ASTV ผู้จัดการรายวัน - บช.น.แถลงผลจับกุมอดีตสมาชิกแก๊งโอรส ที่บ้านพักย่านนนทบุรีได้ผู้ต้องหา 6 คน พร้อมยึดของกลางเป็นยาเสพติดและปืนพก หัวโจกสารภาพเกิดขัดแย้งเรื่องยาเสพติดกันในกลุ่ม จึงได้แยกตัวออกตั้งแก๊งใหม่ และมีเรื่องตามล้างแค้นกันต่อเนื่อง ตร.เร่งตามล่าสมาชิกที่เหลือ
วานนี้ (22 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สส.บก.น.9 ร่วมแถลงจับกุม นายพงค์ธร หรือ อาร์ม พันทอง อายุ 23 ปี นายดวง ศรีแก้ว อายุ 23 ปี นายพสธร หรือนนท์ ทับแก้ว อายุ 20 ปี นายประวุฒิ หรือเด้ง ปานทอง อายุ 23 ปี นายกิตติชัย หรือโฟล์ค ธาราชีพ อายุ 23 ปี และนายชัยวัฒน์ หรือตี๋ พันทอง อายุ 18 ปี พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 100 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์)รวมทั้งหมดประมาณ 19 กรัม เครื่องชั่งน้ำหนักยาไอซ์ 1 อัน อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.ยี่ห้อ กล็อก 19 จำนวน 1 กระบอกพร้อมซองพก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 33 นัด พร้อมซองบรรจุกระสุนแบบสั้นและยาวรวม 2 อัน รถจยย. 3 คัน รถยนต์ และอื่นๆอีกจำนวนมาก โดยสามารถติดตามจับกุมได้ที่บ้านพักเลขที่ 111/150 ซอย 13/2 หมู่บ้านบัวทอง ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.ชยุต กล่าวว่า จากกรณีสื่ออินเทอร์เน็ต ได้มีการกล่าวถึงแก๊งวัยรุ่นที่มั่วสุมเป็นอันธพาล มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธปืน โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “แก๊งโอรส” และมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน สาเหตุมาจากหักหลังกันเรื่องยาเสพติด และโพสต์ข้อความและคลิปวิดีโอออกเผยแพร่ทางสื่ออินเทอร์เนตท้าทายกัน
พล.ต.ต.ชยุต กล่าวอีกว่า กก.สส.บก.น.9 ได้ทำการสืบสวนทราบว่า หนึ่งในสมาชิกแก๊งโอรส คือ นายพงค์ธร “อาร์ม โอรส” ได้หนีไปกบดานอยู่ที่บ้านพักย่านบางบัวทองและรวบรวมสมาชิกเป็นเด็กวัยรุ่น เนื่องจากขัดแย้งกับสมาชิกแก๊งโอรสคนอื่น เพราะหักหลังยาเสพติดกันและการแบ่งเงินที่ได้มาจากการขายยาเสพติดไม่ลงตัว ซึ่งอาร์ม โอรส ก็ยังลักลอบจำหน่ายยาเสพติดอยู่เช่นเดิม
“จนกระทั่งวานนี้ (21 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรีเพื่อตรวจค้นบ้านพักหลังจับกุมดังกล่าว โดยนำกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้น ซึ่งนายอาร์มและสมาชิกแก๊งไม่ทันตั้งตัว พร้อมควบคุมตัวได้ทั้งหมด ก่อนจะทำการตรวจค้นภายในบ้านพักพบยาบ้า ยาไอซ์ อาวุธปืนกล็อก 19 พร้อมเครื่องกระสุน ของกลางทั้งหมด ทั้งนี้ ตำรวจจะขยายผลจับกุมสมาชิกแก๊งคนอื่นๆ รวมถึง แก๊งโอรส ที่มีนายตี๋และนายแอล โอรส เป็นหัวหน้าแก๊งด้วย”พล.ต.ต.ชยุต กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวว่า ในส่วนที่มีสมาชิกแก๊งโอรส โพสต์คลิปว่าเคยยิงตำรวจด้วยนั้น กำลังตรวจสอบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ส่วนสมาชิกแก๊งโอรสที่เหลืออยู่ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตามล่ามาให้หมด
ด้านนายอาร์ม โอรส ผู้ต้องหา กล่าวว่า เคยติดคุกในคดียาเสพติดและเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2555 เพิ่งจะพ้นโทษออกมาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งเคยอยู่ในแก๊งโอรส แต่ได้ออกมาจากย่านฝั่งธนฯและตั้งแก๊งใหม่เป็น แก๊งขนมหวาน เนื่องจากมีเรื่องทะเลาะกัน ส่วนอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ซื้อมาจากเพื่อนในราคา 55,000 บาท เพื่อใช้เป็นอาวุธรับมือกับแก๊งโอรสที่มีความขัดแย้งกัน ส่วนยาเสพติดมีไว้เพื่อให้กับลูกค้า แล้วจะนำเงินไปเที่ยวเตร่ นอกจากนี้ ตนยังเปิดร้านรับสักอยู่ที่ย่านคลองหลอดด้วย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย” ส่วนนายอาร์ม ถูกแจ้งเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวทั้งหมดไปส่งพนักงานสอบสวนต่อไป
