xs
xsm
sm
md
lg

นอกจากนายกฯ “ปู” พรรคเพื่อไทย ใครบ้างดั่งเช่นคนแบกปอ

เผยแพร่:   โดย: ดร.ป. เพชรอริยะ

อีกไม่นาน ท่านนายกฯ หญิง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจะถูกการเมืองเผด็จการรัฐธรรมนูญทำลายเสียผู้เสียคน เฉกเช่นอดีตนายกฯ ท่านอื่นๆ ที่ผ่านมา เพราะความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงเรื่องเห็นระบอบเผด็จการเป็นระบอบประชาธิปไตย

เรื่องเคยมีมาแล้วชนบทแห่งหนึ่งครั้งนั้นมีสหายปอได้ชักชวนว่าเราไปกันเถิดเพื่อนบางทีเราอาจจะได้ทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งในหมู่นั้นบ้าง เมื่อถึงถนนในบ้านแห่งหนึ่งแล้วก็ได้เห็นเปลือกป่านที่เขาทิ้งไว้มากมายที่ตำบลแห่งนั้นครั้นแล้วสหายปอพูดขึ้นว่า สหายปู “นี้เปลือกป่านเขาทิ้งไว้มากมาย ถ้าเช่นนั้นเราผูกเปลือกป่านเอาไปกันคนละมัด”

จากนั้นเขาทั้งสองเข้าไปยังถนนอีกหมู่บ้านหนึ่งได้เห็นด้ายป่านที่เขาทิ้งไว้มากมายในตำบลนั้นครั้นแล้วสหายปอพูดว่า สหายปู “เราทั้งสองจะปรารถนาเปลือกป่านเพื่อประโยชน์อันใดเล่านี้ด้ายป่านซึ่งเขาทิ้งไว้มากมายถ้าเช่นนั้นท่านจงทิ้งมัดเปลือกป่านเสียเถิดเราทั้งสองจะมัดเอาด้ายป่านไปกันดีกว่า”

สหายปู ตอบว่า “สหายปอเปลือกป่านนี้เราเอามาไกลแล้วทั้งมัดไว้ดีแล้วด้วยเราไม่เอาละท่านเอาด้ายป่านไปคนเดียวเถิด” จากนั้นสหายปอ ทิ้งมัดเปลือกป่านเสียแล้วก็มัดเอาด้ายป่านขึ้นบ่าแบกไป

ต่อมาสหายทั้งสองนั้นเข้าไปยังถนนในหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งได้เห็นผ้าป่านที่เขาทิ้งไว้มากมายที่ตำบลแห่งนั้นครั้นแล้วสหายปอ บอกสหายปูว่า “ปูเพื่อนรัก เราจะปรารถนาเปลือกป่านหรือด้ายป่านเพื่อประโยชน์อันใดเล่าเหล่านี้ ผ้าป่านซึ่งเขาทิ้งไว้มากมายถ้าเช่นนั้น ท่านจงทิ้งมัดเปลือกป่านเสียเถิด เราทั้งสองจะมัดเอาผ้าป่านไป “สหายปู” ตอบว่า “สหายปอ มัดเปลือกป่านนี้เราเอามาไกลแล้วทั้งมัดไว้ดีแล้วด้วยเราไม่เอาละท่านเอาไปคนเดียวเถิด”

จากนั้นสหายปอ ได้ทิ้งมัดด้ายป่านแล้วถือเอามัดผ้าป่านไปสหายทั้งสองนั้นยังคงเดินต่อไป ไปยังถนนในหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งได้เห็นลูกฝ้ายด้ายฝ้ายผ้าฝ้ายเหล็กโลหะดีบุกสำริดเงินและได้เห็นทองคำที่เขาทิ้งไว้มากมายในถนนในหมู่บ้านร้างแห่งนั้น

