ASTVผู้จัดการรายวัน - ปูนซิเมนต์ไทยแย้มวาณิชธนกิจเสนอให้บริษัทพิจารณาซื้อกิจการที่ดำเนินธุรกิจวัสดุก่อสร้างและเคมิคอลในยุโรปในราคาไม่แพง ขณะที่งบลงทุนปีนี้อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาทก่อนทบทวนในช่วงส.ค.56
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีวาณิชธนกิจ(Investment Banking:IB )ยื่นข้อเสนอให้บริษัทฯพิจารณาซื้อกิจการหลายแห่งในยุโรป ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านวัสดุก่อสร้างและเคมิคอล ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นที่รู้จักและความน่าสนใจอยู่ราคาซื้อกิจการถูกมาก
แม้ว่าเป้าหมายการขยายธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทฯเน้นการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน ล่าสุดบริษัทฯได้ซื้อกิจการในเวียดนาม คาดว่าจะชำระเงินภายในไตรมาส 1-2 นี้ ขณะที่การลงทุนตั้งโรงปูนซีเมนต์ในเมียนมาร์ อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากรัฐบาล ทันทีที่ได้รับอนุมัติก็พร้อมที่จะลงทุนได้ทันที
นายกานต์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯยังคงเป้าหมายการลงทุน 5ปีนี้ อยู่ที่ 2 แสนล้านบาท โดยปีนี้บริษัทฯจะใช้เงินลงทุนกว่า 4หมื่นล้านบาในการลงทุนขยายธุรกิจและซื้อกิจการ หลังจากปีก่อนใช้เงินลงทุนไปกว่า 5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม อาจมีการพิจารณาทบทวนการลงทุนอีกครั้งในช่วงเดือนส.ค.นี้
สำหรับแนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมีในปีนี้ราคาน่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังเดือนก.พ.56 ไปแล้วน่าจะเห็นทิศทางขาขึ้นชัดเจน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปิโตรเคมีดีขึ้นมาแล้ว แต่อาจจะอ่อนตัวลงบ้างก่อนเทศกาลตรุษจีน หลังจากนั้นก็คงจะดีขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากความต้องการในภูมิภาคยังมีต่อเนื่องทั้งปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง รวมถึงกระดาษ
ปัจจัยสำคัญของการเติบโตของธุรกิจปิโตรเคมี คือ การขยายตัวของเศรษฐกิจ ในปีนี้มองว่าเศรษฐกิจของอาเชียนจะเติบโตได้ดีขึ้น โดยเศรษฐกิจของเวียดนามจะขยายตัวดีขึ้นจาก 5% ในปี2555 มาเป็นอัตราเฉลี่ย 7% ในปี 2557-58 ขณะที่เศรษฐกิจอินโดนีเซียคาดว่าปีนี้จะขยายตัว 6.4% จาก 6.3% ในปีก่อน
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีวาณิชธนกิจ(Investment Banking:IB )ยื่นข้อเสนอให้บริษัทฯพิจารณาซื้อกิจการหลายแห่งในยุโรป ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านวัสดุก่อสร้างและเคมิคอล ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นที่รู้จักและความน่าสนใจอยู่ราคาซื้อกิจการถูกมาก
แม้ว่าเป้าหมายการขยายธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทฯเน้นการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน ล่าสุดบริษัทฯได้ซื้อกิจการในเวียดนาม คาดว่าจะชำระเงินภายในไตรมาส 1-2 นี้ ขณะที่การลงทุนตั้งโรงปูนซีเมนต์ในเมียนมาร์ อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากรัฐบาล ทันทีที่ได้รับอนุมัติก็พร้อมที่จะลงทุนได้ทันที
นายกานต์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯยังคงเป้าหมายการลงทุน 5ปีนี้ อยู่ที่ 2 แสนล้านบาท โดยปีนี้บริษัทฯจะใช้เงินลงทุนกว่า 4หมื่นล้านบาในการลงทุนขยายธุรกิจและซื้อกิจการ หลังจากปีก่อนใช้เงินลงทุนไปกว่า 5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม อาจมีการพิจารณาทบทวนการลงทุนอีกครั้งในช่วงเดือนส.ค.นี้
สำหรับแนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมีในปีนี้ราคาน่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังเดือนก.พ.56 ไปแล้วน่าจะเห็นทิศทางขาขึ้นชัดเจน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปิโตรเคมีดีขึ้นมาแล้ว แต่อาจจะอ่อนตัวลงบ้างก่อนเทศกาลตรุษจีน หลังจากนั้นก็คงจะดีขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากความต้องการในภูมิภาคยังมีต่อเนื่องทั้งปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง รวมถึงกระดาษ
ปัจจัยสำคัญของการเติบโตของธุรกิจปิโตรเคมี คือ การขยายตัวของเศรษฐกิจ ในปีนี้มองว่าเศรษฐกิจของอาเชียนจะเติบโตได้ดีขึ้น โดยเศรษฐกิจของเวียดนามจะขยายตัวดีขึ้นจาก 5% ในปี2555 มาเป็นอัตราเฉลี่ย 7% ในปี 2557-58 ขณะที่เศรษฐกิจอินโดนีเซียคาดว่าปีนี้จะขยายตัว 6.4% จาก 6.3% ในปีก่อน