xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนคดี ผจก.แบงก์ออมสินตุ๋นลูกค้ากู้ พบชงเอง-เซ็นเองเบ็ดเสร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลำปาง - ย้อนรอยคดีอดีต ผจก.แบงก์ออมสิน สาขาตรอน พร้อมพวกตุ๋นเหยื่อกู้เงินซื้อบ้าน อดีต ผช.ผจก.สาขาเดียวกันเคยแฉหมดเปลือก ผจก.ชงเอง-เซ็นเองทั้งที่เอกสารไม่ครบ แถมการันตีเองคนกู้เป็นพนักงาน กฟผ.-ปูนฯ ลำปาง เจ้าของโครงการรู้จักกันมานานนับสิบปี เชื่อถือได้

รายงานข่าวจากจังหวัดลำปางแจ้งว่า กรณีลูกหนี้ธนาคารออมสิน 11 รายจาก 44 รายเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้บริหารธนาคาร 5 คน คือ 1. นางเอื้ออารีย์ ชุตินทราศรี ตำแหน่งเดิมคือ ผจก.สาขาตรอน 2. นายวิเชียร ขลุ่ยทอง ปัจจุบันยังทำงานอยู่ที่เขตเกาะคา 3. นางนิตยา มัชฌิมา เดิมตำแหน่ง ผจก.เขตภาคเหนือ 4. นายพิชิต ธรรมวิภาค ไม่ทราบที่อยู่ 5. ว่าที่ร้อยเอก ภาคภูมิ กุญชร ปัจจุบันยังทำงานอยู่ในสาขาสบตุ๋ย จ.ลำปาง ฐานฉ้อโกง หลังผู้เสียหายทั้งหมดตกเป็นลูกหนี้โดยที่ไม่ได้รับเงิน แถมยังถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลาย บางรายถูกยึดบ้าน และนำไปขายทอดตลาดในราคาถูกจนไม่พอชำระหนี้สิน ทำให้ทางธนาคารได้เรียกให้ผู้เสียหายชดใช้เงินกู้ยืมในส่วนต่างที่ค้างชำระ ซึ่งคาดว่าจะมากกว่า 1 ร้อยล้านบาท

จากการตรวจสอบเอกสารซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและถูกโยงใยว่าเข้าไปมีส่วนในการฉ้อฉลผู้เสียหาย ได้ให้ถ้อยคำเป็นลายลักษณ์อักษรต่อศาลถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งทำให้ทราบถึงขบวนการปล่อยเงินกู้ให้แก่ผู้เสียหายอย่างชัดเจน

นางปณิตา ฉันทะนาราพร ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาตรอน จ.อุตรดิตถ์ ในขณะนั้นได้ให้ถ้อยคำไว้ ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2546 เกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ดังกล่าวว่า ตนได้เข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2545 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการสินเชื่อสาขา เมื่อมาทำงานได้ 1 เดือน ผู้จัดการได้มีการปล่อยกู้การเคหะให้แก่ลูกค้า ซึ่งทำงานอยู่ที่ กฟผ.แม่เมาะ และบริษัทปูนซิเมนต์ ลำปาง จำกัด โดยผู้จัดการและพนักงานสินเชื่อเป็นกรรมการตรวจสอบหลักทรัพย์ ส่วนตนต้องทำการแทนผู้จัดการที่สำนักงาน จึงต้องเป็นกรรมการสินเชื่อสาขา ผู้อนุมัติโดยตรวจสอบจากเอกสารหลักฐาน และรูปถ่ายหลักทรัพย์ที่กรรมการไปตรวจสอบแล้วนำมาเสนอตน และจะต้องเสนอความเห็นชอบด้วยกัน

แต่การปฏิบัติมิได้เป็นเช่นนั้น เมื่อผู้จัดการ และพนักงานสินเชื่อไปตรวจสอบหลักทรัพย์เสร็จ รุ่งขึ้นจะเขียนเช็คซีโอจ่ายให้ลูกค้าทันที โดยเข้าสมุดฝากบัญชีลูกค้าแต่ละคน ตนไม่เห็นเอกสารประกอบการขอกู้ของลูกค้าแต่อย่างใด ตนได้ทวงถาม ผู้จัดการก็บอกว่า สินเชื่อกำลังทำอยู่ จนเกือบจะสิ้นวันก็ยังไม่นำมาเสนอ ตนก็ทวงถามอีก โดยมีพนักงานเทลเลอร์เป็นพยาน

ผู้จัดการกลับบอกว่า งานสินเชื่อก็มากกำลังทำอยู่ไม่ต้องเป็นห่วง โครงการนี้อยู่ที่บ้านผู้จัดการเอง ผู้จัดการรู้จักกับผู้แนะนำคนมากู้เคหะนับสิบปี ไว้ใจได้ หลักทรัพย์และผู้กู้ก็เชื่อถือได้ และก็ให้ข้าพเจ้าเซ็นเช็คไปได้เลย เทลเลอร์จะได้จ่ายเงินเข้าสมุดเงินฝากผู้กู้จะได้ถอนเงินได้

แต่ตนก็ยังไม่ยอมเซ็นเช็ค จนผู้จัดการได้มาหาที่โต๊ะทำงาน และบอกว่า “ให้เซ็นไปก่อน และได้ย้ำอีกว่าเอกสารมีมาให้แน่นอนไม่ต้องกลัว หลักทรัพย์ผู้กู้และหน้าที่การงานแต่ละคนมั่นคง ผู้จัดการรู้จักดี เชื่อถือได้ ไม่ต้องห่วง ผู้จัดการรับผิดชอบเอง” ดังนั้นตนจึงได้ยอมเซ็นจ่ายเช็คซีโอร่วมกับผู้จัดการ

ขณะที่ผู้จัดการเดินกลับไปตนได้เขียนสลักหลังเช็คว่า “ผู้จัดการรู้จักผู้กู้ดี และรับรองว่าหน้าที่การงานมั่นคงเชื่อถือได้” เอาไว้ด้วย

นางปณิตายืนยันผ่านคำให้การอีกว่า ตนได้เซ็นเช็คเพียงครั้งเดียว และได้บอกกับผู้จัดการว่าครั้งต่อไปถ้าเอกสารไม่ครบ ไม่สมบูรณ์ ไม่เรียบร้อย และไม่นำมาเสนอเพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาร่วมกันตนจะไม่เซ็นอีก จะเซ็นให้ครั้งนี้ครั้งเดียว เพราะเกรงใจผู้จัดการที่ออกตัวรับรองอย่างแน่นหนา ประกอบกับตนก็เพิ่งย้ายมารับตำแหน่งใหม่ ณ สาขาแห่งนี้ด้วย และคิดว่าเอกสารทั้งหมดคงส่งมาให้ตนในเย็นวันนั้น แต่ในที่สุดวันดังกล่าวก็ไม่มีเอกสารการขอกู้มาเสนอตน

ในวันต่อมาตนได้ทวงถามเอกสารอีก แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงว่ายังไม่เสร็จ งานยุ่ง จนเวลาล่วงเลยไป 1 สัปดาห์จึงเอามาให้ ตนจึงบอกผู้จัดการอีกครั้งว่าต่อไปนี้เอกสารไม่พร้อมจะไม่เซ็นเช็คเด็ดขาด

หลังจากนั้น ผู้จัดการก็ได้ปล่อยกู้อีกหลายรายโดยไม่ผ่านตนเลย โดยเซ็นเช็คซีโอคนเดียวแล้วให้พนักงานเทลเลอร์จ่าย ซึ่งมารู้ก็เมื่อเวลา 15.30 น.ของวันทำการแล้ว เนื่องจากตนจะต้องรวบรวมเอกสารรับจ่ายต่างๆ มาลง อส.110 และบันทึกในระบบ BUGF

ซึ่งตนเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องดังกล่าวและได้พูดคุยกับผู้จัดการหลายครั้งแล้ว แต่ผู้จัดการก็ไม่สนใจและยังคงปล่อยกู้ต่อไปอีก โดยบอกว่าจะได้เป้าสาขา ส่วนที่ตนไม่ได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยังศูนย์หรือภาคเนื่องจากยังไม่มีความเสียหาย หรือเกิดหนี้คงค้างขึ้น และตนอาจจะถูกตำหนิว่ามองผู้จัดการในแง่ร้ายหรือไม่ เพราะผู้จัดการกำลังทำเป้าให้สาขาอยู่

ต่อมานางปณิตาตัดสินใจปรึกษาเรื่องดังกล่าวเป็นการส่วนตัวกับผู้ตรวจสอบที่เดินทางมาตรวจสอบ เพื่อหาทางแก้ไขเพื่อให้ผู้จัดการได้ทำให้ถูกต้องจะได้ไม่เกิดความเสียหายกับพนักงานและธนาคาร แต่เป็นจังหวะผู้ตรวจสอบไม่มีเวลาเพราะหมดกำหนด แต่รับปากจะรายงานต่อบริหารความเสี่ยงให้มาตรวจสอบ กระทั่งกองบริหารความเสี่ยงเข้ามาตรวจสอบ ทำให้มีผลถึง ร.กม.มาตรวจสอบอีกครั้ง

กำลังโหลดความคิดเห็น