ครั้นแล้วสหายปอ บอกสหายปู ว่า “ปูเพื่อนรักเราจะปรารถนาประโยชน์อันใดกับเปลือกป่านหรือด้ายป่านหรือผ้าป่านหรือผ้าฝ้ายหรือเหล็กหรือโลหะหรือดีบุกหรือสำริดหรือเงินเหล่านี้ ทองคำที่เขาทิ้งไว้มากมายปูเพื่อนรัก ท่านน่าจะทิ้งมัดเปลือกป่านนั้นลงเสียเถิดและเราเองก็จักทิ้งห่อเงินนี้เสีย

เราทั้งสองจักถือเอาห่อทองไปดีกว่าไหม “สหายปู” ตอบว่า“ปอเพื่อนรักมัดเปลือกป่านนี้เราเอามาไกลแล้วทั้งมัดไว้ดีแล้วด้วยเราไม่เอาละท่านจะเอาทองคำ ก็เอาไปคนเดียวเถิด”

สหายปอได้ทิ้งห่อเงินและได้ถือเอาห่อทองคำไปและสหายทั้งสองนั้นได้กลับบ้านของตน ส่วนทางสหายปู ผู้ถือเอามัดเปลือกป่านติดตัวไปมารดาบิดาบุตรภริยามิตรอำมาตย์หาได้พากันยินดีไม่และเขาไม่ได้รับความสุขโสมนัส ซึ่งเกิดจากเหตุที่ได้เปลือกป่านกลับบ้านนั้นมา

ส่วนสหายปอได้ถือเอาห่อทองคำไปนั้นมารดา บิดา บุตร ภริยา มิตร อำมาตย์พากันยินดีห้อมล้อมและเขายังได้รับความสุขโสมนัส ซึ่งเกิดจากเหตุที่ถือเอาห่อทองคำมา นั่นเอง

อุปมาเปลือกป่านหมายถึงการเมืองระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ โดยมีรูปแบบการปกครองคือระบบรัฐสภา (Parliamentary System) อันปราศจากหลักการ (ระบอบ)ปกครองโดยธรรมซึ่งระบอบเผด็จการทุกชนิดจะไม่สามารถเสนอหลักการปกครองโดยธรรมได้ พวกเขาจะปิดบังซ่อนเร้น หลอกลวงประชาชนด้วยการยกร่างกฎหมายรัฐธรรมหรือไม่ก็แก้ไข แล้วโกหกหลอกลวงว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย

ทอง หมายถึงการเมืองการปกครองโดยธรรม โดยมีหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 เมื่อนำมาใช้กับรูปการปกครองระบบรัฐสภา จึงเรียกว่าการปกครองธรรมาธิปไตยระบบรัฐสภา

รัฐบาลก่อนๆ ทั้งรัฐบาลปัจจุบันกำลังเลือกเอาเปลือกป่านเช่นเดิม สงสารประชาชนไทยจริงๆ ที่ผู้ปกครองฯ หลอกลวงประชาชนมายาวนานกว่า 80 ปี

ผู้ปกครองไทย รัฐบาล พรรคการเมืองต่างๆ เสื้อแดง ฯลฯ เห็นประจักษ์ชัด ไม่ต่างไปจากสหายปูผู้ถือเอาเปลือกป่าน ขอให้ผู้ปกครองทั้งหลายจงสละคืนมิจฉาทิฐิว่าประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแล้วนั้นเสียเถิด

ขอให้ผู้ปกครองจงปล่อยวางมิจฉาทิฐินั้นเสียเถิดทิฐิอันลามกนั้นอย่าได้มีแก่ผู้ปกครองเลยแนวทางร่าง และแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตยที่รัฐบาลกำลังดำเนินการนั้น เป็นแนวทางนำประเทศชาติและประชาชนไปสู่นรกอันเป็นแนวทางเลวทรามต่ำช้า อันเป็นเหตุแห่งความทุกข์และความหายนะของประเทศชาติและปวงชน ซ้ำรอยเดิมมานานกว่า 80 ปีแล้ว “จะโง่กันไปถึงไหน ไม่อายลาว มาเลเซีย เวียดนาม เขาบ้างหรือไง”

