รัฐธรรมนูญไม่บกพร่อง ไม่ผิด ผิดที่นักการเมืองชั่วต่างหาก !!

บ้านพระอาทิตย์

เริ่มเดินหน้ากันเต็มพิกัดแล้วสำหรับการเคลื่อนไหวฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคือ ฉบับปี 2550 โดยข้ออ้างเพียงประการเดียวที่ยกขึ้นมาเป็นเหตุผลก็คือ มีต้นตอจากเผด็จการ จากการรัฐประหาร โดยที่ไม่ได้พูดถึงเนื้อหาสาระว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีความเป็นประชาธิปไตยอย่างไร ให้สิทธิกับภาคประชาชนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และที่สำคัญเป็นรัฐธรรมนูญที่ต่อยอดเพิ่มเติมมาจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ฝ่ายที่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงยกย่องว่าเป็นฉบับที่ดีที่สุดนั่นแหละ

สำหรับฝ่ายที่เคลื่อนไหวในลักษณะดิ้นทุรนทุรายให้แก้ไขหรือยกร่างใหม่ในตอนนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักการเมืองที่ถูกลงโทษจากการตรวจสอบของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ บางคนอ้างว่าข้องบังคับเข้มงวดเกินไป ไม่เป็นธรรม อย่างเช่น ร่างของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่มี บรรหาร ศิลปะอาชา เป็นร่างทรงอยู่ก็ออกมาโวยวายอยู่เรื่องหลักเรื่องเดียวก็คือได้รับผลกระทบจากการถูกยุบพรรคชาติไทย ซึ่งก็มีสาเหตุที่ถูกจับได้จากกรณีที่กรรมการบริหารพรรคไปซื้อเสียงทุจริตเลือกตั้ง แล้วถูกศาลสั่งให้ยุบพรรคก็มาโวยวายว่า “โทษแรงไป” ไม่เป็นธรรม ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย

หากพิจารณาจากตรรกะง่ายๆ หากเป็นพรรคการเมืองจริงๆ ทุกคนเป็นเจ้าของแบบมีส่วนร่วมจริง ต้องผ่านการประชุมปรึกษาหารือกันอย่างเข้มงวด ผู้บริหารพรรคทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่ต่างจาก “หลงจู๊” ที่ต้องขึ้นอยู่กับคนเพียงคนเดียว แล้วจะเป็นพรรคการเมืองได้อย่างไร

ขณะเดียวกันในส่วนของพรรคเพื่อไทย นาทีนี้ไม่ต้องอธิบายให้มากความ เพราะสังคมส่วนใหญ่ที่ติดตามสถานการณ์มาอย่างใกล้ชิดย่อมรับรู้กันอยู่แล้วว่า เป้าหมายของการแก้ไขรัฐธรรมนูญคราวนี้ทำเพื่อลบล้างความผิดให้กับ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง และรวมไปถึงรัฐบาลที่นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องการให้ เขากลับมามีอำนาจทางการเมืองอีกรอบ และต้องการได้ทรัพย์สินที่ถูกยึดไปกลับคืนมาเท่านั้น

ที่สำคัญนักการเมืองพวกนี้ทนไม่ได้กับการถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพราะทำให้รู้สึกอึกอัด บางครั้งทำให้การทุจริตคอรัปชั่นที่เคยทำมาได้สะดวก ก็ทำได้ยากขึ้น เนื่องจากพวกเขาเป็น “นักธุรกิจการเมือง” การตั้งพรรคการเมืองก็เหมือนกับการลงทุนชนิดหนึ่ง ที่ต้องมีการลงทุนซื้อ ส.ส. ซื้อเสียง ซึ่งเมื่อชนะเลือกตั้ง ได้อำนาจรัฐมันก็คุ้มค่า เพราะหากลงทุนไปกับการหาเสียงเพียงไม่กี่พันล้านบาทเพื่อแลกกับการเป็นรัฐบาลมันก็คุ้มค่า มีทั้งเงินและอำนาจอยู่ในมือจะชี้นิ้วสั่งการแบบไหนก็ได้

