ASTVผู้จัดการรายวัน - ระบุอานิงส์น้ำท่วมคนแห่ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย อสังหาฯแห่ผุดใหม่คอนโดใหม่ดันตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ปี55โต10-15% ต่อปี ชี้ตลาดเฟอร์นิเจอร์ยังขาขึ้น เชื่ออนาคตเติบโตต่อเนื่องหลังปัจจัยบวกฐานรายได้ประชากรขยับขึ้น เครื่องมือทางการเงินเข้าถึงผู้ซื้อบ้าน ส่งผลคนตัดสินใจซื้อบ้านเร็วขึ้น คาดปี56ตลาดรวมโตทรงตัวเท่าปีก่อนหน้า ด้านชิคเผยลงทุนขยายสาขาใหม่พัทยาใต้ รองรับความต้องการลูกค้า พัทยา ชลบุรี สัตหีบ สีราชา ระยอง มั่นใจดันรายได้ปี56โตเพิ่ม20%
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางการขยายตัวของตลาดเฟอร์นิเจอร์ในปี2556นี้ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อเนื่องจากปี2555 โดยมี2ปัจจัยหลักเป็นแรงผลักดันให้เกิดการขยายตัวของตลาดรวม คือ 1.การซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังเหตุการน้ำท่วมใหญ่ในช่วงปลายปี2554 โดยลูกค้าหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมากขึ้นเพราะสามารถเคลื่อนย้ายได้ในกรณีที่เกิดปัญหาน้ำท่วม 2.การขยายตัวของซัปพลายที่อยู่อาศัยในปี2555และปี2556 โดยเฉพาะในส่วนของซัปพลายห้องชุดในโครงกาคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในส่วนของดีมานด์ที่เกิดจากการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยนั้นส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์ในตลาดค้าปลีก หรือ การขายหน้าร้านขยายตัวอย่างมาก ขณะที่ดีมานด์จากซัปพลายที่อยู่อาศัยใหม่ หรือโครงการห้องชุดที่พัฒนาขึ้นใหม่นั้น ส่งผลดีต่อตลาดพรีออร์เดอร์ หรือเฟอร์นิเจอร์ผลิตตามคำสั่งซื้อของโครงการต่างๆ เนื่องจากโครงการห้องชุดเกิดใหม่ส่วนใหญ่นิยมจัดแคมเปญห้องชุดตกแต่งพร้อมอยู่หรือ Full Furnished ซึ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสะดวกสะบายสามารถซื้อห้องชุดและย้ายเข้าอยู่ได้ทันที
“ตลาดรวมปี 2555ที่ผ่านมามีอัตราการขยายตัวอยู่ที่10-15% ส่วนในปี2556นี้คาดว่าอัตราการเตอบโตทรงตัวเท่าๆกับปีก่อนหน้า โดยขยายตัวที่ 10-15% อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตลาดเฟอร์นิเจอร์จากนี้ไปจะยังมีอัตราการขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง เพราะได้รับปัจจัยบวก จากการเปลี่ยนแปลงทางด้านฐานรายได้ของประชากร และเครื่องมือทางการเงินที่เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อบ้านมากขึ้นทำให้ในอนาคตผู้บริโภคจะมีอัตราการตัวสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น ต่างจากอดีตที่ผ่านมา ซึ่งผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยาก ในขณะที่ฐานรายได้ก็อยู่ในระดับต่ำ”
นายกิจจา กล่าวว่าด้านการแข่งขันในตลาดนั้นยังคงมีรูปแบบเดิมๆ คือในตลาดล่าง และกลางจะยังแข่งขันกันด้วยกลยุทธ์ด้านราคา โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ค้าปลีก ขณะที่ตลาดเฟอร์นิเจอร์ระดับบนนั้นจะแข่งขันกันด้วยดีไชน์เป็นหลัก ทำให้ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ ต้องมีการศึกษาความต้องการของลูกค้าที่ลึกและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าของตนเองอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ในปี2555ที่ผ่านมาหลายท่านเข้าใจว่าเฟอร์นิเจอร์ที่เจาะกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดนั้นน่าจะมีส่วนแบ่งตลาดจากตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์สูงกว่าตลาดบ้านแนวราบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ส่วนแบ่งของเพอร์นิเจอร์ในตลาดห้องชุดและที่อยู่อาศัยแนวราบยังมีสัดส่วนเท่าๆกันคือ50-50% เนื่องจากพื้นที่ของที่อยู่อาศัยแนวราบมีขนาดใหญ่กว่าค่อนข้างมาก แม้จะมีซับพลายเกิดใหม่น้อยเมื่อเทียบกับซับพลายห้องชุด แต่ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ทำให้ต้องใช้จำนวนเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น ดังนั้นเมื่อเฉลี่ยพื้นที่การใช้เฟอร์นิเจอร์ในห้องชุดเกิดใหม่ กับที่อยู่อาศัยแนวราบแล้วไม่แตกต่างกันมากนัก
นายกิจจา กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินธุรกิจของ ชิคฯในปี2555 ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จตามคาด โดยในปีที่ผ่านมามีรายได้เติบโตจากปี 2554 ประมาณ30% เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น จากการขยายสาขาให้บริการเพิ่ม1แห่ง ที่เมกะบางนา โดยรายได้ดังกล่าวเติบโตจากการขายผ่านหน้าร้านเป็นหลัก ส่วนในปี2556นี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตจากปีก่อน20% โดยในปีนี้มีแผนจะขยายสาขาใหม่เพิ่มที่พัทยาใต้ เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าใน ชลบุรี, ศรีราชา, สัตหีบ และระยอง
โดยสาขาที่เปิดใหม่จะใช้งบลงทุน300-400ล้านบาท รูปแบบขาสาใหม่จะเป็นสแตนอโลน เช่นเดี่ยวกับสาขาใหญ่ที่ตั้งอยู่เลียบทางด่วนด่วนรามอินทรา โดยสาขาใหม่จะมีพื้นที่ให้บริการลูกค้าประมาณ 10,000ตางรางเมตร โดยสาขาใหม่นี้จะเป็นสาขาเดียวที่มีการลงทุนในปี2556ส่วนในปี2557 ชิคฯมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก1แห่งในพื้นที่ กทม.ซึ่งยังอยู่ระหว่าการจัดหาที่ดินในการก่อตั้งสาขาใหม่
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางการขยายตัวของตลาดเฟอร์นิเจอร์ในปี2556นี้ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อเนื่องจากปี2555 โดยมี2ปัจจัยหลักเป็นแรงผลักดันให้เกิดการขยายตัวของตลาดรวม คือ 1.การซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังเหตุการน้ำท่วมใหญ่ในช่วงปลายปี2554 โดยลูกค้าหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมากขึ้นเพราะสามารถเคลื่อนย้ายได้ในกรณีที่เกิดปัญหาน้ำท่วม 2.การขยายตัวของซัปพลายที่อยู่อาศัยในปี2555และปี2556 โดยเฉพาะในส่วนของซัปพลายห้องชุดในโครงกาคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในส่วนของดีมานด์ที่เกิดจากการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยนั้นส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์ในตลาดค้าปลีก หรือ การขายหน้าร้านขยายตัวอย่างมาก ขณะที่ดีมานด์จากซัปพลายที่อยู่อาศัยใหม่ หรือโครงการห้องชุดที่พัฒนาขึ้นใหม่นั้น ส่งผลดีต่อตลาดพรีออร์เดอร์ หรือเฟอร์นิเจอร์ผลิตตามคำสั่งซื้อของโครงการต่างๆ เนื่องจากโครงการห้องชุดเกิดใหม่ส่วนใหญ่นิยมจัดแคมเปญห้องชุดตกแต่งพร้อมอยู่หรือ Full Furnished ซึ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสะดวกสะบายสามารถซื้อห้องชุดและย้ายเข้าอยู่ได้ทันที
“ตลาดรวมปี 2555ที่ผ่านมามีอัตราการขยายตัวอยู่ที่10-15% ส่วนในปี2556นี้คาดว่าอัตราการเตอบโตทรงตัวเท่าๆกับปีก่อนหน้า โดยขยายตัวที่ 10-15% อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตลาดเฟอร์นิเจอร์จากนี้ไปจะยังมีอัตราการขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง เพราะได้รับปัจจัยบวก จากการเปลี่ยนแปลงทางด้านฐานรายได้ของประชากร และเครื่องมือทางการเงินที่เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อบ้านมากขึ้นทำให้ในอนาคตผู้บริโภคจะมีอัตราการตัวสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น ต่างจากอดีตที่ผ่านมา ซึ่งผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยาก ในขณะที่ฐานรายได้ก็อยู่ในระดับต่ำ”
นายกิจจา กล่าวว่าด้านการแข่งขันในตลาดนั้นยังคงมีรูปแบบเดิมๆ คือในตลาดล่าง และกลางจะยังแข่งขันกันด้วยกลยุทธ์ด้านราคา โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ค้าปลีก ขณะที่ตลาดเฟอร์นิเจอร์ระดับบนนั้นจะแข่งขันกันด้วยดีไชน์เป็นหลัก ทำให้ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ ต้องมีการศึกษาความต้องการของลูกค้าที่ลึกและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าของตนเองอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ในปี2555ที่ผ่านมาหลายท่านเข้าใจว่าเฟอร์นิเจอร์ที่เจาะกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดนั้นน่าจะมีส่วนแบ่งตลาดจากตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์สูงกว่าตลาดบ้านแนวราบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ส่วนแบ่งของเพอร์นิเจอร์ในตลาดห้องชุดและที่อยู่อาศัยแนวราบยังมีสัดส่วนเท่าๆกันคือ50-50% เนื่องจากพื้นที่ของที่อยู่อาศัยแนวราบมีขนาดใหญ่กว่าค่อนข้างมาก แม้จะมีซับพลายเกิดใหม่น้อยเมื่อเทียบกับซับพลายห้องชุด แต่ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ทำให้ต้องใช้จำนวนเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น ดังนั้นเมื่อเฉลี่ยพื้นที่การใช้เฟอร์นิเจอร์ในห้องชุดเกิดใหม่ กับที่อยู่อาศัยแนวราบแล้วไม่แตกต่างกันมากนัก
นายกิจจา กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินธุรกิจของ ชิคฯในปี2555 ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จตามคาด โดยในปีที่ผ่านมามีรายได้เติบโตจากปี 2554 ประมาณ30% เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น จากการขยายสาขาให้บริการเพิ่ม1แห่ง ที่เมกะบางนา โดยรายได้ดังกล่าวเติบโตจากการขายผ่านหน้าร้านเป็นหลัก ส่วนในปี2556นี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตจากปีก่อน20% โดยในปีนี้มีแผนจะขยายสาขาใหม่เพิ่มที่พัทยาใต้ เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าใน ชลบุรี, ศรีราชา, สัตหีบ และระยอง
โดยสาขาที่เปิดใหม่จะใช้งบลงทุน300-400ล้านบาท รูปแบบขาสาใหม่จะเป็นสแตนอโลน เช่นเดี่ยวกับสาขาใหญ่ที่ตั้งอยู่เลียบทางด่วนด่วนรามอินทรา โดยสาขาใหม่จะมีพื้นที่ให้บริการลูกค้าประมาณ 10,000ตางรางเมตร โดยสาขาใหม่นี้จะเป็นสาขาเดียวที่มีการลงทุนในปี2556ส่วนในปี2557 ชิคฯมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก1แห่งในพื้นที่ กทม.ซึ่งยังอยู่ระหว่าการจัดหาที่ดินในการก่อตั้งสาขาใหม่