อะไร? เป็นเหตุปัจจัยให้นักวิชาการ รัฐบาล นักการเมืองไทย สื่อมวลชนใหญ่ สื่อมวลชนแดงเห็นผิด คิดผิด พูดผิด ทำผิด อาชีพผิด ความเพียรผิด ระลึกผิด ตั้งใจมั่นผิด อันเป็นเหตุแห่งวิกฤตชาติ และยากที่จะแก้ไขให้ผ่านพ้นไปได้ พบว่ารัฐบาลชุดไหนๆ ผิดไปจากคลองธรรมอันเป็นเหตุแห่งวิกฤตของประเทศไทย เกิดจากความเห็นผิดอย่างน้อย 5 ประการ ได้แก่

(1) เข้าใจผิดในการจัดความสัมพันธ์ของรัฐธรรมนูญระหว่างหลักการปกครอง(Principle of Government) กับ วิธีการปกครอง (Methods of Government) รัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับ รวมทั้งฉบับปัจจุบัน จากการศึกษาวิจัยพบว่า ไม่มีหลักการปกครองเช่นเดิมจึงอุปมาดุจดังว่าวขาด, วัวไม่มีเจ้าของ, สุนัขจรจัด, ไม่มีจุดหมายดาวเคราะห์ไร้ซึ่งดวงสุริยัน ฯลฯ มันจะดำรงอยู่ได้อย่างไร จริงไหม

(2) ความเข้าใจผิดของผู้ปกครองไทย 18 คณะ ยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อจะสร้างระบอบประชาธิปไตย ความเป็นจริงรัฐธรรมนูญเป็นเพียงกฎหมายหลัก (Principle of Law) หน้าที่ของกฎหมายคือรักษาหลักการปกครองฯ หรือระบอบคุ้มครองระบอบและสะท้อนความเป็นระบอบฯ นั้นๆ

การที่ผู้ปกครองเผด็จการรัฐธรรมนูญ เอากฎหมายรัฐธรรมนูญไปสร้างระบอบฯ เราขอบอกย้ำเป็นครั้งที่ 101 ว่า จะคุณจะยกร่างรัฐธรรมนูญหรือแก้ไขกันสักร้อยครั้ง พันฉบับ นอกจากจะไม่ได้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงแล้วยังจะทำให้เกิดความล้มเหลวอย่างซ้ำซากและซ้ำเติมวิกฤตร้ายแรงของประชาชนเรื่อยไป

(3) เข้าใจผิดว่ารัฐธรรมนูญ คือระบอบประชาธิปไตย ความเข้าใจที่ถูกต้อง คือ“รัฐธรรมนูญไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย” ประเทศจีน ลาว เวียดนามต่างก็มีกฎหมายรัฐธรรมนูญแต่เป็นรัฐธรรมนูญระบอบคอมมิวนิสต์เยอรมนีสมัยฮิตเลอร์เรืองอำนาจและล่มจมลงในท้ายที่สุดก็มีรัฐธรรมนูญแต่เป็นรัฐธรรมนูญระบอบเผด็จการนาซี

การที่ผู้ปกครองไทยในอดีต (จอมพล ป.) ได้สร้างอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญขึ้นแล้วตั้งชื่อเรียกว่าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นเหตุให้ผู้คนในบ้านในเมืองเข้าใจผิดว่าเมื่อมีรัฐธรรมนูญนั่นก็คือมีระบอบประชาธิปไตย

