ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
“เน วัดดาว”
“แก๊งขนมหวาน”
“แก๊งโอรส”
ณ เวลานี้ ชื่อแก๊งอันธพาลยุคดิจิตอลทั้ง 3 ชื่อเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่กำลังกระหึ่มดังอย่างไร้ขอบเขตจำกัด โดยเฉพาะ “เน วัดดาว” ที่โด่งดังในชั่วข้ามคืนจนสื่อทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ต้องไล่ล่าควานหาตัวและแห่แหนกันไปสัมภาษณ์อย่างเอิกเกริก
แต่จะอย่างไรก็ตาม เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า สังคมคงสับสนว่า อันธพาลทั้ง 3 แก๊งนี้คือใคร มีความสัมพันธ์กันอย่างไร และทำไมต้องหักเหลี่ยมเฉือนคมกันถึงขนาดโพสต์ข้อความและคลิปวิดีโอออกเผยแพร่ทางสื่ออินเตอร์เน็ตท้าทายกันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
จากนั้น สังคมก็สับสนหนักเข้าไปอีก เมื่อกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) นำโดย “เดอะแจ๊ด-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล” ตั้งโต๊ะแถลงข่าวการจับกุม “อดีตสมาชิกแก๊งโอรส 6 คน” เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา ประกอบด้วยนายพงค์ธร หรือ อาร์ม พันทอง อายุ 23 ปี นายดวง ศรีแก้ว อายุ 23 ปี นายพสธร หรือนนท์ ทับแก้ว อายุ 20 ปี นายประวุฒิ หรือเด้ง ปานทอง อายุ 23 ปี นายกิตติชัย หรือโฟล์ค ธาราชีพ อายุ 23 ปี และนายชัยวัฒน์ หรือตี๋ พันทอง อายุ 18 ปี
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ทำไมกองบัญชาการตำรวจนครบาลถึงไปจับกุมอดีตสมาชิกแก๊งโอรส ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว สมควรที่จะไปลากตัวแก๊งโอรสตัวจริงเสียงจริงมามากกว่า
ซ้ำร้าย ในการจับกุมดังกล่าว นอกจากบิ๊กแจ๊ดแล้ว ยังปรากฏภาพของ “พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล” ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9(บก.น.9) ที่รับผิดชอบพื้นที่ฝั่งธนบุรี ยืนเคียงข้าง “ ร.ต.อ.ดวง อยู่บำรุง” รองสารวัตรศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล(รอง สว.ศฝร.บช.น.) ลูกชาย ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีที่บิ๊กแจ๊ดเพิ่งเซ็นต์คำสั่งย้ายสดๆ ร้อนๆ ให้ไปนั่งเป็นนายเวร รวมอยู่ด้วย
แน่นอน เรื่องนี้ย่อมไม่ธรรมดา และไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่อดีตสมาชิกแก๊งโอรสสารภาพต่อตำรวจว่า “เกิดขัดแย้งเรื่องยาเสพติดกันในกลุ่ม จึงได้แยกตัวออกตั้งแก๊งใหม่ และมีเรื่องตามล้างแค้นกันต่อเนื่อง”
เพราะแก๊งโอรสคือแก๊งโจรที่ไม่ธรรมดา เป็นองค์กรอาชญากรรมระดับชาติ เพราะมีระบบอาชญากรครบถ้วนทุกกระบวนความ ค้าขายยาเสพติดแบบครบวงจร ยาไอซ์ ยาอี มียาบ้า และที่เด็ดไปกว่านั่นคือมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ว่า แก๊งโอรสมีสีกากีชั้นผู้ใหญ่และนักการเมืองเอ็นดูเอื้ออาทร
จากการเปิดเผยของ นายพงค์ธร พันทอง เจ้าของฉายา “อาร์ม โอรส” ทำให้ได้ข้อมูลว่า เดิมทีนั้นนายอาร์มคือสมาชิกแก๊งโอรสที่ทรงอิทธิพลยิ่งในย่านฝั่งธนบุรี จากนั้นเกิดขัดผลประโยชน์และตั้งแก๊งขึ้นมาใหม่โดยให้ชื่อว่า “แก๊งขนมหวาน”
ตามต่อด้วยข้อมูลจากปากของ “เน วัดดาว” ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการปากโป้ง ทางช่อง 8 ในเครือบริษัท อาร์เอสโปรโมชั่น เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2555 ว่า “ต้นเหตุของมหากาพย์การท้ารบของ 2 แก๊งดังย่านฝั่งธนฯนั้นมาจากการเข้าใจผิดที่กลุ่มของแอล โอรส เข้าใจว่าผมไปเปิดฉากยิงใส่ ภายหลังออกมาจากกลุ่ม ซึ่งจริงๆ แล้ววัน และเวลา เกิดเหตุ ตัวผมและเพื่อน ถูกจับอยู่บนโรงพักไม่สามารถออกไปกระทำได้ ซึ่งเรื่องนี้เคยอธิบายไปแล้ว แต่ทาง แอล โอรส ไม่เชื่อ และมั่นใจว่าผมอยู่เบื้องหลัง จนทำให้เป็นที่มาของคลิปที่ตอบโต้กันไปมาดังกล่าว”
จากนั้น เน วัดดาวก็ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมในรายการเช้าดู วู้ดดี้ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2556 ว่า “อาร์ม โอรสที่ถูกจับเป็นเพื่อนสนิท เคยกินเคยนอนด้วยกันเลยครับ วันนี้เพื่อนเห็นผมเลิกได้ทุกสิ่งกลับตัวแล้วเขาคงดีใจและยินดีกับผมด้วย”
สรุปรวมความก็คือ ทั้งแอล โอรส อาร์ม โอรส และเนวัดดาว เคยอยู่ในแก๊งเดียวกันคือ “แก๊งโอรส” มาก่อน จากนั้นจึงเกิดแตกคอกันและเปิดฉากทำสงครามห้ำหั่นกัน
'เน วัดดาว' เป็นที่รู้จักโด่งดังจากการประกาศท้ารบกับ 'แก๊งโอรส' ผ่านยูทูบ หลังประกาศแยกตัวออกจากแก๊งโอรสและเปลี่ยนฉายาจาก 'เน โอรส' เป็น 'เน วัดดาว' ตามแหล่งพำนักซึ่งอยู่ย่านวัดดาวดึง และตั้งแก๊งใหม่ชื่อ 'แก๊งขนมหวาน' เนื่องจากถูกรุ่นพี่ในแก๊งอย่าง 'คิว โอรส' หักหลัง โดย 'คิว โอรส' ซึ่งถูกตำรวจจับข้อฆ่าเจ้าพนักงานตายโดยเจตนา เนื่องจากได้ลั่นไกสังหารดาบตำรวจนายหนึ่งจนเสียชีวิต ได้ให้การซักทอดว่าปืนที่ใช้เป็นอาวุธสังหารนั้นเป็นปืนของ 'เน วัดดาว' ซึ่งทางฝ่ายแก๊งโอรส ไมว่าจะเป็น 'ตี๋ โอรส' ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง หรือลูกน้องระดับรองลงมาอย่าง 'แอล โอรส' ต่างก็ดาหน้าออกมาปะทะคารมกับ 'เน วัดดาว' อย่างเผ็ดร้อน และประกาศว่าอยากนัดเจอมา 'วัด' กันให้หายเกรียน
ว่ากันว่าเมื่อแค้นยังคาใจทำยังไงก็ไม่หายแค้น 'เน วัดดาว' จึงส่ง ไปไล่ยิง 'แอล โอรส' และ 'ตี๋ โอรส' ซึ่งเป็นอดีตลูกพี่ ขณะที่ 'เน วัดดาว' และลูกพี่คนใหม่ 'อาร์ม โอรส' หรือ 'พงค์ธร พันทอง'ซึ่งออกจากแก๊งโอรสมาด้วยกัน ก็จับมือไล่กระทืบบรรดาลูกกระจ๊อกแก๊งโอรสเพื่อจัดการแก๊งนี้ให้สิ้นซาก แต่ขณะที่กำลังชุลมุนกันนั้นทั้งสองถูกตำรวจรวบตัวข้อหาทะเลาะวิวาท ส่วนทางด้าน 'ตี๋ โอรส' และ 'แอล โอรส' ต่างก็หนีตายจากการไล่ล่า แต่เมื่อไม่มีสัจจะในหมู่โจร จึงเกิดกรณีเพื่อรักหักเหลี่ยมโหดระหว่าง 'ตี๋ โอรส' และ 'แอล โอรส'
ด้าน 'อุ้ม' ภรรยาคนสวยของ 'แอล โอรส' จึงออกอุบายจัดฉากปล่อยข่าวว่า 'แอล โอรส' ถูกยิงตาย โดยโพสต์ภาพศพของ 'แอล โอรส' พร้อมทั้งภาพงานศพของนักเลงใหญ่ อีกทั้งยังแก้แค้นด้วยการปล่อยข่าวว่า 'เน วัดดาว' และ 'แอล โอรส' เป็นคนลงมือ ด้วยหวังจะให้ตำรวจบุกจับตัวคู่อริมาดำเนินคดี ซึ่งแม้กฎหมายจะทำอะไร 'เน วัดดาว' ไม่ได้ แต่ก็ทำให้บรรดาสาวกและแก๊งสก๊อยที่ชื่นชม 'แอล โอรส' เป็นไอดอลต่างก็เข้ามาแสดงเคียดแค้นเป็นการใหญ่
ขณะที่ฝ่าย 'เน วัดดาว' แม้จะตีปีกกับข่าวดีนี้ และเริงร่ากับการเป็นเจ้าใหญ่ค้ายา โดยมี 'อาร์ม โอรส' เป็นหัวหน้าครือข่าย แต่ก็ไม่วายรีบออกมาแก้ตัวผ่านยูทูปว่า “ผมไม่ผิดนะครับผมไม่ผิด” ตามด้วยคลิปร้องไห้หารุ่นพี่ในแก๊งโอรสเป็นการใหญ่ โดยเอาขวดฟาดหัวตัวเองเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อแก๊งโอรสที่เคารพทุกคน ซึ่งคลิปที่แสดงถึงความเป็นพระเอกผู้แสนดีนี้ มีชื่อว่า “เนรักทุกคน”
ในที่สุดคำว่า “ความลับไม่มีในโลก” ก็ยังใช้ได้เสมอ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเดือนเศษความจริงก็ปรากฏว่าแท้จริงแล้ว 'แอล โอรส' ยังมีชีวิตอยู่ แต่ 'ซ้อนกล' โดยปล่อยข่าวว่าตายเพื่อหนีการไล่ล่าของคู่อริและหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกบดานอยู่ที่ชลบุรี และ 'แอล โอรส' ก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้ 'เน วัดดาว' ด้วยการอัพโหลดคลิปขึ้นเฟสบุก ส่งสารท้ารบกับ 'เน วัดดาว'
แต่แม้จะถูก 'แอล โอรส' ซ้อนกลตุ๋นจนเปื่อย แต่ 'เน วัดดาว' ก็ยังไม่เจ็บใจเท่ากับที่รู้ว่าแท้จริงแล้วคนที่เป็นคนยืนยันกับ 'แอล โอรส' ว่า 'เน วัดดาว' อยู่เบื้องหลังการสังล่าสังหารอดีตลูกพี่นั้นหาใช่ใคร หากแต่คือ 'จีจี้พรานนก ' เมียคนสวยของ 'เน วัดดาว' นั่นเอง เพราะขึ้นชื่อว่า 'ลูกผู้ชาย' แล้วไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือเป็นโจร การถูก 'เมียรัก' หักหลังนั้นมันเจ็บยิงกว่าถูกกราดยิงด้วยห่ากระสุนเสียอีก
ซึ่งสาเหตุที่ 'จีจี้ พรานนก' ยอมแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ 'เน วัดดาว' นั้นก็เพราะพลาดพลั้งเกือบถูก 'อุ้ม' เมียรักของ 'แอล โอรส' ฆ่าตายในวัน 'นัดดวล' ของเมียนักเลงจากสองขั้ว หลังจากที่ 'จีจี้ พรานนก' ออกอาการกร่างตามสามีจากข่าวการตายของ 'แอล โอรส' ฝ่าย 'จีจี้ พรานนก' จึงส่งสารท้ารบกับ 'อุ้ม' แต่จีจี้พลาดพลั้งสู้ไม่ได้ จึงต้องยอมกราบเท้าขอชีวิตจาก 'อุ้ม' พร้อมทั้งเล่าความจริงเรื่อง 'เน วัดดาว' ให้ฟัง 'อุ้ม' ซึ่งเห็นว่า 'จีจี้ พรานนก' เคยสนิทสนมและอยู่แก๊งเดียวกันมาก่อนจึงรับจีจี้กลับเข้าแก๊งโอรส ซึ่งครั้งนั้น 'เน วัดดาว' ซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าเกิดอะไรขึ้นก็ถึงกับร่ำไห้ที่อยู่ๆเมียรักก็แปรพักตร์ไปอยู่กับศัตรู
อย่างไรก็ดี ความต่างของ 'เน วัดดาว' และ 'แก๊งโอรส' นั้นคือการสร้างภาพความเป็น 'พระเอก' และ 'ผู้ร้าย' เพราะในขณะที่บรรดาสมาชิก 'แก๊งโอรส' ต่างโชว์เหนือด้วยการ 'โชว์เสพยา' และประกาศศักดาผ่านยูทูป 'เน วัดดาว' กลับประกาศตัวผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คว่าเขาได้ออกจากแก๊งโอรสและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี หันมาประกอบอาชีพสุจริตด้วยการขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างและช่วยย่าร้อยพวงมาลัยขายแล้ว ทำให้กระแสในโลกออนไลน์และสังคมส่วนใหญ่มอง 'เน วัดดาว' ในแง่ดีว่าเป็นโจรกลับใจ
สื่อหลายสำนัก ไม่ว่าจะเป็น 'รายการปากโป้ง' ทางช่อง 8 เคเบิลทีวีในเครือ บมจ.อาร์เอส 'รายการเช้าดูวูดดี้' ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ทีวี 'รายการเปิดหน้าคุย' ที่ออกอากาศทางเนชั่นชาแนล 'รายการข่าว 5 หน้า 1” รายการข่าวที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และอีกสารพัดรายการที่ต่างแห่แหนกันไปสัมภาษณ์และทำสกู๊ปชีวิตของ 'เน วัดดาว' ทำให้เรื่องราวของ 'เน วัดดาว' และ 'แก๊งโอรส' ไม่ได้เป็นประเด็นฮอตอยู่เฉพาะในโซเชียลเน็ตเวิร์กเท่านั้น แต่กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ที่ถูกกล่าวถึงไปทั่วประเทศ
ขณะที่โดยข้อเท็จจริงแล้ว มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับแก๊งโอรสจากแฟ้มข้อมูลอาชญากรรมที่ลึกลับซับซ้อนไม่แพ้กัน
แก๊งโอรสมีถิ่นกำเนิดละแวกวัดราชโอรส เขตบางขุนเทียน โดยพฤติกรรมที่ชั่วร้ายของแก๊งนี้ก็คือก่อเหตุลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ และค้ายาเสพติดในย่านฝั่งธนฯ มีสมาชิกร่วมแก๊งประมาณ 15 คน มีเครือข่ายใหญ่โตใช้เงินใช้ทองซื้อข้าราชการ ซื้อคุกที่เรือนจำพิเศษธนบุรี มีนักการเมืองหนุนหลัง ภายหลังถูกตำรวจหลายหน่วยงานเข้าทลาย จึงเปลี่ยนทำเลมาเคลื่อนไหวอยู่หลัง สน.บางกอกใหญ่ ในพื้นที่ตำรวจนครบาล 7 และส่งยาเสพติดในพื้นที่ สน.บางกอกใหญ่ สน.บางกอกน้อย สน.บางขุนนนท์ สน.ท่าพระ และ สน.บางพลัด
ตี๋ โอรส หรือ นายพัชชวัตร หรือตี๋ บุญมาดี อายุ 30 ปี หัวหน้าแก๊ง ปัจจุบันถูกดำเนินคดีข้อหาครอบครองยาเสพติด ท้องที่ สน.วัดพระยาไกร และหลบหนีระหว่างประกันตัวในชั้นศาล
อาร์ท โอรส ผู้ร่วมก่อตั้งแก๊ง ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
ปลา โอรส ผู้ร่วมก่อตั้งแก๊ง ปัจจุบันวางมือ
คิว โอรส หรือ นายบุญญฤทธิ์ ด้วงไพร อายุ 22 ปี สมาชิกในแก๊ง ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2555 หลังก่อเหตุยิง ดาบตำรวจสนิท ริ้วทองชุ่ม ผู้บังคับหมู่งานจราจร สน.บางยี่ขัน ช่วยราชการงานสืบสวน ตำรวจนครบาล 7 เสียชีวิตภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 28 หรือ ซอยวัดดงมูลเหล็ก ส่วนก่อนหน้านี้ในปี 2549 เคยถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ และปี 2552 เคยถูกจับในข้อหาครอบครองยาเสพติด
แอล โอรส หรือ นายศราวุธ ศรีกำเนิด อายุ 26 ปี บ้านอยู่ใกล้ๆ กับวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร พื้นที่ สน.บางกอกใหญ่ เมื่อก่อนเข้าร่วมเป็นสมาชิกแก๊งโอรส ภายหลังแยกตัวมาตั้งแก๊งปีศาจดำ ร่วมด้วย “อาร์มเล็ก” และ “นิว” ฯลฯ แต่ยังเป็นพันธมิตรกับแก๊งโอรสอยู่ ประวัติต้องคดีตั้งแต่อยู่มัธยม 1 มีพฤติกรรมที่ชอบใช้ความรุนแรง
อาร์ม โอรส หรือ นายพงค์ธร พันทอง อายุ 23 ปี เคยติดคุกในคดียาเสพติด ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2555 เมื่อก่อนเข้าร่วมเป็นสมาชิกแก๊งโอรส ภายหลังเกิดแตกคอกับ ตี๋ โอรส เพราะเห็นว่า ตี๋ โอรส ทำนาบนหลังคนและถูกเอาเปรียบ จึงแยกตัวมาตั้งเป็นแก๊งขนมหวาน โดยนำตัว “เน โอรส” ไปด้วย มีบ้านพักในหมู่บ้านบัวทอง อ.บางบัวทอง และมีอาชีพเปิดร้านรับสักอยู่ที่ย่านคลองหลอด