วานนี้ (22 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สส.บก.น.9 ร่วมแถลงจับกุม นายพงค์ธร หรือ อาร์ม พันทอง อายุ 23 ปี นายดวง ศรีแก้ว อายุ 23 ปี นายพสธร หรือนนท์ ทับแก้ว อายุ 20 ปี นายประวุฒิ หรือเด้ง ปานทอง อายุ 23 ปี นายกิตติชัย หรือโฟล์ค ธาราชีพ อายุ 23 ปี และนายชัยวัฒน์ หรือตี๋ พันทอง อายุ 18 ปี พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 100 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์)รวมทั้งหมดประมาณ 19 กรัม เครื่องชั่งน้ำหนักยาไอซ์ 1 อัน อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.ยี่ห้อ กล็อก 19 จำนวน 1 กระบอกพร้อมซองพก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 33 นัด พร้อมซองบรรจุกระสุนแบบสั้นและยาวรวม 2 อัน รถจยย. 3 คัน รถยนต์ และอื่นๆอีกจำนวนมาก โดยสามารถติดตามจับกุมได้ที่บ้านพักเลขที่ 111/150 ซอย 13/2 หมู่บ้านบัวทอง ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.ชยุต กล่าวว่า จากกรณีสื่ออินเทอร์เน็ต ได้มีการกล่าวถึงแก๊งวัยรุ่นที่มั่วสุมเป็นอันธพาล มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธปืน โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “แก๊งโอรส” และมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน สาเหตุมาจากหักหลังกันเรื่องยาเสพติด และโพสต์ข้อความและคลิปวิดีโอออกเผยแพร่ทางสื่ออินเทอร์เนตท้าทายกัน
พล.ต.ต.ชยุต กล่าวอีกว่า กก.สส.บก.น.9 ได้ทำการสืบสวนทราบว่า หนึ่งในสมาชิกแก๊งโอรส คือ นายพงค์ธร “อาร์ม โอรส” ได้หนีไปกบดานอยู่ที่บ้านพักย่านบางบัวทองและรวบรวมสมาชิกเป็นเด็กวัยรุ่น เนื่องจากขัดแย้งกับสมาชิกแก๊งโอรสคนอื่น เพราะหักหลังยาเสพติดกันและการแบ่งเงินที่ได้มาจากการขายยาเสพติดไม่ลงตัว ซึ่งอาร์ม โอรส ก็ยังลักลอบจำหน่ายยาเสพติดอยู่เช่นเดิม
“จนกระทั่งวานนี้ (21 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรีเพื่อตรวจค้นบ้านพักหลังจับกุมดังกล่าว โดยนำกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้น ซึ่งนายอาร์มและสมาชิกแก๊งไม่ทันตั้งตัว พร้อมควบคุมตัวได้ทั้งหมด ก่อนจะทำการตรวจค้นภายในบ้านพักพบยาบ้า ยาไอซ์ อาวุธปืนกล็อก 19 พร้อมเครื่องกระสุน ของกลางทั้งหมด ทั้งนี้ ตำรวจจะขยายผลจับกุมสมาชิกแก๊งคนอื่นๆ รวมถึง แก๊งโอรส ที่มีนายตี๋และนายแอล โอรส เป็นหัวหน้าแก๊งด้วย”พล.ต.ต.ชยุต กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวว่า ในส่วนที่มีสมาชิกแก๊งโอรส โพสต์คลิปว่าเคยยิงตำรวจด้วยนั้น กำลังตรวจสอบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ส่วนสมาชิกแก๊งโอรสที่เหลืออยู่ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตามล่ามาให้หมด
ด้านนายอาร์ม โอรส ผู้ต้องหา กล่าวว่า เคยติดคุกในคดียาเสพติดและเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2555 เพิ่งจะพ้นโทษออกมาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งเคยอยู่ในแก๊งโอรส แต่ได้ออกมาจากย่านฝั่งธนฯและตั้งแก๊งใหม่เป็น แก๊งขนมหวาน เนื่องจากมีเรื่องทะเลาะกัน ส่วนอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ซื้อมาจากเพื่อนในราคา 55,000 บาท เพื่อใช้เป็นอาวุธรับมือกับแก๊งโอรสที่มีความขัดแย้งกัน ส่วนยาเสพติดมีไว้เพื่อให้กับลูกค้า แล้วจะนำเงินไปเที่ยวเตร่ นอกจากนี้ ตนยังเปิดร้านรับสักอยู่ที่ย่านคลองหลอดด้วย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย” ส่วนนายอาร์ม ถูกแจ้งเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวทั้งหมดไปส่งพนักงานสอบสวนต่อไป
