วานนี้(11 ก.พ.56) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว.ได้หารือว่า ฝากไปยังนายกรัฐมนตรีด้วยความเป็นห่วงว่า เพราะทราบว่าจะมีการพิจารณาออกกฎหมายนิรโทษกรรม ตามที่คณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) เสนอ แต่ขอคัดค้าน เพราะ 1.ไม่อยากให้ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนการนิรโทษให้กับผู้ที่กระทำผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมทั้ง ส.ว.ไม่บังควรอย่างยิ่งที่จะพิจารณากฎหมายที่จะนิรโทษกรรมความผิดดังกล่าว เพราะในมาตรา 3 จะมีผลรวมถึงกรณีที่กระทำผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ อย่างกรณี ดา ตอปิโด เป็นต้น 2. ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้ระบุว่า ไม่รวมถึงการกระทำใดๆของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจหรือสั่งการให้มีการเคลื่อนไหวในห้วงเวลาดังกล่าว ซึ่งไม่มีความชัดเจน ทำให้ถือโอกาสจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาวินิจฉัยส่วนนี้ เชื่อว่าจะมีการช่วยเหลือพรรคพวกกัน ดังนั้นเพื่อความชัดเจนให้ระบุเพิ่มว่า ไม่รวมถึงผู้ที่เป็น หรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยถือว่าชัดเจน ไม่ต้องมีคณะกรรมการตีความอีก
ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะแกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า หากรัฐบาลจะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่มีความผิดในการชุมนุม ก็ทำได้ไม่ยาก โดยสั่งการไปที่ ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ อัยการ โดยสั่งไม่ฟ้อง ศาลก็ยกให้อยู่แล้ว ถ้าประชาชนคนไหนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ต้องห่วง แต่คนที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง ไม่ควรอยู่ในข่ายนิรโทษกรรม อยากให้นายกรัฐมนตรีกลับไปทบทวนข้อเสนอ ของ คอป. ไม่เช่นนั้นจะไม่เกิดความปรองดองและสร้างความขัดแย้งขึ้นใหม่ในสังคม
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนขออนุญาตอ่านข้อความนางนิชา ที่เขียนเผยแพร่ในสื่อขณะนี้ว่า “ในเมื่อยังมีคนไม่รู้ตัวว่าทำผิดอีกจำนวนมาก ในเมื่อยังมีคนผิดแต่ยังไม่ยอมรับผิด และไม่หลาบจำความผิดของตนอีกเป็นจำนวนมาก แถมยังพร้อมจะย้อนกลับมาทำผิดอีก และเมื่อยังมีฆาตกรที่ยังไม่เดือดเนื้อร้อนใจเดินลอยนวลในสังคมอีกมาก การนิรโทษกรรมในวันนี้จึงเป็นประโยชน์เพื่ออันใด”
อีกด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า การเขียนกฎหมายนิรโทษกรรมโดยระบุถ้อยคำ ("ผู้ดำรงตำแหน่ง หรือ เคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง")คงไม่สามารถทำได้ เพราะถือเป็นการเลือกปฎิบัติที่เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามการชุมนุมของมวลชนที่ผ่านมาไม่พบนักการเมืองเข้าร่วมในการสั่งการ หรือร่วมเป็นแกนนำ แต่อาจมี ส.ส.ที่ร่วมขึ้นเวทีบ้าง แต่ไม่ใช่มาในฐานะการออกคำสั่งให้มวลชนปฎิบัติตาม อีกทั้งการชุมนุมของมวลชนเป็นเรื่องของประชาชนไม่เกี่ยวกับเรื่องทางการเมือง
"หากจะเขียนแบบนั้นจริง นักการเมืองอย่าง นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยร่วมชุมนุมกับมวลชน จะถือว่าเข้าข่ายด้วยหรือไม่ ซึ่งความคิดที่เสนอนับว่าดี แต่จะนำไปปฎิบัติคงยาก" นายก่อแก้ว กล่าวและว่าการหารือร่วมกับตัวแทนคนเสื้อเหลือง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตนยังไม่ได้หารือกับแกนนำคนเสื้อแดง ส่วนในพรรคเพื่อไทยได้นัดหมายให้หารือที่ประชุมพรรค วันที่ 19 ก.พ.นี้
นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) กล่าวถึงข้อเสนอจากหลายฝ่ายให้นำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ไปแก้ไข ว่า ข้อเสนอจากหลายฝ่ายที่แสดงความเห็น ตนพร้อมรับฟัง แต่กระบวนการที่ให้ตนนำร่างกฎหมายไปแก้ไขตามคำเรียกร้องคงไม่สามารถทำได้ เพราะกระบวนการออกกฎหมายท้ายสุดขึ้นอยู่สภาที่จะพิจารณา ทั้งนี้ยอมรับการกระบวนการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมสมัยปัจจุบันมีความยากและวุ่นวายกว่าการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนซึ่งกระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกับการเดินขบวนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2516 พ.ศ. 2516 เพราะยุคปัจจุบันมีการแบ่งแยกสีเสื้อและกลุ่มการเมือง
ดังนั้นผู้ที่พิจารณาร่างกฎหมายขอให้ใช้ความอดทน บนหลักเมตตาและเข้าใจ โดยตนสนับสนุนให้มีการหารือนอกรอบของกลุ่มการเมือง และในการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในสภาฯ อย่าใช้ความรวบรัด หรือใช้เสียงข้างมากลากไป เพื่อช่วยพวกพ้อง เพราะอาจจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้นำข้อเสนอของนางนิชา มาพิจารณาประกอบ ส่วนตัวเห็นใจนางนิชาซึ่งเป็นผู้สูญเสีย แต่ข้อเสนอที่ให้มีการค้นหาความจริงก่อนออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น จะทำให้กระบวนการนิรโทษกรรมผู้บริสุทธิ์ยืดเยื้อ เพราะที่ผ่านมา แม้คอป. จะค้นหาความจริง แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ดังนั้นองค์กรที่จะค้นหาความจริงคือกระบวนการทางศาล แต่กว่าจะให้ศาลพิพากษาคดีให้จบ คงใช้เวลาเป็น 10 ปี
อีกเรื่อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวย้ำว่าพร้อมที่จะให้ ความร่วมมือกับนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภา หากมีการเชิญให้ไปหารือเกี่ยวกับแนวทางนิรโทษกรรม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากนายเจริญแต่อย่างใด จุดยืนของเราคือเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม แต่ต้องจำกัดขอบเขตเฉพาะผู้ที่ฝ่าฝืนพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเห็นด้วยกับข้อเสนอของนางนิชา เสนอมา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้า กรณีที่ได้ส่งร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกลับมายังรัฐบาล
นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ตอนนี้เรื่องทั้งหมดส่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วซึ่งกำลังมีการศึกษากันอยู่ ส่วนตัวเห็นว่าการทำเรื่องนี้จะต้องมีการพิจารณากันอย่างรอบคอบและหลายภาคส่วน ทั้งในและนอกสภา
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เรียกร้องให้มีการถอนร่างพ.ร.บ.ปรองดองที่ค้างอยู่ในสภานั้น เป็นความคิดเห็นของนายอภิสิทธิ์ที่เสนอ แต่การตัดสินใจเป็นเรื่องของมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
อีกด้านพ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำ นปช. กล่าวเรียกร้องให้ ส.ส. 266 คนของพรรคเพื่อไทย ช่วยกันใช้ตำแหน่งประกันตัวประชาชนคนเสื้อแดงที่ถูกคุกในเรือนจำทั่วประเทศ
วันเดียวกันที่กระทรวงมหาดไทย นายเจริญ เดินทางพบนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือ จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า มีแนวความคิดจะเชิญสองพรรคใหญ่ ร่วมประชุม พูดคุยกับเสื้อเหลืองและเสื้อแดง โดยจะจัดพื้นที่ให้แต่ละฝ่ายแสดงความคิดเห็น
