**เป็นประเด็นข่าวร้อน ฮือฮาแห่งปี เมื่อ "สมชาย คุณปลื้ม" หรือ "กำนันเป๊าะ" ผู้ทรงอิทธิพล คนดังแห่งภาคตะวันออก ผู้ต้องหาคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินเขาไม้แก้ว และคดีจ้างวานฆ่า นายประยูร สิทธิโชติ หรือ กำนันยูร ถูกรวบตัวขณะอยู่ในรถยนต์แล่นบนถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงพัฒนาการ กรุงเทพฯ หลังหลบหนีเงียบหายไปนานหลายปี
ขณะถูกจับกุม เจ้าตัวปฏิเสธที่จะปริปากพูดอะไรมากมาย แต่ สนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ทายาทคนโต บอกสั้นๆ ไม่น่าจะมีเรื่องทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง และยังไม่ได้พูดคุยกับพ่อ เพราะปกติส่วนใหญ่พ่อจะอยู่ต่างประเทศ
หากจะโฟกัสถึงฐานอำนาจในเชิงการเมืองของ "กำนันเป๊าะ" ผู้ทรงอิทธิพลภาคตะวันออก แล้วน่าสนใจ เติบโตบนเส้นทางเจ้าพ่ออย่างแท้จริง จบการศึกษาเพียงแค่ ป. 4 ไม่อยากเอาดีด้านเรียน เลยลุยสู้ชีวิตตั้งแต่เด็ก เติบโตสั่งสมประสบการณ์ โลดแล่นบนถนนสายนักเลง และไต่เต้าสร้างสมบารมี จนขยับขึ้นเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดชลบุรีและภาคตะวันออก
แน่นอนว่า การครองอำนาจเจ้าพ่ออย่างไรเทียมทานของ “กำนันเป๊าะ” ย่อมหลีกหนีไม่พ้นที่จะต้องก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมือง
"กำนันเป๊าะ" เริ่มชีวิตเข้าสู่การเมืองการปกครองส่วนท้องถิ่น จากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน และขึ้นเป็นกำนันตำบลแสนสุข อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี มีอิทธิพลสูง และยาวนาน สามารถผลักดันให้ใครก็ตาม มีตำแหน่งสำคัญๆ ในจังหวัดได้
**จากธุรกิจที่นับวันจะใหญ่ขึ้นๆ และขยายแตกไลน์ไปเยอะแยะ " กำนันเป๊าะ" จำเป็นต้องมีฐานอำนาจรัฐคุ้มกัน นั่นก็คือการเมืองสนามใหญ่ จึงส่งมือไม้ แขนขา ลูกเต้า ลงไปยึดเก้าอี้มาไว้ในครอบครอง
แรกเริ่ม "กำนันเป๊าะ" มีบทบาททางการเมืองในฐานะหัวคะแนนให้พรรคการเมืองต่างๆ ที่พุ่งเข้าหายามเข้าหน้าเลือกตั้ง รายไหนรายนั้นมักไม่ผิดหวัง เนื่องเพราะเป็นคนรู้ทุกซอกทุกมุมในพื้นที่
"กำนันเป๊าะ" ผันตัวเองเป็นผู้อำนวยการหาเสียงเลือกตั้ง สามารถฝ่าด่านได้แม้กระทั่ง วีรบุรุษประชาธิปไตย อย่าง อุทัย พิมพ์ใจชน แต่ก็ขับเคี่ยวแพ้ชนะกันเรื่อยมา
หลังจากหาเสียงให้กับนักการเมืองพรรคการเมืองต่างๆ มาหลายปี ต่อมา "กำนันเป๊าะ" ส่ง นิคม แสนเจริญ น้องภรรยา ลงเล่นการเมืองสนามเล็กระดับจังหวัด ไต่เต้าจากสมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี ขึ้นเป็นประธานสภาจังหวัด จนได้เป็น ส.ส.เขต 2 ชลบุรี และต่อมา นายนิคม แสนเจริญ ก็ได้เป็นรัฐมนตรี กลายเป็นตัวแทนคนสำคัญของ "กำนันเป๊าะ" ที่เข้าไปอยู่ในระบบอำนาจรัฐ จนกระทั่งนิคมเสียชีวิต สร้างเครือข่ายผู้ใหญ่บ้าน กำนัน องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลทั้งหมด รวมทั้งเมืองพัทยาและองค์การบริหารส่วนจังหวัด ใหญ่โต บารมี "กำนันเป๊าะ" พุ่งแรงติดจรวด มีทั้งอำนาจรัฐ อำนาจเงิน
