุกขากรรไกรบนและล่าง แล้วทะลุออกบริเวณใต้คาง บาดแผลกระสุนปืนทางออกมีขนาด 4.0 คูณ 2.5 ซม. ไม่พบหัวกระสุนปืน วิถีกระสุนปืนถูกยิงจากบนลงล่าง และหลังมาหน้าเล้กน้อย ระยะยิงถูกยิงระยะประชิดติดผิวหนัง” รายงานการชันสูตรระบุ
โดยรายงานการชันสูตรฉบับนี้ จึงทำให้ญาติปักใจเชื่อว่าไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตายเนื่องจากผิดวิสัยหากใช้อาวุธปืนเอ็ม16 ซึ่งเป็นปืนยาวนั้นจะไม่สามารถยิงตัวเองได้นอกจากมีคนที่มาลอบยิงเท่านั้น จึงขัดกับการสรุปของพนักงานสอบสวนและผู้บังคับบัญชาของผู้ตาย โดยมีข้อเรียกร้องให้ ทางการจัดการงานศพขอพระราชทานเพลิงศพไปตามประเพณีสมเกียรติกับผู้ตาย ดูแลครอบครัวและบุพการีเช่นเดียวกับผู้อื่น และดูแลเยียวยาตามความเป็นจริงเท่านั้น
ขณะที่ พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.นครศรีธรรมราช รับว่า จะนำเรื่องนี้เข้าประสานกับแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อสั่งการให้มีการตรวจสอบพร้อมกันนั้นจะเร่งส่งหนังสือร้องเรียนตามความประสงค์ของครอบครัวของพลทหารธีรยุทธ์ ไปยังแต่ละหน่วยงานอย่างเร่งด่วน