“เสนอต่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า ควรมีการเสนอกฎหมายออกมา 2 รูป แบบ คือเอาเฉพาะประชาชนที่เกี่ยวข้องก่อน ซึ่งสามารถทำได้ทันที อีกส่วนหนึ่ง คือ ส่วนแกนนำ จะต้องเขียนในลักษณะมีคณะกรรมการกลั่นกรองขึ้นมา ว่าเข้าข่ายหรือไม่อย่างไร ซึ่งอาจจะช้าไปบ้าง แต่การเสนอกฎหมายนั้นจะต้องเสนอเข้ามาพร้อมกันทั้ง 2 ฉบับจะทำออกมาเป็น พ.ร.บ. ไม่ใช่ พ.ร.ก. ผู้ที่จะเสนอได้ ต้องเป็น ส.ส. เท่านั้น แต่การจะทำให้สำเร็จได้ ต้องทำความเข้าใจกับสองพรรคใหญ่ก่อน “นายเจริญกล่าวและว่าจะนำข้อเสนอไปหารือกับกรรมการผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย และได้หารือกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะอาสาเป็นตัวแทนไปประสานกับทางพรรคประชาธิปัตย์
ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะแกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า หากรัฐบาลจะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่มีความผิดในการชุมนุม ก็ทำได้ไม่ยาก โดยสั่งการไปที่ ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ อัยการ โดยสั่งไม่ฟ้อง ศาลก็ยกให้อยู่แล้ว ถ้าประชาชนคนไหนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ต้องห่วง แต่คนที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง ไม่ควรอยู่ในข่ายนิรโทษกรรม อยากให้นายกรัฐมนตรีกลับไปทบทวนข้อเสนอ ของ คอป. ไม่เช่นนั้นจะไม่เกิดความปรองดองและสร้างความขัดแย้งขึ้นใหม่ในสังคม
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนขออนุญาตอ่านข้อความนางนิชา ที่เขียนเผยแพร่ในสื่อขณะนี้ว่า “ในเมื่อยังมีคนไม่รู้ตัวว่าทำผิดอีกจำนวนมาก ในเมื่อยังมีคนผิดแต่ยังไม่ยอมรับผิด และไม่หลาบจำความผิดของตนอีกเป็นจำนวนมาก แถมยังพร้อมจะย้อนกลับมาทำผิดอีก และเมื่อยังมีฆาตกรที่ยังไม่เดือดเนื้อร้อนใจเดินลอยนวลในสังคมอีกมาก การนิรโทษกรรมในวันนี้จึงเป็นประโยชน์เพื่ออันใด”
อีกด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า การเขียนกฎหมายนิรโทษกรรมโดยระบุถ้อยคำ ("ผู้ดำรงตำแหน่ง หรือ เคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง")คงไม่สามารถทำได้ เพราะถือเป็นการเลือกปฎิบัติที่เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามการชุมนุมของมวลชนที่ผ่านมาไม่พบนักการเมืองเข้าร่วมในการสั่งการ หรือร่วมเป็นแกนนำ แต่อาจมี ส.ส.ที่ร่วมขึ้นเวทีบ้าง แต่ไม่ใช่มาในฐานะการออกคำสั่งให้มวลชนปฎิบัติตาม อีกทั้งการชุมนุมของมวลชนเป็นเรื่องของประชาชนไม่เกี่ยวกับเรื่องทางการเมือง
"หากจะเขียนแบบนั้นจริง นักการเมืองอย่าง นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยร่วมชุมนุมกับมวลชน จะถือว่าเข้าข่ายด้วยหรือไม่ ซึ่งความคิดที่เสนอนับว่าดี แต่จะนำไปปฎิบัติคงยาก" นายก่อแก้ว กล่าวและว่าการหารือร่วมกับตัวแทนคนเสื้อเหลือง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตนยังไม่ได้หารือกับแกนนำคนเสื้อแดง ส่วนในพรรคเพื่อไทยได้นัดหมายให้หารือที่ประชุมพรรค วันที่ 19 ก.พ.นี้
นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) กล่าวถึงข้อเสนอจากหลายฝ่ายให้นำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ไปแก้ไข ว่า ข้อเสนอจากหลายฝ่ายที่แสดงความเห็น ตนพร้อมรับฟัง แต่กระบวนการที่ให้ตนนำร่างกฎหมายไปแก้ไขตามคำเรียกร้องคงไม่สามารถทำได้ เพราะกระบวนการออกกฎหมายท้ายสุดขึ้นอยู่สภาที่จะพิจารณา ทั้งนี้ยอมรับการกระบวนการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมสมัยปัจจุบันมีความยากและวุ่นวายกว่าการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนซึ่งกระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกับการเดินขบวนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2516 พ.ศ. 2516 เพราะยุคปัจจุบันมีการแบ่งแยกสีเสื้อและกลุ่มการเมือง