**ครั้นเมื่อคณะรสช. (คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ) ทำการรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2534 โดยการนำของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หัวหน้า รสช. ชื่อ "กำนันเป๊าะ" ยิ่งดังขึ้นไปอีก เพราะสนิทสนมกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ "บิ๊กจ๊อด" ไปร่วมงานวันเกิดเป็นที่ฮือฮา
ต่อมา "กำนันเป๊าะ"เข้าร่วมกับพรรคสามัคคีธรรม ซึ่งบรรดาคณะนายทหารรสช. สนับสนุน โดยการส่ง นิคม แสนเจริญ น้องชายของ "สติล คุณปลื้ม" ภรรยา เข้าไปร่วมเป็นรองหัวหน้าพรรค และลงสมัครรับเลือกปี 2535 ครั้งที่ 1 ก่อนที่จะเกิดกรณีพฤษภาทมิฬปี 2535 ขึ้น และต้องมีการเลือกตั้งครั้ง 2 ของปี "นิคม แสนเจริญ" น้องภรรยาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะเดินทางไปช่วยพรรคปราศรัยหาเสียง ที่จังหวัดภาคอีสาน
"กำนันเป๊าะ" จึงส่ง "สนธยา คุณปลื้ม" บุตรชายคนโต ลงสมัครแทน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งสายเลือดโดยตรงของกำนันเป๊าะขึ้นสู่เวทีการเมืองอย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ดี ช่วงนั้นตระกูล "คุณปลื้ม" อยู่ในช่วงขาลงไปพร้อมๆกับรสช. จากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
ในช่วงหลังเราจะเห็นภาพที่คู่กัน ระหว่างตระกูล "คุณปลื้ม" กับ พรรคชาติไทย ของ "หลงจู๊" บรรหาร ศิลปอาชา ผูกติดกัน จังหวัดชลบุรี เป็นฐานที่มั่นเพิ่มเก้าอี้ส.ส.ให้พรรคชาติไทย เป็นล่ำเป็นสันนอกจาก จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดภาคกลางบางส่วน
งานวันเกิดทีไร "บรรหาร" ต้องโผล่ไปร่วมตลอด "สนธยา คุณปลื้ม" เป็นลูกรักของ "ป๋าเติ้ง" ไปโดยปริยาย ฐานการเมืองระยะหลังเป็นของตระกูล"คุณปลื้ม" และเครือข่าย"กำนันเป๊าะ" แบบผูกขาด ใครก็เจาะไม่เข้า
กระทั่งมาช่วงที่ กำนันเป๊าะ โดนคดีจ้างวานฆ่ากำนันประยูร คดีอยู่ระหว่างคาบลูกคาบดอก จำเป็นต้องหาทางออกให้ตัวเอง ซ้ำยังถูกบีบ ถูกทุบ จากพรรคไทยรักไทย ให้ย้ายไปร่วมด้วย จึงต้องยกขบวนตีจากพรรคชาติไทยไปเข้ากับพรรคไทยรักไทยในที่สุด ช่วงนั้นพรรคไทยรักไทยกระแสแรง ผนวกกับกระแสพื้นที่ของ"คุณปลื้ม" การเลือกตั้งปี 2548 จึงได้ส.ส.ภาคตะวันออกมา 14 คน
การย้ายออกมาครั้งนั้น สร้างความขัดเคืองให้กับบรรหารไม่น้อย แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเหตุผลทางการเมือง เรื่องคดีของ"กำนันเป๊าะ" การย้ายครั้งนั้น"สนธยา"ยกโขยงออกมาพร้อม เนวิน ชิดชอบ แต่รายหลังฝากรอยแค้นให้กับ "ป๋าเติ้ง" อย่างเจ็บปวด
แต่ครั้นมาถึงปี 2550 มีการเลือกตั้ง หลังการรัฐประหาร กันยา 49 ปรากฏว่า เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ฐานที่มั่นใน จ.ชลบุรีโดนเจาะกระจาย ร่วงกันเป็นแถบ พรรคประชาธิปัตย์ เข้ามายึดเก้าอี้ได้เป็นกอบเป็นกำ เนื่องจากกระแสพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยร้อนแรง อีกทั้งตระกูล "คุณปลื้ม" ยังถูกเว้นวรรคแทบทั้งตระกูล ประมาทปล่อยปละละเลยงานพื้นที่ จึงถูกถล่มทะลวงราบคาบ นับเป็นยุคตกต่ำที่สุดยุคหนึ่งทีเดียว
**หลังความพ่ายแพ้ครั้งนั้น ทำให้เครือข่าย"กำนันเป๊าะ"ต้องมาทบทวนกันหลายตลบ พร้อมเดินเกมการเมืองเพื่อช่วงชิงฐานที่มั่นกลับคืนมา มีการวางไลน์ ส่งคนเข้าไปจัดระบบกันใหม่ ไล่กันตั้งแต่ท้องถิ่น ส่ง" วิทยา คุณปลื้ม" ไปเป็นนายกฯ อบจ. ส่ง "อิทธิพล คุณปลื้ม" ไปเป็นนายกเมืองพัทยา
จัดระเบียบเครือข่ายอิทธิพลสมัยที่รุ่นพ่อทำเอาไว้อย่างแข็งแกร่ง แต่ช่วงหลังดูหละหลวมไป ก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ก่อร่างสร้างฐานกันใหม่ แยกย้ายมาตั้ง ตั้งค่ายใหม่ ในนามพรรคพลังชล จนได้ส.ส.มาเป็นที่น่าพอใจ 7 เก้าอี้ ร่วมรัฐบาล เอาเก้าอี้ รมต.วัฒนธรรม มาครอบครองไว้
การฟื้นไข้ครั้งนั้นดูเหมือนจะฟื้นมาจากฐานการเมืองท้องถิ่น แต่ก็ยังไม่เต็ม 100 % นัก หลังเจอมรสุมหลายลูกซ้อนเข้าไป ยังมึนๆ งงๆ อยู่ หวังว่าเมื่อทายาทตัวจริงอย่าง"สนธยา" พ้นโทษแบนทางการเมืองแล้ว จะกลับมาเป็นหลักได้ในศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป
แต่ทว่ากลับมาเจอเหตุการณ์ "กำนันเป๊าะ" ถูกจับแบบนี้ และทำท่าว่าจะเคลียร์ลำบาก อีกทั้งสุขภาพร่างกายของ "กำนันเป๊าะ" ไม่สู้ดีเอาเสียเลย ก็ไม่รู้ว่าขวัญ กำลังใจ ของตระกูล "คุณปลื้ม" จะเป็นอย่างไร จะเสียขวัญกันมากน้อยแค่ไหน
** เมื่อเสาหลักมีอันต้องจบแบบไม่สวย!!
ขณะถูกจับกุม เจ้าตัวปฏิเสธที่จะปริปากพูดอะไรมากมาย แต่ สนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ทายาทคนโต บอกสั้นๆ ไม่น่าจะมีเรื่องทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง และยังไม่ได้พูดคุยกับพ่อ เพราะปกติส่วนใหญ่พ่อจะอยู่ต่างประเทศ
หากจะโฟกัสถึงฐานอำนาจในเชิงการเมืองของ "กำนันเป๊าะ" ผู้ทรงอิทธิพลภาคตะวันออก แล้วน่าสนใจ เติบโตบนเส้นทางเจ้าพ่ออย่างแท้จริง จบการศึกษาเพียงแค่ ป. 4 ไม่อยากเอาดีด้านเรียน เลยลุยสู้ชีวิตตั้งแต่เด็ก เติบโตสั่งสมประสบการณ์ โลดแล่นบนถนนสายนักเลง และไต่เต้าสร้างสมบารมี จนขยับขึ้นเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดชลบุรีและภาคตะวันออก
แน่นอนว่า การครองอำนาจเจ้าพ่ออย่างไรเทียมทานของ “กำนันเป๊าะ” ย่อมหลีกหนีไม่พ้นที่จะต้องก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมือง
"กำนันเป๊าะ" เริ่มชีวิตเข้าสู่การเมืองการปกครองส่วนท้องถิ่น จากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน และขึ้นเป็นกำนันตำบลแสนสุข อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี มีอิทธิพลสูง และยาวนาน สามารถผลักดันให้ใครก็ตาม มีตำแหน่งสำคัญๆ ในจังหวัดได้