แท้จริงรัฐธรรมนูญมีหน้าที่ในการรักษาหลักการปกครองฯ หรือระบอบ ในเมื่อระบอบการเมืองไทยยังไม่เคยมีหลักการปกครองโดยธรรม ไม่มีหลักการปกครองโชว์ให้เห็น การเมืองของประชาชนที่แท้จริงจึงไม่มีพวกเขาซ่อนเร้นอย่างแนบเนียน ใครเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีเผด็จการ เสียผู้เสียคนไปเลย เห็นกันมามากแล้ว นับแต่รัฐบาลชุดแรกเรื่อยมา เช่น พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐบาลนายชวน หลีกภัย รัฐบาลนายบรรหาร ศิลปะอาชา รัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ฯลฯ กระทั่งรัฐบาลปู ยิ่งลักษณ์ ก็กำลังหลงทางเข้าสู่มิจฉาทิฐิ วงจรนรกซ้ำรอยเช่นเดิม

(4) เข้าใจผิดเรื่องรูปการปกครอง (Form of Government) ว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย คือเข้าใจผิดว่า ระบบรัฐสภา (Parliamentary System) เป็นประชาธิปไตย อันที่จริงระบบการปกครองเป็นของกลาง และมีไว้เพื่อจัดความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรแห่งอำนาจอธิปไตย และสัมพันธภาพระหว่างประมุขแห่งรัฐ กับฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ ว่าจะถ่วงดุลอำนาจกันอย่างไร ซึ่งไม่เกี่ยวว่าจะเป็นระบอบฯ อะไรก็ได้ เผด็จการก็ได้ ประชาธิปไตยก็ได้

(5) เข้าใจผิดเรื่องการเลือกตั้งว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย การเลือกตั้งเป็นวิธีการอย่างหนึ่งซึ่งเป็นของกลาง ใช้เพื่อเข้าสู่อำนาจทางการเมือง หมายความว่าระบอบฯ อะไรๆ ก็นำไปใช้ได้ ตัวอย่างเช่น ลาว เวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน เขาก็มีการเลือกตั้ง ใช้วิธีการประชาธิปไตย ผู้แทนประชาชนมาจากการเลือกตั้ง และมีความต่างกันที่เขาไม่ซื้อเสียง แต่ของไทยเราใช้เงินซื้อเสียงเป็นใบเบิกทางขึ้นสู่อำนาจ จะหาความชอบธรรมได้จากที่ไหนกัน ก็จะได้แต่พวกอันธพาล อิทธิพล โคตรรวย ทุนสามานย์ขึ้นครองเมือง

ระบอบการเมืองใดไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม มันคือระบอบเผด็จการ จะนำมาซึ่งความพินาศย่อยยับของชาติ ประเทศชาติจะวิบัติหายนะหนักยิ่งขึ้น และเมื่อผู้ปกครองขาดปัญญารู้แจ้งถึงเหตุวิกฤตที่แท้จริงของประเทศชาติ

สาวกพระพุทธองค์ หากยังไม่รู้ว่าเหตุแห่งทุกข์ (สมุทัย) คืออะไรและลดละเลิกให้หมดไปได้อย่างไรก็มิอาจพ้นทุกข์ได้ ฉันใดรัฐบาลท่านไม่รู้เหตุวิกฤตแห่งชาติ ท่านก็จะบริหารประเทศไปอย่างผิดๆ ซ้ำซาก ฉันนั้น

แนวทางแก้ไขในปัจจุบัน กล่าวโดยย่อคือ

ขอให้รัฐบาลผู้จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร่วมกันสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม ตามลักษณะพิเศษของประเทศไทยมาแต่โบราณกาล ดร.ป. แนะนำ เสนอหลักธรรมาธิปไตย 9 โดยย่อ คือ

1) หลักธรรมาธิปไตย จะเป็นเหตุปัจจัยให้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มั่นคง ยั่งยืน ยิ่งใหญ่

2) หลักพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ จะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักอำนาจอธิปไตยของปวงชนอย่างแท้จริง

3) หลักอำนาจอธิปไตยของปวงชน จะเป็นเหตุปัจจัยให้มีเสรีภาพบริบูรณ์ทางความคิดของปวงชนในชาติ

