เมื่อวานนี้ (14ก.พ.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาศึกษาเกี่ยวกับงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ที่จัดสรรให้กับหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อใช้ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้มีการเชิญเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง แต่ส่วนใหญ่ทำหนังสือชี้แจงว่า ติดภารกิจ ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ แต่มีการส่งตัวแทนเข้าร่วมแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหารือส่วนใหญ่เป็นไปในลักษณะการอภิปรายในภาพกว้าง เน้นการชี้แจงขอบข่ายงาน ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในภาคใต้ 2 ส่วน คือ ส่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนาวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อลงไปแก้ปัญหาในส่วนนี้ โดยงบประมาณดังกล่าวมีการติดตามการดำเนินการให้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนและมีการตรวจสอบอย่างเป็นระบบ
พล.ต.พีรพล วิริยากุล รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวชี้แจงแนวทางการเสนอของบประมาณปี 2557 ว่า ได้ยึดตามวัตถุประสงค์รัฐบาล โดยวางแนวทางใน 6 กลุ่มงานหลัก คือ การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนและสร้างความเข้าใจ การอำนวยความยุติธรรม การพัฒนาคุณภาพชีวิตและโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อการแสวงหาทางออก การพัฒนาการศึกษา
ทั้งนี้ งบประมาณที่ใช้ในส่วนของกอ.รมน. ในปี 57 มีทั้งสิ้น 3,974.7 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 8โครงการ คือ 1.โครงการบูรณาการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 1,335.5 ล้านบาท 2.โครงการดำเนินการด้านการข่าว 321 ล้านบาท
3.โครงการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชนและการเสริมสร้างความเข้าใจ 276.6 ล้าบาท 4.โครงการสนับสนุนการอำนวยการยุติธรรม19.2 ล้านบาท 5.โครงการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 74.5 ล้านบาท 6.โครงการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน 74.5 ล้านบาท 7.โครงการพัฒนาการศึกษา 123 ล้านบาท 8. โครงการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ปัญหา จชต. 404.9 ล้านบาท
ด้านพล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ที่ปรึกษากรรมาธิการ กล่าวว่า อยากเสนอให้ทุกหน่วยงานกลับไปพิจารณาให้มีการตัดงบประมาณที่ซ้ำซ้อน อาทิ งบประมาณด้านการจัดสัมมนา งบประมาณด้านการข่าว ที่หลายหน่วยงานตั้งงบไว้ โดยควรจะเอาเงินในส่วนนี้ไปเจาะจงในการทำโครงการในระดับพื้นที่ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง เพราะงานในระดับพื้นที่สำคัญมาก เห็นได้จากเหตุกรณีทหารนาวิกโยธินที่ปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งประสบความสำเร็จจากงานด้านการข่าว และความคุ้นเคยกับมวลชนในพื้นที่
พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเล่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกมธ. กล่าวว่า เมื่อดูจากงบการข่าวแล้วจำนวน 1,657 ล้านบาท ถือว่า มาก ที่จะใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งไม่รวมกับหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ไม่รวมตำรวจสันติบาลอีกต่างๆ รวมแล้วประมาณ 2-3พันล้าน งบการข่าวมีความสำคัญก็จริง แต่ต้องพิจารณาว่าเงินที่เสียไปคุ้มค่ากับผลที่ได้รับหรือไม่ จึงอยากให้มีการพัฒนางบการข่าวอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหารือส่วนใหญ่เป็นไปในลักษณะการอภิปรายในภาพกว้าง เน้นการชี้แจงขอบข่ายงาน ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในภาคใต้ 2 ส่วน คือ ส่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนาวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อลงไปแก้ปัญหาในส่วนนี้ โดยงบประมาณดังกล่าวมีการติดตามการดำเนินการให้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนและมีการตรวจสอบอย่างเป็นระบบ
พล.ต.พีรพล วิริยากุล รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวชี้แจงแนวทางการเสนอของบประมาณปี 2557 ว่า ได้ยึดตามวัตถุประสงค์รัฐบาล โดยวางแนวทางใน 6 กลุ่มงานหลัก คือ การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนและสร้างความเข้าใจ การอำนวยความยุติธรรม การพัฒนาคุณภาพชีวิตและโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อการแสวงหาทางออก การพัฒนาการศึกษา
ทั้งนี้ งบประมาณที่ใช้ในส่วนของกอ.รมน. ในปี 57 มีทั้งสิ้น 3,974.7 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 8โครงการ คือ 1.โครงการบูรณาการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 1,335.5 ล้านบาท 2.โครงการดำเนินการด้านการข่าว 321 ล้านบาท
3.โครงการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชนและการเสริมสร้างความเข้าใจ 276.6 ล้าบาท 4.โครงการสนับสนุนการอำนวยการยุติธรรม19.2 ล้านบาท 5.โครงการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 74.5 ล้านบาท 6.โครงการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน 74.5 ล้านบาท 7.โครงการพัฒนาการศึกษา 123 ล้านบาท 8. โครงการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ปัญหา จชต. 404.9 ล้านบาท
ด้านพล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ที่ปรึกษากรรมาธิการ กล่าวว่า อยากเสนอให้ทุกหน่วยงานกลับไปพิจารณาให้มีการตัดงบประมาณที่ซ้ำซ้อน อาทิ งบประมาณด้านการจัดสัมมนา งบประมาณด้านการข่าว ที่หลายหน่วยงานตั้งงบไว้ โดยควรจะเอาเงินในส่วนนี้ไปเจาะจงในการทำโครงการในระดับพื้นที่ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง เพราะงานในระดับพื้นที่สำคัญมาก เห็นได้จากเหตุกรณีทหารนาวิกโยธินที่ปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งประสบความสำเร็จจากงานด้านการข่าว และความคุ้นเคยกับมวลชนในพื้นที่
พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเล่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกมธ. กล่าวว่า เมื่อดูจากงบการข่าวแล้วจำนวน 1,657 ล้านบาท ถือว่า มาก ที่จะใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งไม่รวมกับหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ไม่รวมตำรวจสันติบาลอีกต่างๆ รวมแล้วประมาณ 2-3พันล้าน งบการข่าวมีความสำคัญก็จริง แต่ต้องพิจารณาว่าเงินที่เสียไปคุ้มค่ากับผลที่ได้รับหรือไม่ จึงอยากให้มีการพัฒนางบการข่าวอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด