xs
xsm
sm
md
lg

“ชุมพล”บีบ”อรรคพล”หน้าเขียว เตรียมแผนดัน”ลูกเติ้ง”ผงาดคุมสสปน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “อรรคพล” ไขก๊อก ยื่นลาออกจากผู้อำนวยการ สสปน. มีผล สิ้นเดือนมีนาคมนี้ ต้นเหตุใหญ่สุดทนการเมืองบีบหนัก จำใจขอตายเดี่ยว เพื่อปลดแอก องค์กร ไม่ให้ต้องถอยหลังเข้ากระทรวงท่องเที่ยว แหล่งข่าวระบุ สองพี่สอง “ศิลปอาชา” เล็งดันลูกนั่งคุม ขณะที่โครงการ เอฟ-วัน ก็ถูก"ชุมพล" แย่งซีน

นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสื่อลาออกต่อประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) สสปน. ไปแล้ว คาดว่าจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดเพื่อพิจารณาในวันนี้( 6 มี.ค.55) โดยหนังสือลาออกระบุ ว่า ขอลาออกจากการเป็นผู้อำนวยการ สสปน. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 55 ซึ่งเป็นไปตามระเบียบการทำงาน ที่จะต้องยื่นลาออกล่วงหน้า 30 วัน ในหนังสือลาออกครั้งนี้ ไม่มีการระบุถึงสาเหตุของการลาออก

***ขอพักใจก่อนลุยงานต่อ
ภายหลังการลาออก เบื้องต้น คงขอเวลาพักผ่อนสักระยะหนึ่ง จากนั้นอาจรับงานสอนหนังสือ หรือเป็นที่ปรึกษา เพราะตัวเองมีความถนัดในเรื่องมาร์เก็ตติ้ง หรือไม่อาจลงทุนเปิดบริษัทให้คำปรึกษาด้านการตลาด ส่วนจะกลับเข้าสู่วงการเมืองอีกหรือไม่ ขอบอกตามตรงว่าขณะนี้ยังไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น

“ผมทำงานมาเยอะมาก ทั้งด้านการเมือง และ ภาคธุรกิจ การลาออกครั้งนี้ เพื่อต้องการยุติปัญหา ในทุกเรื่อง เพราะต้องการให้ สสปน. ซึ่งเป็นองค์การมหาชน ที่เดินทางได้ไกลจากการเมืองมากแล้ว ให้เดินต่อไปได้อีก อย่าต้องถอยหลังกลับไปอยู่ที่เดิม เป็นองค์การมหาชนอย่างนี้ดีแล้ว จึงเห็นว่า ถ้าองค์กรไม่มีผมแล้วเดินหน้าต่อไปได้ มีงบประมาณมาหล่อเลี้ยงผมพอใจแล้ว ซึ่งผมก็บอกพนักงานไว้ว่าพยายามรักษาสถานภาพของสสปน.ไว้ให้ได้ เรามาได้ไกลแล้ว”

สำหรับงบประมาณประจำปี 2555 ในส่วนของงบหาเสียงเพื่อชิงการเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิล์ดเอ็กซ์โป ในปี 2020 สสปน.เสนอขอ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามมติ ครม. ชุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ถูกตัดออกไปทั้งหมด เป็นการตัดโดยสำนักงบประมาณ เพียง 20 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 80 ล้านบาท นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้ตัดเอง ซึ่งการที่ มติ ครม.ชุดปัจจุบัน มอบให้ กระทรวงต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการเรื่อง ประชาสัมพันธ์ประเทศ ตนเองก็สบายใจ และไม่รู้สึกว่าจะเสียหายอะไร เพราะในการหาเสียงก็ต้องใช้บุคลากรของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์อยู่แล้ว โดยมีรัฐบาลให้การสนับสนุน 100% ซึ่งขณะนี้ถือว่า ไทยเป็นประเทศที่น่าสนใจ มากที่สุด เมื่อเทียบกับคู่แข่ง อย่าง ดูไบ หรือ บราซิล

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังเป็นห่วงหลังจากที่ผมพ้นสภาพผู้อำนวยการสสปน.ไปแล้ว ก็คือ กังวลเรื่องของการทำงาน เสนอประเทศไทยยื่นประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมโลก(เวิลด์ เอ็กซ์โป) 2020 จะขาดความต่อเนื่อง ในเรื่องของการประสานงาน เพราะ โดยตำแหน่งผู้อำนวยการ สสปน. จะเป็นผู้ประสานงาน ระหว่าง สำนักงานมหกรรมโลก (บีไออี) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ การประสานงานระหว่างบุคคล ในประเทศไทย เช่น กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น รวมถึงการขอคะแนนเสียงจากประเทศสมาชิก เพราะ การที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพหรือไม่ คอนเน็คชั่นมีความสำคัญมาก ไม่แพ้เรื่องของแนวคิดการจัดงานและสถานที่ ซึ่งขณะนี้ก็ใกล้เวลาประมูลสิทธิ์ แล้ว และในเดือนมิ.ย.55 ผู้แทน บีไออี ก็จะเดินทางมาตรวจสอบความพร้อมของประเทศไทยอีกครั้ง

****ตั้งคุณสมบัติ 3 ข้อให้ผู้อำนวยการคนใหม่

นายอรรคพล กล่าวว่า โดยกระบวนการ ต่อไป บอร์ด สสปน. จะต้องเปิดรับสมัคร และ คัดเลือกผู้อำนวยการ คนใหม่ ซึ่ง โดยส่วนตัวมองว่าผู้ที่สนใจสมัคร ต้องมีคุณสมบัติ 3 ประการหลัก ได้แก่ เป็นผู้มีความเข้าใจลักษณะการทำงานขององค์กรที่มีความคล่องตัวในการทำงานสูง สามารถทำงานกับเอกชนได้ , มีความสามารถในการติดต่อกับต่างประเทศ , ด้วยสสปน.เป็นองค์กรสมัยใหม่ ดังนั้นผู้บริหารจะต้องคิดนอกกรอบได้ ไม่จำกัดเพียงพื้นที่สี่เหลี่ยม เพื่อให้องค์กรและประเทศเกิดประโยชน์สูงสุด ก้าวตามสถานการณ์โลกได้อย่างรวดเร็ว

แหล่งข่าวจากสสปน.กล่าวว่า นายอรรคพล สรสุชาติ ได้เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการโดยผ่านการคัดเลือกจากบริษัท เฮดฮันเตอร์ ดำรงตำแหน่งถึงขณะนี้ 2 ปี 5 เดือน นับว่าเป็นผู้อำนวยการ สสปน.ที่อยู่นานสุดเท่าที่มีมา

ล่าสุด มีกระแสข่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งมีนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ดูแลสสปน. เตรียมดึงน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา บุตรสาว หรือนายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชาย ของนายบรรหาร ศิลปะอาชา มาเป็นผู้อำนวยการ สสปน. คนใหม่ ส่วนโครงการ จัดแข่ง ฟอร์มูล่าวัน ในประเทศไทย ซึ่งเป็นไอเดีย ของนายอรรคพล ได้ถูกนายชุมพล ศิลปะอาชา นำไปให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินการ ทั้งที่แผนการจัดงานสสปน.ทำเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการหารือกับ นายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของ เรดบลู และการเจรจากับผู้ถือลิขสิทธิ์ เบื้องต้น จะใช้ถนนราชดำเนินและรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เป็นเส้นทางแข่งขันโชว์ความงามของกรุงเทพฯ ด้วยงบรวมทั้งหมดไม่กิน 2 พันล้านบาท แต่เมื่อ การกีฬานำไปดำเนินการ ไม่แน่ใจว่า จะมีการใช้งบสร้างสนามแข่งใหม่หรือไม่ และงบจะบานปลายเท่าใด ไม่สามารถตอบได้
กำลังโหลดความคิดเห็น