เด็ดปีกเจ้าพ่อบ่อนเตาปูน หักขาแมลงสาบ-ชำระหนี้แค้น

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ปฏิบัติการปิดตำนานบ่อนเตาปูน โดย พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) แถลงเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 สั่งอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในรายคดีสำคัญไว้ชั่วคราว คือโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เลขที่ 156026 เนื้อที่ 2 งาน 40 ตารางวา ราคาประเมิน 10 ล้าน 8 แสนบาท กลางชุมชนตรอกข้าวสาร ย่านบางซื่อ เป็นสถานที่ตั้งสำหรับเปิดบ่อนลักลอบเล่นการพนัน ตามความผิดการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนัน ตามมาตรา 3(9) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

ถือเป็นการเล่นเกมแรงจนมีข้อสงสัยกันว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองสองขั้วพรรคการเมืองใหญ่ หรือเป็นการชำระแค้นของน้องชายเลขาธิการ ป.ป.ง. ที่ถูกลอบสังหารเมื่อ 5 - 6 ปีก่อน ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าเป็นฝีมือของลูกชายเจ้าพ่อคนดังย่านเตาปูน

คำสั่งยึดทรัพย์สะท้านวงการครั้งนี้ สืบเนื่องจากปฏิบัติการปิดประตูตีแมวจับกุมบ่อนทรงอิทธิพลของ บช.น. เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2554 ที่เป็นข่าวครึกโครม โดย พล.ต.ท.วินัย ทองสอง อดีต ผบช.น. นำกำลังตำรวจชุดปราบปรามอบายมุขของ บช.น. กว่า 100 นาย บุกเข้าล้อมจับบ่อนเตาปูน เจ้าหน้าที่จับกุมนักพนันชายหญิงได้ 199 คน ยึดอุปกรณ์การเล่นพนันทั้งโต๊ะบาคาร่าและชิพแลกเงินจำนวนมาก

การเข้าจับกุมในครั้งนั้น นักพนันต่างโห่ร้องตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปภายในบ่อน กระทำเกินกว่าเหตุ นักพนันบางรายพยายามพังประตู บางส่วนทุบกำแพงด้านหลังเพื่อหลบหนี เมื่อเจ้าหน้าที่ขัดขวางก็ถูกทำร้าย พ.ต.ท.สถิตย์ สังข์ประไพ รอง ผกก.ป. สน.เตาปูน ถูกพัดลมตั้งโต๊ะขว้างใส่จนคิ้วขวาแตก

หลังจากนั้น ป.ป.ง.ได้รับการประสานให้เข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายวิญญู ศรีเงินยวง ผู้ต้องหาที่รับเป็นเจ้าของสถานที่ ซึ่งปรากฏว่ามีอาชีพขายข้าวมันไก่ แต่เมื่อตรวจสอบใบเสร็จการจ่ายค่าน้ำค่าไฟของสถานที่ต้องสงสัย ก็ต้องตกตะลึงเนื่องจากพบว่ามีการจ่ายค่าน้ำค่าไฟเดือนละ 1 แสนบาท ไม่สมเหตุสมผลด้วยประการทั้งปวง แต่ถึงกระนั้นหลักฐานยังสาวไปไม่ถึงตัวนักการเมือง เจ้าพ่อบ่อนเตาปูนชื่อดัง จึงไม่มีการเข้าตรวจสอบหรืออายัดทรัพย์สิน

เรื่องราวเงียบหายไปปีกว่าๆ ก่อนจะมาถึงปฏิบัติการยึดทรัพย์ เด็ดปีกเจ้าพ่อ ตัดท่อน้ำเลี้ยง ในวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และมีรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และประธาน ป.ป.ง. ชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และมี เลขาธิการ ป.ป.ง. ชื่อ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ที่ทำงานตรวจสอบขยายผลเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งด้านหนึ่งอาจเพราะเขามีน้องชายชื่อ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจที่ลาออกจากราชการผันตัวมาเดินแรงๆ บนยุทธจักรนักเลง ทำตัวเป็นผู้กว้างขวางตั้งแต่เมืองหลวงของไทยยาวไปจนถึงฝั่งเขมร!!

กว้างขวางขนาดไหน ก็ขนาดที่ว่าสามารถข่มขู่เจ้าของบ่อนน้อยใหญ่จนต้องวิ่งไปซูฮก แต่มีข่าวว่าไป “งัดข้อ” กับบ่อนเตาปูน ซึ่งมีประวัติไม่เคยจ่ายส่วยให้ผู้มีอิทธิพลรายใด จะยอมจ่ายก็เฉพาะ “สีกากี” เท่านั้น

การลงมืออายัดทรัพย์ของเลขาธิการ ปปง. ครั้งนี้ จึงไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวพันไปถึงเหตุการณ์ลอบสังหารกลางสามแยกไฟแดงสวรรคโลก ถนนสุโขทัย กลางเมืองหลวง เมื่อเดือนพ.ย. 2549 ที่มีการรัวกระสุนนับ 10 นัดใส่รถของ พ.ต.ท.สันธนะ น้องชายของ พ.ต.อ.สีหนาท คราวนั้นมากน้อยแค่ไหน คราวนั้นน้องชายเลขาธิการ ป.ป.ง. รอดตายหวุดหวิด โดยลูกน้องคนสนิทรับเคราะห์แทน เพราะไม่ได้นั่งอยู่ในรถที่เคยใช้ประจำซึ่งถูกคนร้ายปฏิบัติการยิงถล่ม !!

เหตุการณ์ครั้งนั้น เจ้าตัวคิดว่าน่าจะเกี่ยวพันกับธุรกิจใต้ดิน เกี่ยวโยงถึง “แมน เตาปูน” ลูกชายคนแรกของเจ้าพ่อบ่อนเตาปูนตัวจริง

การยึดทรัพย์แบบที่ไม่มีใครคาดถึงครั้งนี้ ไม่รู้ว่าเป็นการชำระแค้นเอาคืนจากเรื่องราวในอดีต ล้างแค้น 10 ปี ไม่สาย หรือไม่

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว พ.ต.อ.สีหนาทชี้แจงว่า “ไม่เกี่ยวกับน้องชายของผมที่มีกระแสว่าขัดผลประโยชน์ในบ่อนดังกล่าว และไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ผมเองไม่ค่อยได้เจอกับน้องชายบ่อยนัก แต่ดำเนินการไปตามหน้าที่ หากไม่ผิดปปง.จะไปดำเนินการได้หรือไม่”

นอกจากนี้ อีกเงื่อนปมหนึ่งที่อาจเป็นที่มาของปฏิบัติการหักเหลี่ยมโหดไม่ไว้หน้าครั้งนี้ น่าจะมาจากเรื่องการเมือง ที่มีอยู่หลายเงื่อนหลายปม ที่ชัดเจนในเวลานี้ คือศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ขับเคี่ยวกันอย่างหนักระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยทั้งสองฝ่ายต่างรุมถล่มฝ่ายตรงข้ามไม่ยั้ง

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างสร้างโรงพักฉาว ประชาธิปัตย์ ก็งัดกรณี “จูดี้” พ.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ขณะเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจฝ่ายบริหาร อนุมัติโครงการเช่ารถยนต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มูลค่านับหมื่นล้าน ที่มีเหตุสงสัยว่าฮั้วประมูลหรือไม่

เป็นที่รู้กันว่า “เจ้าของบ่อนเตาปูนตัวจริง” สนิทแนบแน่นกับพรรคประชาธิปัตย์มาแต่ไหนแต่ไร เวลานี้ลูกชายของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร เป็น ส.ส. อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ อริตลอดกาลของเพื่อไทย ส่วนลูกสาวก็เป็นที่ปรึกษาอดีตผู้ว่าฯ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัทธ ช่วยลุยพื้นที่หาเสียง แถมยังเป็นสมาชิกสภากทม.เขตบางซื่อ ของพรรคประชาธิปัตย์

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า เจ้าพ่อบ่อนเตาปูนตัวจริง และลูกๆ เป็นคนในครอบครัวประชาธิปัตย์ทั้งสายเลือด ซึ่งนั่นย่อมส่งผลต่อคะแนนเสียงของเพื่อไทยในเขตบางซื่ออย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

การปิดบ่อนเตาปูนของ ป.ป.ง.อย่างน้อยๆ เพื่อไทยก็หวังว่าจะส่งผลสะเทือนทางการเมืองไม่มากก็น้อย เพราะถ้าเอาชนะไม่ได้ก็ต้องหาทางทำลายเสียให้สิ้น

แม้ว่าประเด็นทางการเมืองนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะรีบออกมาปฏิเสธทันควันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองไม่ใช่เป็นการเช็กบิล ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แม้ตนเองจะเป็นประธาน ป.ป.ง. แต่การยึดทรัพย์เป็นเรื่องของคณะกรรมการธุรกรรมซึ่งไม่มีใครแทรกแซงหรือเกี่ยวข้องได้ เช่นเดียวกับเลขาธิการ ป.ป.ง. ที่ยืนยันว่า ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง จะเห็นว่ามีการจับกุมหลายครั้ง ไม่ว่ารัฐบาลใด พรรคใด มีการจับกุมมาโดยตลอด

อีกเงื่อนปมทางการเมือง หากจำกันได้ก่อนหน้านี้ ช่วงที่ม็อบองค์การพิทักษ์สยาม หรือ อพส. ที่มีพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย เป็นแกนนำ ประกาศขนมวลชนมาชุมนุมกดดันข่มขู่รัฐบาล จนสะดุ้งสะเทือนผวาอยู่พักใหญ่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ออกมาพูดอยู่ตลอดถึงกลุ่มทุนที่หนุนเนื่องมา หนึ่งในนั้น ก็คือ บ่อนเตาปูน นั่นเอง

การที่บ่อนเตาปูนถูกเล่นงานตัดท่อน้ำเลี้ยง ยังจะส่งผลไปถึงอนาคตทางการเมือง ที่เจ้าพ่อบ่อนเตาปูน ฝันไว้โดยเขาให้พรรคพวกจดชื่อพรรคการเมืองเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ที่สำคัญคือ พรรคนี้มีข่าวเกี่ยวโยงไปถึงอดีตขุนพลเศรษฐกิจของรัฐบาลทักษิณด้วย เนื่องจากมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาตลอดว่า เจ้าพ่อบ่อนเตาปูนและอดีตขุนพลเศรษฐกิจคนสำคัญของรัฐบาลทักษิณมีความสนิทชิดเชื้อ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมา นับจากกรณีการฟื้นฟูกิจการสื่อสารมวลชน จนถึงพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ โดยมีคนรอดูว่า อดีตขุนพลเศรษฐกิจคนสำคัญของรัฐบาลทักษิณจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่เมื่อครบกำหนด 5 ปี ของบ้านเลขที่ 111 แต่แล้วจนบัดนี้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวทางการเมืองของอดีตขุนพลเศรษฐกิจคนสำคัญของรัฐบาลทักษิณยังเงียบหาย

จึงเป็นปมสงสัยว่า แผนการปิดบ่อนเตาปูน ดับอนาคตทางเมือง จะกระทบชิ่งไปถึงการกดดันให้อดีตขุนพลเศรษฐกิจผู้นี้รีบไปรายงานตัวต่อ “นายใหญ่” แห่งดูไบ หรือไม่ เพราะหลังพ้นคุกบ้านเลขที่ 111 ทุกคนต่างเดินสายไปรายงานตัวกันหมดเรียบร้อย ยังเหลือก็แต่เพียงหนึ่งเดียวนี่แหละ ที่ยังละล้าละลังอยู่

ทั้งหลายทั้งปวง นั่นอาจเป็นที่มาของปฏิบัติการเด็ดปีกเจ้าพ่อย่านเตาปูน ที่สะท้านสะเทือนวงการในครั้งนี้

แต่อย่าลืมว่า เจ้าพ่อบ่อนเตาปูนนั้น ไม่ธรรมดา เพราะเจ้าพ่อเมืองหลวงคนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ธุรกิจสีเทาเท่านั้น หากยังมีขุมข่ายธุรกิจนับพันล้าน มีกิจการมากมายหลายหลาย นับจากค้าขาย รับเหมา อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ รวมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ โดยผู้ถือหุ้นในเครือข่ายธุรกิจมีทั้งนายตำรวจระดับนายพล และคนในตระกูลดัง ดังนั้น เขาย่องไม่เป็นเป้านิ่งแต่เพียงฝ่ายเดียว

ด้วยเหตุดังกล่าว การเด็ดปีกเจ้าพ่อบ่อนเตาปูน อาจจะไม่ง่ายอย่างกรณีเจ้าพ่อตะวันออก เพราะรับรองยังมีต่ออีกหลายช็อตแน่