4) หลักเสรีภาพบริบูรณ์ จะเป็นเหตุปัจจัยให้มีความเสมอภาคทางโอกาสของปวงชนในชาติ

5) หลักความเสมอภาคทางโอกาส จะเป็นเหตุปัจจัยให้มีภราดรภาพของปวงชนในชาติ

6) หลักภราดรภาพ จะเป็นเหตุปัจจัยให้มีเอกภาพของปวงชนในชาติ

7) หลักเอกภาพ จะเป็นเหตุปัจจัยให้มีดุลยภาพของปวงชนในชาติ

8) หลักดุลยภาพ จะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักนิติธรรมของปวงชนในชาติ

9) หลักนิติธรรม จะเป็นเหตุปัจจัยให้การดำเนินการใดๆ ทางการเมืองเป็นไปโดยธรรมและเป็นของปวงชนอย่างแท้จริง

ดังกล่าวนี้ เมื่อนำหลักธรรมาธิปไตย 9 มาเป็นหลักการปกครอง จะเป็นปัจจัยให้ประชาชนมีความยุติธรรม ประเทศชาติมีความมั่นคง และปวงชนในชาติมีความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน

จากนั้นรัฐบาลของปวงชน แก้ไขมาตราต่างๆ ปรับปรุงพระราชบัญญัติต่างๆ ให้สอดคล้องกับหลักการปกครองเพียงเท่านี้ประเทศไทยก็จะมีระบอบการเมืองโดยธรรมขึ้นมาทันที จะเห็นว่าไม่ยากเลย

ประเทศไทยก็จะมีการปกครองโดยธรรม เป็นแผ่นดินธรรมขึ้นมาทันทีปรับใช้ระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง ตามแนวพระราชดำริอย่างรอบด้าน ประเทศไทยก็จะได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินทอง ไม่ทำตามที่แนะนำนี้ ก็จะไม่สามารถยุติความขัดแย้ง และมิจฉาทิฐิที่ฝังรากลึกมายาวนานและกว้างขวางลงได้ ขอเพียงให้ท่านนายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ ได้ดวงตาเห็นธรรม เปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่ แล้วท่านจะเป็นนายกฯ คนแรกที่ยิ่งใหญ่ของชาติ รู้ว่าแนะนำยากมาก แต่...ก็ต้องแนะนำเพื่อประโยชน์ของชาติและคนมีปัญญา
สมเพช เสนาะ-บรรหาร !!
สมเพช เสนาะ-บรรหาร !!
สังเกตหรือไม่ว่าในช่วงนี้มักจะมี “เฒ่ารอบจัด”ทางการเมืองมักออกมาเสนอหน้าแสดงความเห็นโน่นนี่ มองเผินๆเหมือนกับการหวังดี เป็นการเตือนสติสังคมให้หันมาจับมือปรองดอง อ้างว่าเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า แต่คงหลงลืมไปว่าการเมืองปัจจุบัน รวมไปถึงทัศนคติของชาวบ้านได้เปลี่ยนแปลงล้ำหน้าไปกว่า นักการเมืองกระจอกพวกนี้ไปนานแล้ว ที่สำคัญด้วยระบบสื่อสารออนไลน์ มีการค้นหาบันทึกเหตุการณ์คำพูดในอดีตได้ไม่ยาก ทำให้คนพวกนี้หลอกต้มไม่ได้ อย่างก่อนหน้านี้ “เฒ่า 40 ตัน” เคยขึ้นเวทีด่า ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวอย่างสาดเสียเทเสียหาว่า “เผาบ้านเอาประกัน” โคตรโกง ด่าสารพัด มีหลักฐานทั้งภาพและเสียงเอามาฉายประจานได้ซ้ำๆตลอดเวลา แต่มาวันนี้กลับตาลปัตรคิดชูธงมาเรียกร้องให้ลบล้างความผิดให้ ทักษิณ คนที่เคยบอกว่าเป็นคนโกงหน้าตาเฉย ขอโทษ พฤติกรรมแบบนี้มันบัดซบยิ่งกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น