สำหรับสมาชิกแก๊งขนมหวานประกอบด้วยนายดวง ศรีแก้ว อายุ 23 ปีนายพสธร หรือนนท์ ทับแก้ว อายุ 20 ปี นายประวุฒิ หรือเด้ง ปานทอง อายุ 23 ปี นายกิตติชัย หรือโฟล์ค ธาราชีพ อายุ 23 ปี นายชัยวัฒน์ หรือตี๋ พันทอง อายุ 18 ปี (น้องชายนายอาร์ม) ปัจจุบันถูกจับกุมได้ยกเก๊ง เมื่อ 21 ม.ค. พร้อมยาบ้า 100 เม็ด ยาไอซ์ 19 กรัม เครื่องชั่งน้ำหนักยาไอซ์ 1 อัน อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.ยี่ห้อ กล็อก 19 1 กระบอกพร้อมซองพก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. 33 นัด พร้อมซองบรรจุกระสุนแบบสั้นและยาวรวม 2 อัน รถ จยย. 3 คัน และรถยนต์
เน วัดดาว หรือ เน โอรส หรือ นายนครินทร์ พุ่มระนาด อายุ 22 ปี เมื่อก่อนเข้าร่วมเป็นสมาชิกแก๊งโอรส ภายหลังตามไปอยู่แก๊งขนมหวานร่วมกับ อาร์ม โอรส ก่อนจะวางมือ หันมาขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง ย่านวัดดาวดึงษาราม เขตบางยี่ขัน พร้อมกับคุมตู้เกมเพลย์สเตชั่นที่บ้าน เป็นเด็กกำพร้า พ่อกับแม่เสียชีวิตตั้งแต่อายุ 5 ขวบ อาศัยอยู่กับปู่และย่า ที่บ้านก็ประกอบอาชีพขายพวงมาลัย ร้อยมะลิ ร้อยดอกไม้ขาย เคยถูกจับในคดีเสพยาเสพติด ประกันตัวออกมาสู้คดี
มด โอรส สมาชิกใหม่ เด็กของ ตี๋ โอรส
ปลาทู โอรส สมาชิกใหม่ เด็กของ ตี๋ โอรส
เปิ้ลสกล โอรส สมาชิกใหม่ เด็กของ ตี๋ โอรส
จุกหน้าลาย โอรส สมาชิกใหม่ เด็กของ ตี๋ โอรส
แต่เหตุการณ์ยังไม่หมดและยังไม่ได้ยุติลงเพียงแค่การจับกุมอดีตแก๊งโอรสทั้ง 6 คน
เพราะล่าสุดโลกออนไลน์ก็กลับมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงอีกครั้ง และเที่ยวนี้ดูเหมือนว่า จะหนักหนาสาหัสกว่าเก่าอีก เมื่อมีการปล่อยของชิ้นใหม่ออกมาชนิดที่ต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
ของชิ้นใหม่ที่ว่านั้นถูกปล่อยออกมาในเว็บเพจ Samongnoiofdestiny โดยใช้ชื่อว่า “แรคโอรส ออนไลน์” โดยนำไปโยงกับเกมดังที่มีผู้เล่นทั่วโลกอย่าง “แร็คนาร็อก” พร้อมทำกราฟฟิกประกอบอธิบายเอาไว้อย่างสวยงามและเป็นเรื่องเป็นราว พร้อมซุกซ่อนปริศนาที่ประหนึ่งเฉลยเอาไว้ว่า ใครคือ หัวหน้าตัวจริงของแก๊งโอรสที่โด่งดัง ท้าทายกฎหมาย กลายเป็นไอดอลบนเส้นทางมืดของเด็กแว๊น และสก๊อย...
สำหรับเนื้อหาของแรคโอรสออนไลน์นั้น ดำเนินเรื่องผ่านภาษาเกมออนไลน์ โดยเริ่มต้นการอธิบายความยิ่งใหญ่ของแก๊งโอรสผ่านรหัสภาษาเกมที่ว่า กิลด์ซึ่งหมายถึงกลุ่ม ของโอรสนั้น มีความยิ่งใหญ่มากเติบโต มีจำนวนถึง 500 คน แบ่งเป็น 10 กิลด์ใหญ่ๆ ขยายอยู่ทุกมุมของเมืองใหญ่ สมาชิกส่วนใหญ่มาจากโลกมืดและต้องการมีอิทธิพล
จากนั้นก็เปิดฉากด้วยตัวหัวหน้ากิลด์ที่มีชื่อว่า “ตี๋ โอรส” เจ้าของคำพูดฮอตติดปากว่า “เข้าใจป่ะ” ตามติดมาด้วย แอล โอรส ฉายา โร๊ก ลุมพินี และ คิว โอรส ฉายามือสังหาร ตัวละครเอกอีกคนที่มักจะได้ขายของผิดกฎหมาย ขนส่ง ในโลกมืด จากนั้นก็บรรยายวิธีการทำมาหากินของกิลด์โอรสว่า ประกอบไปด้วยธุรกิจผลิตกฎหมายอะไรบ้าง เช่น การเรียกเก็บค่าคุ้มครอง รวมทั้งรายได้จากการขายยา หรือ ไวท์สลิม White Slim
และที่เด็ดที่สุดก็คือการเปิดหัวหน้าตัวจริง ผู้เป็นหัวหน้า GM ผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงสีกากี และใช้ชื่อว่า GOD_PORERM หรือในชื่อภาษาไทยว่า ก๊อตพ่อเหลิม โดยมีการครอปรูปหน้า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงมาใส่ในรูปตัวการ์ตูน และมีข้อความระบุว่า จากแก๊งโอรสว่า “ฉันมีเส้นสายกับหัวหน้า GM ให้คอยเสกการ์ด โกลเด้น บั๊ก เอามาขายและแบ่งตังค์กันไงล่ะ”
แต่ในที่สุดความสัมพันธ์อันชื่นมื่นของแก๊งโอรสกับ ก๊อตพ่อเหลิม ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดฝันเอาไว้ เมื่อ คิว โอรส ฉายามือสังหาร ได้ลอบขายของ ได้เงินมาก้อนหนึ่ง ก็อตพ่อเหลิมรู้ก็ให้ลูกน้องรีบตามจับ คิว โอรส เพราะต้องการฮุบเงินเป็นของตนเอง ซึ่งคิว โอรส ก็พยายามหนี แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด
ก็อต พ่อเหลิมหักหลัง คิว โอรสไม่ยอมเปิดฉากยิงต่อสู้ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกจับกุมตัว
จากนั้นฉากของเรื่องก็ตัดกลับมาที่ตัวละครที่สำคัญอีก 2 ตัวคือ เน โอรส ที่ถูกวางตัวเอาไว้ให้เป็นเหยื่อ และเมื่อเนรู้ทันแผนการอันชั่วร้าย จึงประกาศแยกตัวออกจากแก๊งโอรส พร้อมรวบรวมพรรคพวกเพื่อนฝูงออกมาตั้งแก๊งใหม่โดยใช้ชื่อว่า “แก๊งขนมหวาน” และเปลี่ยนชื่อตัวเองเสียใหม่เป็น “เน วัดดาว ส่วนอีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่แยกตัวออกมาร่วมกับเนก็คือ อาร์ม โอรส สมญา นักปรุง ไวท์สลิม
แก๊งขนมหวาน และ แก๊งโอรส กลายเป็นอริต่อกรกัน ชิงดีชิงเด่น และเปิดสงครามต่อสู้กันมาเป็นระยะๆ มีการระบุกำลังคนว่า ปัจจุบันนี้ โอรส มีสมาชิกหลักๆ 47 คน และ ขนมหวานมี 41 คนพร้อมเปิดสงครามกันอย่างเต็มที่
เรื่องราวของทั้งสองแก๊ง ดำเนินไปอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ โดยมี GM ใหญ่คอยสั่งการและชักใยผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง โดย เป้าหมาย GM ต้องการคอยล้างบางสำหรับผู้ที่ขัดประโยชน์ ทั้งมีการสั่งเก็บ และใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ
นี่คือมหากาพย์ของแก๊งโจรที่มีชื่อว่า แก๊งโอรส ซึ่ง Samongnoiofdestiny ดำเนินการจัดทำขึ้นมาด้วยความตั้งใจและยากลำบาก ส่วนจะเป็นความจริงหรือไม่ กาลเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์