ลำปาง-ชาวลำปางแห่ขึ้นโรงพักแจ้งความจับผู้บริหารแบงก์ออมสินเพิ่มอีก 6 ราย ยอดความเสียหาย 12 ล้านบาท รวม 2 วันมีคนแจ้งความแล้ว 11 ราย ยอดความเสียหายกว่า 20 ล้าน หลังถูกหลอกให้เซ็นกู้เงิน ขณะที่ผู้ช่วย ผจก.ออมสินสาขาเจ้าปัญหาระบุอดีต ผจก. เคยให้เซ็นเช็คจ่ายลูกค้าไม่ปกติ 127 ราย ล่าสุดมีผู้เสียหายแล้ว 44 ราย
ความคืบหน้ากรณีชาวบ้านในจังหวัดลำปาง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง เพื่อดำเนินคดีต่อผู้บริหารแบงก์ออมสิน 5 ราย คือ 1. นางเอื้ออารีย์ ชุตินทราศรี ตำแหน่งเดิม คือ ผจก.สาขาตรอน 2. นายวิเชียร ขลุ่ยทอง ปัจจุบันยังทำงานอยู่ที่เขตเกาะคา 3. นางนิตยา มัชฌิมา เดิมตำแหน่ง ผจก.เขตภาคเหนือ 4. นายพิชิต ธรรมวิภาค ไม่ทราบที่อยู่ 5.ว่าที่ร้อยเอกภาคภูมิ กุญชร ปัจจุบันยังทำงานอยู่ในสาขาสบตุ๋ย โดยกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2556
ล่าสุดวานนี้ (23 ม.ค.) ได้มีผู้เสียหาย อีก 6 คน ประกอบด้วย นายเชิดศักดิ์ สิมะโชคชัย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/4 หมู่4 ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง, นายคมกริช กำทอง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/3 ถ.กำแพงเมือง ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง, นางอรพิน ใจแก้ว อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266/458 หมู่ 15 ต.พิชัย อ.เมือง ลำปาง, นางมาลี จันติมา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266/510 หมู่ 15 ต.พิชัย อ.เมือง ลำปาง, นายจักรพงศ์ ประสารศรี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 4 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล อุตรดิตถ์ และนายศรีนวล แก้วค้าง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ 4 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ลำปาง เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.สุระเชษฐ์ สุริมา พนักงานสอบสวน เวร สภ.เมืองลำปาง ในคดีเดียวกัน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 12 ล้านบาท รวมผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความในขณะนี้ 11 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาทแล้ว
ผู้เสียหายทั้งหมดเล่าว่า เมื่อเดือนม.ค.-พ.ค.2546 นางเอื้ออารีย์ได้มาหลอกลวงว่า จะให้พวกตนทำสัญญาซื้อบ้านพร้อมอยู่ ที่หมู่บ้านเจแอนจอย หรือสันติสุข หมู่ 15 ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง โดยจะมีเงินเหลือใช้อีกประมาณคนละ 2-3 แสนบาท ต่อมาได้นัดหมายให้พวกตนมาพบที่ สนง.ที่ดิน จ.ลำปาง ให้เซ็นเอกสารไว้ล่วงหน้าโดยไม่มีรายละเอียดใดๆ ในเอกสารนั้น ซึ่งนางเอื้ออารีย์บอกว่าเซ็นเพื่อตรวจสอบเอกสาร และเงื้อนไขในการกู้ว่าพร้อมหรือไม่ พวกตนจึงได้เซ็นชื่อให้ไป โดยไม่ได้มอบเอกสารทางราชการใดๆ ไปประกอบทั้งสิ้น
เมื่อเวลาล่วงไปประมาณ 2 เดือน พวกตนเข้าใจว่าไม่ผ่านการพิจารณากู้เงิน จึงได้ร่วมกันตรวจสอบกับธนาคารออมสิน ภายใน จ.ลำปาง ปรากฏว่าไม่พบว่ามีเรื่องการตรวจสอบเอกสาร หรือสัญญาการยื่นกู้ของพวกตนแต่อย่างใด จึงได้ตรวจเช็กการกู้เงินภายในประเทศ พบว่าได้มีข้อมูลปรากฏที่ธนาคารออมสิน สาขาตรอน จ.อุตรดิตถ์ โดยระบุว่าแต่ละคนได้รับเงินจากธนาคารออมสิน สาขาตรอน จ.อุตรดิตถ์ ดังนี้ นายเชิดศักดิ์ รับเงิน 2.8 ล้านบาท, นายคมกริช รับเงิน 900,000 บาท, นางอรพิน รับเงิน 2,000,000 บาท, นายจักรพงศ์ รับเงิน 2.8 ล้านบาท, นางมาลี รับเงิน 2.8 ล้านบาท, นางศรีนวล รับเงิน 1.6 ล้านบาท ทั้งที่แต่ละคนไม่เคยได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว
ทั้งนี้ ผู้เสียหายทั้ง 6 คนยังนำหนังสือของนางปณิดา จันทะนาราพร ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาตรอน ได้เขียนขึ้นเพื่อชี้เรื่องการปล่อยเงินกู้ โดยสรุปว่าผู้จัดการธนาคารออมสินในขณะนั้น คือ นางเอื้ออารีย์ ชุตินทราศรี ได้ให้ตนเซ็นเช็คโดยไม่มีเอกสารประกอบการกู้ ตนจึงไม่ยอมเซ็น แต่นางเอื้ออารีย์ก็บอกกับตนว่าให้เซ็นไปก่อน มีอะไรนางเอื้ออารีย์จะเป็นผู้รับผิดชอบเอง โดยได้การันตีลูกค้าทั้งหมดรวม 127 รายว่าเป็นคนที่มีการงานดีเชื่อถือได้ จึงยอมเซ็นให้ไป และได้ทวงถามเอกสารประกอบการกู้เงิน นางเอื้ออารีย์ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด ต่อมาภายหลังนางเอื้ออารีย์ก็นำเช็คซีโอมาให้ตนเซ็นอีกโดยที่ไม่มีเอกสารประกอบการกู้ ตนจึงไม่เซ็นให้ นางเอื้ออารีย์ก็เซ็นคนเดียวไปหลายใบ และบางรายหลังจากที่ขอกู้ก็พบว่ามีสัญญากู้ถึง 2 ฉบับ ทำให้เชื่อได้ว่าการกระทำของนางเอื้ออารีย์ไม่สุจริต
ทั้งนี้ ขณะนี้มีผู้เสียหายรวม 44 รายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว 11 ราย ส่วนที่เหลือจะทยอยเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในโอกาสต่อไป
สำหรับผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าว ที่เข้าแจ้งความต่อ สภ.เมืองลำปาง เมื่อวันที่ 22 ม.ค. จำนวน 5 ราย คือ นายพินิจ รื่นเริง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266/467 หมู่ 15 ต.พิชัย อ.มือง ลำปาง, นายกษิดิ์เดช สนธิรัตน์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266/429 หมู่ 15 ต.พิชัย อ.เมือง ลำปาง, นายธานินท์รัตน์ เทวาณา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 8 ต.เกาะคา อ.เกาะคา ลำปาง, นายวันชัย ล่ำลือ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 358 หมู่ 9 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ลำปาง, นายธีรพล ภู่ขาว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266/441 หมู่ 15 ต.พิชัย อ.เมือง ลำปาง รวมยอดเงินกู้กว่า 9 ล้านบาท
ความคืบหน้ากรณีชาวบ้านในจังหวัดลำปาง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง เพื่อดำเนินคดีต่อผู้บริหารแบงก์ออมสิน 5 ราย คือ 1. นางเอื้ออารีย์ ชุตินทราศรี ตำแหน่งเดิม คือ ผจก.สาขาตรอน 2. นายวิเชียร ขลุ่ยทอง ปัจจุบันยังทำงานอยู่ที่เขตเกาะคา 3. นางนิตยา มัชฌิมา เดิมตำแหน่ง ผจก.เขตภาคเหนือ 4. นายพิชิต ธรรมวิภาค ไม่ทราบที่อยู่ 5.ว่าที่ร้อยเอกภาคภูมิ กุญชร ปัจจุบันยังทำงานอยู่ในสาขาสบตุ๋ย โดยกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2556
ล่าสุดวานนี้ (23 ม.ค.) ได้มีผู้เสียหาย อีก 6 คน ประกอบด้วย นายเชิดศักดิ์ สิมะโชคชัย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/4 หมู่4 ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง, นายคมกริช กำทอง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/3 ถ.กำแพงเมือง ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง, นางอรพิน ใจแก้ว อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266/458 หมู่ 15 ต.พิชัย อ.เมือง ลำปาง, นางมาลี จันติมา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266/510 หมู่ 15 ต.พิชัย อ.เมือง ลำปาง, นายจักรพงศ์ ประสารศรี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 4 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล อุตรดิตถ์ และนายศรีนวล แก้วค้าง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ 4 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ลำปาง เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.สุระเชษฐ์ สุริมา พนักงานสอบสวน เวร สภ.เมืองลำปาง ในคดีเดียวกัน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 12 ล้านบาท รวมผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความในขณะนี้ 11 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาทแล้ว
ผู้เสียหายทั้งหมดเล่าว่า เมื่อเดือนม.ค.-พ.ค.2546 นางเอื้ออารีย์ได้มาหลอกลวงว่า จะให้พวกตนทำสัญญาซื้อบ้านพร้อมอยู่ ที่หมู่บ้านเจแอนจอย หรือสันติสุข หมู่ 15 ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง โดยจะมีเงินเหลือใช้อีกประมาณคนละ 2-3 แสนบาท ต่อมาได้นัดหมายให้พวกตนมาพบที่ สนง.ที่ดิน จ.ลำปาง ให้เซ็นเอกสารไว้ล่วงหน้าโดยไม่มีรายละเอียดใดๆ ในเอกสารนั้น ซึ่งนางเอื้ออารีย์บอกว่าเซ็นเพื่อตรวจสอบเอกสาร และเงื้อนไขในการกู้ว่าพร้อมหรือไม่ พวกตนจึงได้เซ็นชื่อให้ไป โดยไม่ได้มอบเอกสารทางราชการใดๆ ไปประกอบทั้งสิ้น
เมื่อเวลาล่วงไปประมาณ 2 เดือน พวกตนเข้าใจว่าไม่ผ่านการพิจารณากู้เงิน จึงได้ร่วมกันตรวจสอบกับธนาคารออมสิน ภายใน จ.ลำปาง ปรากฏว่าไม่พบว่ามีเรื่องการตรวจสอบเอกสาร หรือสัญญาการยื่นกู้ของพวกตนแต่อย่างใด จึงได้ตรวจเช็กการกู้เงินภายในประเทศ พบว่าได้มีข้อมูลปรากฏที่ธนาคารออมสิน สาขาตรอน จ.อุตรดิตถ์ โดยระบุว่าแต่ละคนได้รับเงินจากธนาคารออมสิน สาขาตรอน จ.อุตรดิตถ์ ดังนี้ นายเชิดศักดิ์ รับเงิน 2.8 ล้านบาท, นายคมกริช รับเงิน 900,000 บาท, นางอรพิน รับเงิน 2,000,000 บาท, นายจักรพงศ์ รับเงิน 2.8 ล้านบาท, นางมาลี รับเงิน 2.8 ล้านบาท, นางศรีนวล รับเงิน 1.6 ล้านบาท ทั้งที่แต่ละคนไม่เคยได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว
ทั้งนี้ ผู้เสียหายทั้ง 6 คนยังนำหนังสือของนางปณิดา จันทะนาราพร ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาตรอน ได้เขียนขึ้นเพื่อชี้เรื่องการปล่อยเงินกู้ โดยสรุปว่าผู้จัดการธนาคารออมสินในขณะนั้น คือ นางเอื้ออารีย์ ชุตินทราศรี ได้ให้ตนเซ็นเช็คโดยไม่มีเอกสารประกอบการกู้ ตนจึงไม่ยอมเซ็น แต่นางเอื้ออารีย์ก็บอกกับตนว่าให้เซ็นไปก่อน มีอะไรนางเอื้ออารีย์จะเป็นผู้รับผิดชอบเอง โดยได้การันตีลูกค้าทั้งหมดรวม 127 รายว่าเป็นคนที่มีการงานดีเชื่อถือได้ จึงยอมเซ็นให้ไป และได้ทวงถามเอกสารประกอบการกู้เงิน นางเอื้ออารีย์ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด ต่อมาภายหลังนางเอื้ออารีย์ก็นำเช็คซีโอมาให้ตนเซ็นอีกโดยที่ไม่มีเอกสารประกอบการกู้ ตนจึงไม่เซ็นให้ นางเอื้ออารีย์ก็เซ็นคนเดียวไปหลายใบ และบางรายหลังจากที่ขอกู้ก็พบว่ามีสัญญากู้ถึง 2 ฉบับ ทำให้เชื่อได้ว่าการกระทำของนางเอื้ออารีย์ไม่สุจริต
ทั้งนี้ ขณะนี้มีผู้เสียหายรวม 44 รายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว 11 ราย ส่วนที่เหลือจะทยอยเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในโอกาสต่อไป
สำหรับผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าว ที่เข้าแจ้งความต่อ สภ.เมืองลำปาง เมื่อวันที่ 22 ม.ค. จำนวน 5 ราย คือ นายพินิจ รื่นเริง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266/467 หมู่ 15 ต.พิชัย อ.มือง ลำปาง, นายกษิดิ์เดช สนธิรัตน์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266/429 หมู่ 15 ต.พิชัย อ.เมือง ลำปาง, นายธานินท์รัตน์ เทวาณา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 8 ต.เกาะคา อ.เกาะคา ลำปาง, นายวันชัย ล่ำลือ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 358 หมู่ 9 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ลำปาง, นายธีรพล ภู่ขาว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266/441 หมู่ 15 ต.พิชัย อ.เมือง ลำปาง รวมยอดเงินกู้กว่า 9 ล้านบาท