ดังนั้นผู้ที่พิจารณาร่างกฎหมายขอให้ใช้ความอดทน บนหลักเมตตาและเข้าใจ โดยตนสนับสนุนให้มีการหารือนอกรอบของกลุ่มการเมือง และในการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในสภาฯ อย่าใช้ความรวบรัด หรือใช้เสียงข้างมากลากไป เพื่อช่วยพวกพ้อง เพราะอาจจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้นำข้อเสนอของนางนิชา มาพิจารณาประกอบ ส่วนตัวเห็นใจนางนิชาซึ่งเป็นผู้สูญเสีย แต่ข้อเสนอที่ให้มีการค้นหาความจริงก่อนออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น จะทำให้กระบวนการนิรโทษกรรมผู้บริสุทธิ์ยืดเยื้อ เพราะที่ผ่านมา แม้คอป. จะค้นหาความจริง แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ดังนั้นองค์กรที่จะค้นหาความจริงคือกระบวนการทางศาล แต่กว่าจะให้ศาลพิพากษาคดีให้จบ คงใช้เวลาเป็น 10 ปี
อีกเรื่อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวย้ำว่าพร้อมที่จะให้ ความร่วมมือกับนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภา หากมีการเชิญให้ไปหารือเกี่ยวกับแนวทางนิรโทษกรรม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากนายเจริญแต่อย่างใด จุดยืนของเราคือเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม แต่ต้องจำกัดขอบเขตเฉพาะผู้ที่ฝ่าฝืนพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเห็นด้วยกับข้อเสนอของนางนิชา เสนอมา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้า กรณีที่ได้ส่งร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกลับมายังรัฐบาล
นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ตอนนี้เรื่องทั้งหมดส่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วซึ่งกำลังมีการศึกษากันอยู่ ส่วนตัวเห็นว่าการทำเรื่องนี้จะต้องมีการพิจารณากันอย่างรอบคอบและหลายภาคส่วน ทั้งในและนอกสภา
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เรียกร้องให้มีการถอนร่างพ.ร.บ.ปรองดองที่ค้างอยู่ในสภานั้น เป็นความคิดเห็นของนายอภิสิทธิ์ที่เสนอ แต่การตัดสินใจเป็นเรื่องของมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
อีกด้านพ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำ นปช. กล่าวเรียกร้องให้ ส.ส. 266 คนของพรรคเพื่อไทย ช่วยกันใช้ตำแหน่งประกันตัวประชาชนคนเสื้อแดงที่ถูกคุกในเรือนจำทั่วประเทศ
วันเดียวกันที่กระทรวงมหาดไทย นายเจริญ เดินทางพบนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือ จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า มีแนวความคิดจะเชิญสองพรรคใหญ่ ร่วมประชุม พูดคุยกับเสื้อเหลืองและเสื้อแดง โดยจะจัดพื้นที่ให้แต่ละฝ่ายแสดงความคิดเห็น
“เสนอต่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า ควรมีการเสนอกฎหมายออกมา 2 รูป แบบ คือเอาเฉพาะประชาชนที่เกี่ยวข้องก่อน ซึ่งสามารถทำได้ทันที อีกส่วนหนึ่ง คือ ส่วนแกนนำ จะต้องเขียนในลักษณะมีคณะกรรมการกลั่นกรองขึ้นมา ว่าเข้าข่ายหรือไม่อย่างไร ซึ่งอาจจะช้าไปบ้าง แต่การเสนอกฎหมายนั้นจะต้องเสนอเข้ามาพร้อมกันทั้ง 2 ฉบับจะทำออกมาเป็น พ.ร.บ. ไม่ใช่ พ.ร.ก. ผู้ที่จะเสนอได้ ต้องเป็น ส.ส. เท่านั้น แต่การจะทำให้สำเร็จได้ ต้องทำความเข้าใจกับสองพรรคใหญ่ก่อน “นายเจริญกล่าวและว่าจะนำข้อเสนอไปหารือกับกรรมการผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย และได้หารือกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะอาสาเป็นตัวแทนไปประสานกับทางพรรคประชาธิปัตย์
