ASTVผู้จัดการรายวัน - คณะแพทย์รพ.ชลบุรี ลงความเห็น "กำนันเป๊าะ" อาการน่าเป็นห่วง ด้าน "วิทยา" ยันหายดีจะทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษตามขั้นตอนทันที "สนธยา" ยันทำเรื่องย้าย ไปเมืองชลตามขั้นตอน "เหลิม" ลั่นไม่ได้สิทธิพิเศษ "ผบก.ป." เผยออกหมายเรียกผอ.สมิติเวชและจนท.ให้ปากคำ
วานนี้ (5 ก.พ.) ที่โรงพยาบาลชลบุรี ญาติพี่น้องและคนที่นับถือนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ อายุ 75 ปี จำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และจ้างวานฆ่านายประยูร สิทธิโชค หรือกำนันยูร อดีตกำนันตำบลเสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี โทษจำคุกรวม 30 ปี 4 เดือนซึ่งย้ายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มายังเรือนจำกลางชลบุรี แต่อาการป่วยกำเริบจนต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ชั้น 2 ตึกสิริกิติ์ ต่างทยอยเดินทางมาเพื่อขอเข้าเยี่ยมนายสมชาย จนนายอำนาจ ปรัชญาพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางชลบุรี ต้องสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จาก 5 คน เป็น 8 คน เพื่อป้องกันความปลอดภัยและกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้าเยี่ยมโดยเด็ดขาด ยกเว้นคนในครอบครัว เพราะหากได้รับอันตรายจากบุคคลที่ 3 ทางเรือนจำต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
พร้อมกันนี้ได้ตั้งโต๊ะลงชื่อในสมุดเยี่ยมไว้หน้าห้อง ซึ่งบางคนนำข้าวหลามและข้าวของเครื่องใช้เพื่อเข้าเยี่ยม จนนายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี บุตรชาย ต้องออกมาขอบคุณ และรับของฝากไว้แทน เนื่องจากนายสมชายอาการยังไม่ดีขึ้น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ความดันโลหิตสูง ยังไม่รู้สึกตัวดี นอกจากนี้นายวิทยายังกล่าวว่า ได้ปรึกษากันภายในครอบครัวแล้วว่าหากบิดาอาการดีขึ้น จะให้ทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษตามขั้นตอน ส่วนลูกก็จะทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษตามไปอีกส่วนหนึ่ง หากไม่สำเร็จก็จะส่งต่อไปทุก 2 ปี
ด้านนพ.อัษฎา ตียพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี นพ.วรวิทย์ ตันติศิริพัฒน์ นายแพทย์อายุรกรรม ร่วมแถลงอาการของนายสมชาย ว่า ตั้งแต่เช้าวันนี้เริ่มรู้สึกตัวดี มีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ความดันโลหิตสูง 149/90 ชีพจรเต้นเร็วประมาณ 110 ครั้งต่อนาที ซึ่งคนปกติดชีพจรเต้นเพียง 70-80 ครั้งเท่านั้น นอกจากนี้อาการของนายสมชายไม่ดีขึ้น ความดันโลหิตสูง มีภาวะหัวใจวายหรือล้มเหลวได้ แต่ปอดอักเสบ ปอดบวมกลับดีขึ้น เพราะให้ยาปฏิชีวนะ แล้วตอบสนองต่อยาได้ดีขึ้น แต่อาการของโรคถุงลมโป่งพอง หลอดเลือดสมอง และภาวะไตเสื่อมระยะแรกยังไม่ดีขึ้น ยังไม่สามารถบอกได้ว่าอาการจะดีขึ้นภายใน 3 วันหรือไม่ อย่างไรจะต้องรักษาตามอาการ แต่หากอาการดีขึ้นจะส่งตัวกลับเรือนจำกลางชลบุรีแน่นอน
***ทุกคนใน"คุณปลื้ม"เร่งช่วย'เป๊าะ'
นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และบุตรชายนายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้มีทีมแพทย์ดูแลใกล้ชิด อาการก็เป็นไปตามที่แพทย์แถลง ยืนยันว่าการย้ายเรือนจำและการเข้ารับการรักษาตัว เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามสิทธิของผู้ป่วย สำหรับแนวโน้มการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้บิดานั้น กำลังศึกษาข้อกฎหมายว่าจะสามารถยื่นขอได้หรือไม่
"ทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย และคดีก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายต่อสังคม เพราะกฎหมายป.วิฯอาญา บอกถึงสิทธิ์ที่ผู้ต้องขังจะได้รับอยู่แล้ว และครอบครัวก็ดูแลตามสิทธิ์นั้น"
ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายสมชายไม่ได้รับสิทธิพิเศษในการย้ายที่คุมขัง เพราะกฎหมายระบุถึงสิทธิ์ตรงนี้ไว้ ส่วนกรณีนี้มีอาการเจ็บป่วยก็ต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อน ไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ เพียงแต่ผู้ที่ถูกจับเป็นคนมีชื่อเสียง จึงถูกจับตามองเป็นธรรมดา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงต้องส่งตัวไปรักษาที่จ.ชลบุรี และไม่เปิดเผยการรักษา ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า แพทย์มีหน้าที่ต้องเก็บอาการเจ็บป่วยของคนไข้ ไว้เป็นความลับ และผู้ต้องหาก็มีภูมิลำเนาที่จ.ชลบุรี เมื่อยื่นคำร้องก็สามารถอนุมัติได้ ส่วนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเป็นสิทธิของนักโทษ
***เรียกผอ.สมิติเวชและจนท.ให้ปากคำ
ด้านพล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายสมชาย ว่าได้ให้พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พร้อมชุดสืบสวน ทำหนังสือถึงโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เพื่อเชิญตัวผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่เวชระเบียน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้าพบพนักงานสอบสวนบก.ป. เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาตัวของนายสมชาย ก่อนพิจารณาว่ามีเจตนาช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่ หรือมีเจตนาเพียงให้การรักษาเท่านั้น นอกจากนี้ได้มอบให้พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผกก.ปพ.บก.ป.และชุดสืบสวน ทำหนังสือเรียกบุคคลที่อยู่ในรถยนต์เลกซัส อาร์เอ็กซ์ 270 สีดำ ทะเบียน ฎฎ 9579 กรุงเทพมหานคร ในวันเกิดจับกุม ประกอบด้วย นายวินัย พ้นภัยพาล อายุ 50 ปี กำนันตำบลเสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี แพทย์หญิงซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวนายสมชาย และคนขับรถ มาสอบปากคำเพิ่มเติมภายในสัปดาห์หน้า
พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลอ้างว่าขณะนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ต้องรอการประชุมภายในของผู้บริหารก่อน
*ราชทัณฑ์ยันไม่ได้ให้สิทธิพิเศษ
วานนี้ ( 5 ก.พ.) นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางเรือนจำกลางชลบุรียังไม่ได้รายงานความคืบหน้าอาการป่วยของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ซึ่งคาดว่านายสมชายยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลโดยยังไม่มีการเคลื่อนย้ายกลับเข้ามาในเรือนจำ ส่วนการเคลื่อนย้ายนายสมชายกลับเข้ามาในเรือนจำนั้นต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ที่ให้การรักษาว่าสามารถย้ายได้หรือไม่ และเรื่องนี้ก็เป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการเรือนจำที่จะดำเนินการได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องรายงานให้ทางกรมราชทัณฑ์ทราบ ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์ว่ากรมราชทัณฑ์ให้สิทธิพิเศษกับนายสมชายเช่นกรณีไม่ใส่โซ่ตรวนทั้งที่เป็นผู้ต้องขังรายสำคัญนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้ให้สิทธิพิเศษ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎระเบียบกรมราชทัณฑ์ทุกประการ แต่การตีตรวนมีข้อยกเว้นกรณีผู้ต้องขังป่วยหรือเป็นผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปห้ามใส่เครื่องพันธนาการทุกชนิด เว้นแต่ว่าผู้ต้องขังรายนั้นมีพฤติการณ์จะหลบหนีการควบคุม
ด้านนายอำนาจ ปรัชญาพันธ์ ผบ.เรือนจำกลางชลบุรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานอาการป่วยของนายสมชาย แต่ปกติหากอยู่ในการรักษาของแพทย์เรือนจำก็จะปล่อยให้เป็นดุลยพินิจแพทย์ในการรักษาเต็มที่ ยืนยันว่าเรือนจำมีหน้าที่ในการดูแลผู้ต้องขังทุกคนให้เป็นไปตามระเบียบ แม้จะถูกส่งเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลด้านนอกแต่ก็จะมีเจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัย โดยในส่วนของนายสมชายญาติให้ความร่วมมือและไม่ร้องขอสิ่งใดเพิ่มเติม
เมื่อถามถึงการควบคุมนายสมชายหากถูกย้ายออกจากโรงพยาบาลกลับเข้าเรือนจำ ผบ.เรือนจำกลางชลบุรี กล่าวว่า โดยปกติผู้ต้องขังใหม่จะถูกนำตัวไปอยู่ในแดนแรกรับ จากนั้นจะมีคณะกรรมการพิจารณาเพื่อจำแนกให้ไปคุมขังในแดนต่าง ๆ ตามความเหมาะสมซึ่งในส่วนของนายสมชายมีความเป็นไปได้ที่จะถูกจำแนกไปอยู่ได้ใน 2 แดนคือแดนของผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย
วานนี้ (5 ก.พ.) ที่โรงพยาบาลชลบุรี ญาติพี่น้องและคนที่นับถือนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ อายุ 75 ปี จำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และจ้างวานฆ่านายประยูร สิทธิโชค หรือกำนันยูร อดีตกำนันตำบลเสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี โทษจำคุกรวม 30 ปี 4 เดือนซึ่งย้ายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มายังเรือนจำกลางชลบุรี แต่อาการป่วยกำเริบจนต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ชั้น 2 ตึกสิริกิติ์ ต่างทยอยเดินทางมาเพื่อขอเข้าเยี่ยมนายสมชาย จนนายอำนาจ ปรัชญาพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางชลบุรี ต้องสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จาก 5 คน เป็น 8 คน เพื่อป้องกันความปลอดภัยและกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้าเยี่ยมโดยเด็ดขาด ยกเว้นคนในครอบครัว เพราะหากได้รับอันตรายจากบุคคลที่ 3 ทางเรือนจำต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
พร้อมกันนี้ได้ตั้งโต๊ะลงชื่อในสมุดเยี่ยมไว้หน้าห้อง ซึ่งบางคนนำข้าวหลามและข้าวของเครื่องใช้เพื่อเข้าเยี่ยม จนนายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี บุตรชาย ต้องออกมาขอบคุณ และรับของฝากไว้แทน เนื่องจากนายสมชายอาการยังไม่ดีขึ้น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ความดันโลหิตสูง ยังไม่รู้สึกตัวดี นอกจากนี้นายวิทยายังกล่าวว่า ได้ปรึกษากันภายในครอบครัวแล้วว่าหากบิดาอาการดีขึ้น จะให้ทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษตามขั้นตอน ส่วนลูกก็จะทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษตามไปอีกส่วนหนึ่ง หากไม่สำเร็จก็จะส่งต่อไปทุก 2 ปี
ด้านนพ.อัษฎา ตียพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี นพ.วรวิทย์ ตันติศิริพัฒน์ นายแพทย์อายุรกรรม ร่วมแถลงอาการของนายสมชาย ว่า ตั้งแต่เช้าวันนี้เริ่มรู้สึกตัวดี มีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ความดันโลหิตสูง 149/90 ชีพจรเต้นเร็วประมาณ 110 ครั้งต่อนาที ซึ่งคนปกติดชีพจรเต้นเพียง 70-80 ครั้งเท่านั้น นอกจากนี้อาการของนายสมชายไม่ดีขึ้น ความดันโลหิตสูง มีภาวะหัวใจวายหรือล้มเหลวได้ แต่ปอดอักเสบ ปอดบวมกลับดีขึ้น เพราะให้ยาปฏิชีวนะ แล้วตอบสนองต่อยาได้ดีขึ้น แต่อาการของโรคถุงลมโป่งพอง หลอดเลือดสมอง และภาวะไตเสื่อมระยะแรกยังไม่ดีขึ้น ยังไม่สามารถบอกได้ว่าอาการจะดีขึ้นภายใน 3 วันหรือไม่ อย่างไรจะต้องรักษาตามอาการ แต่หากอาการดีขึ้นจะส่งตัวกลับเรือนจำกลางชลบุรีแน่นอน
***ทุกคนใน"คุณปลื้ม"เร่งช่วย'เป๊าะ'
นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และบุตรชายนายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้มีทีมแพทย์ดูแลใกล้ชิด อาการก็เป็นไปตามที่แพทย์แถลง ยืนยันว่าการย้ายเรือนจำและการเข้ารับการรักษาตัว เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามสิทธิของผู้ป่วย สำหรับแนวโน้มการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้บิดานั้น กำลังศึกษาข้อกฎหมายว่าจะสามารถยื่นขอได้หรือไม่
"ทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย และคดีก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายต่อสังคม เพราะกฎหมายป.วิฯอาญา บอกถึงสิทธิ์ที่ผู้ต้องขังจะได้รับอยู่แล้ว และครอบครัวก็ดูแลตามสิทธิ์นั้น"
ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายสมชายไม่ได้รับสิทธิพิเศษในการย้ายที่คุมขัง เพราะกฎหมายระบุถึงสิทธิ์ตรงนี้ไว้ ส่วนกรณีนี้มีอาการเจ็บป่วยก็ต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อน ไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ เพียงแต่ผู้ที่ถูกจับเป็นคนมีชื่อเสียง จึงถูกจับตามองเป็นธรรมดา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงต้องส่งตัวไปรักษาที่จ.ชลบุรี และไม่เปิดเผยการรักษา ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า แพทย์มีหน้าที่ต้องเก็บอาการเจ็บป่วยของคนไข้ ไว้เป็นความลับ และผู้ต้องหาก็มีภูมิลำเนาที่จ.ชลบุรี เมื่อยื่นคำร้องก็สามารถอนุมัติได้ ส่วนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเป็นสิทธิของนักโทษ