แต่เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่มีบทตรวจสอบเข้มงวดขึ้น มีองค์กรอิสระที่ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงได้ยากขึ้น มันก็ทำให้นักการเมืองที่เคยชินกับการใช้อำนาจรู้สึกทุรนทุรายจะเป็นจะตายขึ้นมาให้ได้

สรุปก็คือการเดินเครื่องของพรรคเพื่อไทย รัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคชาติไทยพัฒนาของ บรรหาร ศิลปอาชา ก็ล้วนแล้วแต่ทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง และนักการเมืองทั้งสิ้น มิหนำซ้ำนักการเมืองที่ว่านั้นยังเป็นนักการเมืองที่อยู่ในข่ายนักการเมืองชั่วๆเสียด้วย บางคนทำมาหากินอยู่กับการเมือง หากินอยู่กับงบประมาณของรัฐมาตลอดชีวิตที่เข้ามาสู่วงการเมือง ตรงกันข้ามแทนที่จะหาทางแก้ไขที่ตัวนักการเมือง กลับคิดที่จะฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง แล้วร่างขึ้นมาใหม่ตามใจชอบ โดยใช้วิธีเลือกตั้งสกปรก ใช้เสียงข้างมากภายใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตยจอมปลอมบังหน้า

นี่ว่ากันเฉพาะเรื่องเหตุผลที่ไม่สมควรแตะต้องรัฐธรรมนูญ นอกเหนือจากเรื่องที่เข้าข่ายทำผิดกฎหมายที่อาจถูกถอดถอนในภายหลัง เนื่องจากในมาตรา 136 มีข้อห้ามไม่ให้แก้ไขทั้งฉบับ โดยให้แก้ไขเฉพาะในบางมาตราเท่านั้น ซึ่งวิธีการของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ก็คือการเสนอให้แก้ไขมาตรา 291 เพื่อเป็นประตูนำไปสู่การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) เพื่อมายกร่างใหม่ทั้งฉบับ ขณะเดียวกันยังอาจเข้าข่ายความผิดในเรื่องการขัดกันแห่งประโยชน์ เพราะการแก้ไข รัฐธรรมนูญครั้งนี้ทำเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองล้วนๆ ชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์อะไร เนื่องจากเหตุผลไม่ได้เกี่ยวข้องกับอุปสรรคต่อการบริหารบ้านเมืองเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเป็นอุปสรรคต่อนักการเมืองที่คิดมิชอบ ทำให้ไม่อาจทำอะไรได้ตามอำเภอใจต่างหาก

อย่างไรก็ดีการเคลื่อนไหวฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญโดยใช้เสื้อคลุมประชาธิปไตยเที่ยวนี้เริ่มมีคนรู้ทัน และรู้ถึงเป้าหมายความต้องการว่าทำเพื่อใคร ซึ่งก็เริ่มเคลื่อนไหวต่อต้านเช่นเดียวกัน และเชื่อว่ายิ่งนานวัน เมื่อความจริงเริ่มโผล่ออกมาให้เห็นเป็นการยืนยันในช่วงที่มีการยกร่างของ ส.ส.ร.หุ่นเชิดในภายหน้า มันก็ยิ่งปิดไม่มิด และถึงเวลานั้นก็จะยิ่งโกลาหล ประกอบกับเป็นช่วงที่ผลงานการบริหารบ้านเมืองอัน “ห่วยแตก” ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะเป็นช่วง “ข้าวยากหมากแพง” จะเห็นผลอย่างเต็มที่ อันเนื่องจากวิกฤติการณ์พลังงานทำให้ราคาน้ำมันแพง ขณะที่เชื่อว่าโครงการประชานิยมที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเริ่มมีปัญหา ถึงตอนนั้นเมื่อทุกอย่างมาประดังกันเข้ามามันก็มีโอกาสปั่นป่วนจนควบคุมไม่ได้

บางครั้งอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด หากจะก้าวข้ามทักษิณ ชินวัตร กับครอบครัวนี้ไปให้พ้นก็ต้องปล่อยให้สถานการณ์เดินไปจนถึงที่สุด และประจานตัวเอง ถึงจะตาสว่างก็ได้ แม้จะต้องแลกกับความสูญเสียบางอย่างไปบ้างก็ตาม !!