**จากธุรกิจที่นับวันจะใหญ่ขึ้นๆ และขยายแตกไลน์ไปเยอะแยะ " กำนันเป๊าะ" จำเป็นต้องมีฐานอำนาจรัฐคุ้มกัน นั่นก็คือการเมืองสนามใหญ่ จึงส่งมือไม้ แขนขา ลูกเต้า ลงไปยึดเก้าอี้มาไว้ในครอบครอง
แรกเริ่ม "กำนันเป๊าะ" มีบทบาททางการเมืองในฐานะหัวคะแนนให้พรรคการเมืองต่างๆ ที่พุ่งเข้าหายามเข้าหน้าเลือกตั้ง รายไหนรายนั้นมักไม่ผิดหวัง เนื่องเพราะเป็นคนรู้ทุกซอกทุกมุมในพื้นที่
"กำนันเป๊าะ" ผันตัวเองเป็นผู้อำนวยการหาเสียงเลือกตั้ง สามารถฝ่าด่านได้แม้กระทั่ง วีรบุรุษประชาธิปไตย อย่าง อุทัย พิมพ์ใจชน แต่ก็ขับเคี่ยวแพ้ชนะกันเรื่อยมา
หลังจากหาเสียงให้กับนักการเมืองพรรคการเมืองต่างๆ มาหลายปี ต่อมา "กำนันเป๊าะ" ส่ง นิคม แสนเจริญ น้องภรรยา ลงเล่นการเมืองสนามเล็กระดับจังหวัด ไต่เต้าจากสมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี ขึ้นเป็นประธานสภาจังหวัด จนได้เป็น ส.ส.เขต 2 ชลบุรี และต่อมา นายนิคม แสนเจริญ ก็ได้เป็นรัฐมนตรี กลายเป็นตัวแทนคนสำคัญของ "กำนันเป๊าะ" ที่เข้าไปอยู่ในระบบอำนาจรัฐ จนกระทั่งนิคมเสียชีวิต สร้างเครือข่ายผู้ใหญ่บ้าน กำนัน องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลทั้งหมด รวมทั้งเมืองพัทยาและองค์การบริหารส่วนจังหวัด ใหญ่โต บารมี "กำนันเป๊าะ" พุ่งแรงติดจรวด มีทั้งอำนาจรัฐ อำนาจเงิน
**ครั้นเมื่อคณะรสช. (คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ) ทำการรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2534 โดยการนำของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หัวหน้า รสช. ชื่อ "กำนันเป๊าะ" ยิ่งดังขึ้นไปอีก เพราะสนิทสนมกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ "บิ๊กจ๊อด" ไปร่วมงานวันเกิดเป็นที่ฮือฮา
ต่อมา "กำนันเป๊าะ"เข้าร่วมกับพรรคสามัคคีธรรม ซึ่งบรรดาคณะนายทหารรสช. สนับสนุน โดยการส่ง นิคม แสนเจริญ น้องชายของ "สติล คุณปลื้ม" ภรรยา เข้าไปร่วมเป็นรองหัวหน้าพรรค และลงสมัครรับเลือกปี 2535 ครั้งที่ 1 ก่อนที่จะเกิดกรณีพฤษภาทมิฬปี 2535 ขึ้น และต้องมีการเลือกตั้งครั้ง 2 ของปี "นิคม แสนเจริญ" น้องภรรยาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะเดินทางไปช่วยพรรคปราศรัยหาเสียง ที่จังหวัดภาคอีสาน
"กำนันเป๊าะ" จึงส่ง "สนธยา คุณปลื้ม" บุตรชายคนโต ลงสมัครแทน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งสายเลือดโดยตรงของกำนันเป๊าะขึ้นสู่เวทีการเมืองอย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ดี ช่วงนั้นตระกูล "คุณปลื้ม" อยู่ในช่วงขาลงไปพร้อมๆกับรสช. จากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
ในช่วงหลังเราจะเห็นภาพที่คู่กัน ระหว่างตระกูล "คุณปลื้ม" กับ พรรคชาติไทย ของ "หลงจู๊" บรรหาร ศิลปอาชา ผูกติดกัน จังหวัดชลบุรี เป็นฐานที่มั่นเพิ่มเก้าอี้ส.ส.ให้พรรคชาติไทย เป็นล่ำเป็นสันนอกจาก จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดภาคกลางบางส่วน
งานวันเกิดทีไร "บรรหาร" ต้องโผล่ไปร่วมตลอด "สนธยา คุณปลื้ม" เป็นลูกรักของ "ป๋าเติ้ง" ไปโดยปริยาย ฐานการเมืองระยะหลังเป็นของตระกูล"คุณปลื้ม" และเครือข่าย"กำนันเป๊าะ" แบบผูกขาด ใครก็เจาะไม่เข้า
กระทั่งมาช่วงที่ กำนันเป๊าะ โดนคดีจ้างวานฆ่ากำนันประยูร คดีอยู่ระหว่างคาบลูกคาบดอก จำเป็นต้องหาทางออกให้ตัวเอง ซ้ำยังถูกบีบ ถูกทุบ จากพรรคไทยรักไทย ให้ย้ายไปร่วมด้วย จึงต้องยกขบวนตีจากพรรคชาติไทยไปเข้ากับพรรคไทยรักไทยในที่สุด ช่วงนั้นพรรคไทยรักไทยกระแสแรง ผนวกกับกระแสพื้นที่ของ"คุณปลื้ม" การเลือกตั้งปี 2548 จึงได้ส.ส.ภาคตะวันออกมา 14 คน
การย้ายออกมาครั้งนั้น สร้างความขัดเคืองให้กับบรรหารไม่น้อย แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเหตุผลทางการเมือง เรื่องคดีของ"กำนันเป๊าะ" การย้ายครั้งนั้น"สนธยา"ยกโขยงออกมาพร้อม เนวิน ชิดชอบ แต่รายหลังฝากรอยแค้นให้กับ "ป๋าเติ้ง" อย่างเจ็บปวด
แต่ครั้นมาถึงปี 2550 มีการเลือกตั้ง หลังการรัฐประหาร กันยา 49 ปรากฏว่า เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ฐานที่มั่นใน จ.ชลบุรีโดนเจาะกระจาย ร่วงกันเป็นแถบ พรรคประชาธิปัตย์ เข้ามายึดเก้าอี้ได้เป็นกอบเป็นกำ เนื่องจากกระแสพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยร้อนแรง อีกทั้งตระกูล "คุณปลื้ม" ยังถูกเว้นวรรคแทบทั้งตระกูล ประมาทปล่อยปละละเลยงานพื้นที่ จึงถูกถล่มทะลวงราบคาบ นับเป็นยุคตกต่ำที่สุดยุคหนึ่งทีเดียว
**หลังความพ่ายแพ้ครั้งนั้น ทำให้เครือข่าย"กำนันเป๊าะ"ต้องมาทบทวนกันหลายตลบ พร้อมเดินเกมการเมืองเพื่อช่วงชิงฐานที่มั่นกลับคืนมา มีการวางไลน์ ส่งคนเข้าไปจัดระบบกันใหม่ ไล่กันตั้งแต่ท้องถิ่น ส่ง" วิทยา คุณปลื้ม" ไปเป็นนายกฯ อบจ. ส่ง "อิทธิพล คุณปลื้ม" ไปเป็นนายกเมืองพัทยา
จัดระเบียบเครือข่ายอิทธิพลสมัยที่รุ่นพ่อทำเอาไว้อย่างแข็งแกร่ง แต่ช่วงหลังดูหละหลวมไป ก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ก่อร่างสร้างฐานกันใหม่ แยกย้ายมาตั้ง ตั้งค่ายใหม่ ในนามพรรคพลังชล จนได้ส.ส.มาเป็นที่น่าพอใจ 7 เก้าอี้ ร่วมรัฐบาล เอาเก้าอี้ รมต.วัฒนธรรม มาครอบครองไว้
การฟื้นไข้ครั้งนั้นดูเหมือนจะฟื้นมาจากฐานการเมืองท้องถิ่น แต่ก็ยังไม่เต็ม 100 % นัก หลังเจอมรสุมหลายลูกซ้อนเข้าไป ยังมึนๆ งงๆ อยู่ หวังว่าเมื่อทายาทตัวจริงอย่าง"สนธยา" พ้นโทษแบนทางการเมืองแล้ว จะกลับมาเป็นหลักได้ในศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป
แต่ทว่ากลับมาเจอเหตุการณ์ "กำนันเป๊าะ" ถูกจับแบบนี้ และทำท่าว่าจะเคลียร์ลำบาก อีกทั้งสุขภาพร่างกายของ "กำนันเป๊าะ" ไม่สู้ดีเอาเสียเลย ก็ไม่รู้ว่าขวัญ กำลังใจ ของตระกูล "คุณปลื้ม" จะเป็นอย่างไร จะเสียขวัญกันมากน้อยแค่ไหน
** เมื่อเสาหลักมีอันต้องจบแบบไม่สวย!!