***เรียกผอ.สมิติเวชและจนท.ให้ปากคำ
ด้านพล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายสมชาย ว่าได้ให้พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พร้อมชุดสืบสวน ทำหนังสือถึงโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เพื่อเชิญตัวผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่เวชระเบียน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้าพบพนักงานสอบสวนบก.ป. เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาตัวของนายสมชาย ก่อนพิจารณาว่ามีเจตนาช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่ หรือมีเจตนาเพียงให้การรักษาเท่านั้น นอกจากนี้ได้มอบให้พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผกก.ปพ.บก.ป.และชุดสืบสวน ทำหนังสือเรียกบุคคลที่อยู่ในรถยนต์เลกซัส อาร์เอ็กซ์ 270 สีดำ ทะเบียน ฎฎ 9579 กรุงเทพมหานคร ในวันเกิดจับกุม ประกอบด้วย นายวินัย พ้นภัยพาล อายุ 50 ปี กำนันตำบลเสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี แพทย์หญิงซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวนายสมชาย และคนขับรถ มาสอบปากคำเพิ่มเติมภายในสัปดาห์หน้า
พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลอ้างว่าขณะนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ต้องรอการประชุมภายในของผู้บริหารก่อน
*ราชทัณฑ์ยันไม่ได้ให้สิทธิพิเศษ
วานนี้ ( 5 ก.พ.) นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางเรือนจำกลางชลบุรียังไม่ได้รายงานความคืบหน้าอาการป่วยของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ซึ่งคาดว่านายสมชายยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลโดยยังไม่มีการเคลื่อนย้ายกลับเข้ามาในเรือนจำ ส่วนการเคลื่อนย้ายนายสมชายกลับเข้ามาในเรือนจำนั้นต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ที่ให้การรักษาว่าสามารถย้ายได้หรือไม่ และเรื่องนี้ก็เป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการเรือนจำที่จะดำเนินการได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องรายงานให้ทางกรมราชทัณฑ์ทราบ ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์ว่ากรมราชทัณฑ์ให้สิทธิพิเศษกับนายสมชายเช่นกรณีไม่ใส่โซ่ตรวนทั้งที่เป็นผู้ต้องขังรายสำคัญนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้ให้สิทธิพิเศษ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎระเบียบกรมราชทัณฑ์ทุกประการ แต่การตีตรวนมีข้อยกเว้นกรณีผู้ต้องขังป่วยหรือเป็นผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปห้ามใส่เครื่องพันธนาการทุกชนิด เว้นแต่ว่าผู้ต้องขังรายนั้นมีพฤติการณ์จะหลบหนีการควบคุม
ด้านนายอำนาจ ปรัชญาพันธ์ ผบ.เรือนจำกลางชลบุรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานอาการป่วยของนายสมชาย แต่ปกติหากอยู่ในการรักษาของแพทย์เรือนจำก็จะปล่อยให้เป็นดุลยพินิจแพทย์ในการรักษาเต็มที่ ยืนยันว่าเรือนจำมีหน้าที่ในการดูแลผู้ต้องขังทุกคนให้เป็นไปตามระเบียบ แม้จะถูกส่งเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลด้านนอกแต่ก็จะมีเจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัย โดยในส่วนของนายสมชายญาติให้ความร่วมมือและไม่ร้องขอสิ่งใดเพิ่มเติม
เมื่อถามถึงการควบคุมนายสมชายหากถูกย้ายออกจากโรงพยาบาลกลับเข้าเรือนจำ ผบ.เรือนจำกลางชลบุรี กล่าวว่า โดยปกติผู้ต้องขังใหม่จะถูกนำตัวไปอยู่ในแดนแรกรับ จากนั้นจะมีคณะกรรมการพิจารณาเพื่อจำแนกให้ไปคุมขังในแดนต่าง ๆ ตามความเหมาะสมซึ่งในส่วนของนายสมชายมีความเป็นไปได้ที่จะถูกจำแนกไปอยู่ได้ใน 2 แดนคือแดนของผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย