ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นเตรียมเปลี่ยนชื่อเป็น องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เพื่อสร้างองค์กรให้น่าเชื่อถือในการขับเคลื่อนพลังสังคมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน โดยจดทะเบียนในรูปแบบมูลนิธิ เปิดทางให้มีตัวแทนจากภาคสังคม ภาคเอกชนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อสร้างองค์กรให้น่าเชื่อถือ ยันกรณี "สรยุทธ" ไม่มีการเลือกปฎิบัติ
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผยภายหลังการประชุมภาคีเครือข่ายฯ ว่า คณะกรรมการมีมติให้เปลี่ยนชื่อภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นเป็น “องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย)” จดทะเบียนในรูปแบบมูลนิธิ มีตัวแทนจากภาคสังคม ภาคเอกชน เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อสร้างองค์กรให้น่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ เพื่อให้การทำงานมีความใกล้ชิดกับภาครัฐในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน โดยยังคงมีเป้าหมายขับเคลื่อนพลังสังคมให้การคอร์รัปชันเป็นสิ่งที่คนไทยและสังคมไทยยอมรับไม่ได้ ภายใต้แนวทาง 3 ป. คือ ปลูกฝัง ป้องกัน และเปิดโปง เพื่อให้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันหมดจากประเทศ
ส่วนการดำเนินงานขององค์กร ทำให้ภาครัฐมีการจัดตั้งศูนย์กำกับดูแลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เป็นหน่วยงานสำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งกำหนดเงื่อนไขกฎเกณฑ์การกำหนดราคาและการประมูลที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันการทุจริต
เมื่อมีการถามถึงกรณีการตรวจสอบการกระทำทุจริตของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา จากปัญหาบริษัท ไร่ส้ม จำกัด นายประมนต์ ยืนยันว่า ทางภาคีไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่เป็นเพราะมีองค์กรสื่อได้เสนอให้ทางภาคีมีการตรวจสอบ และหากมีกรณีอื่นๆ ทางภาคีก็พร้อมที่จะตรวจสอบให้