xs
xsm
sm
md
lg

ความจริงที่จะต้องบอกท่านพลเอกประยุทธ์ ด้วยเมตตา

เผยแพร่:   โดย: ดร.ป. เพชรอริยะ


ก่อนอื่น ขอให้ท่านเป็นบัณฑิตกับเรา เราจะบอกสิ่งสำคัญยิ่งยวดให้ท่านฟัง เพราะต้องออกมาปกป้องกองทัพ กำราบบุคคลหลงแนวทาง ดังนี้

สภาวการณ์คือความจริงของชาติไทยเราที่เป็นอยู่ ดำรงอยู่จริงๆ คือ ตั้งอยู่บนระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา นี่คือปัญญาและความเห็นที่ถูกต้องอย่างแท้จริง เมื่อระบอบเผด็จการเป็นเหตุเลว ส่งผลให้ทุกรัฐบาลเลว (ย้ำว่าทุกรัฐบาล) จึงส่งผลให้กระทรวงฯ และผู้นำกองทัพบกแย่ตามๆ กันตามลำดับ เพราะกองทัพเป็นกลไกรัฐเลว

ในอีกสัมพันธภาพหนึ่งที่เป็นสัจธรรมคือกองทัพแห่งชาตินั้นๆ ทุกประเทศมีสถานะเป็นองค์ประกอบแห่งรัฐนั้นๆ การเมืองที่ถูกต้องกองทัพก็เข้มแข็งรับใช้ชาติ รับใช้ประชาชนการเมืองเผด็จการกองธรรมก็อ่อนแอ

หากการเมืองเป็นเผด็จการทุกรูปแบบ (ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม) อำนาจอธิปไตยเป็นของผู้ปกครองคือเหล่านายทุน อิทธิพลจังหวัดและนักการเมืองลูกจ้างเลวๆ เพียงหยิบมือเดียว

ผู้นำกองทัพหากไม่รู้รอบ ไม่ศึกษาตำราพิชัยสงคราม เพราะเติบโตมาด้วยเส้นสาย ผบ.ทบ. คนนี้ (ประยุทธ์) เมื่อท่านพูดอะไรออกมา จึงรู้ว่าท่านเป็นคนไม่รอบรู้ ชอบใช้กำลังมากกว่าปัญญา บอกกันตรงๆ ท่านเห็นผิดอย่างแรงที่เห็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญมีรูปการปกครองระบบรัฐสภา มีวิธีการเลือกตั้งว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ความเห็นผิดของท่าน ท่านไม่น่าเป็น ผบ.ทบ. เลย เพราะประชาชนไม่มีวันที่จะพึ่งท่านได้เลย

หากสืบสาวไปหาเหตุ เหตุที่แท้จริงระบอบเผด็จการ ตอนนี้ตกอยู่ในมือของทักษิณ ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย และบริหารโดยพวกเขา เราจะเห็นได้ว่า พวกเขาเป็นรัฐบาลปัญญาอ่อนมากๆ ในเรื่องผลประโยชน์ของชาติและประชาชน แต่พวกเขาฉลาดแกมโกงสุดๆ ในเรื่องเล่ห์เหลี่ยมโกงกินชาติ

ดังนั้น การพูด การกระทำของท่าน ผบ.ทบ. คนปัจจุบัน (ประยุทธ์) ท่านจึงเป็นนายทหารที่ทั้งกลัวและขาดปัญญา

การกระทำที่เรียกว่า“นำทหารหนึ่งกองร้อย” มากดดันหน้าที่ทำการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ถนนพระอาทิตย์นั้น เป็นความอ่อนแอและมีความกลัวอย่างสุดขีดของผู้นำ (ลองถามนักปราชญ์ทั่วโลกดูก็ได้ว่า การกระทำของทหารหนึ่งกองร้อยต่อสื่อนั้น เป็นความอ่อนแอและความกลัวสุดๆ) เมื่อทหารมีความกลัวเยี่ยงนี้ พวกเขาก็หมดความเป็นทหาร เป็นแค่คณะบุคคลรับใช้บุคคล ใช่หรือไม่

ท่านไม่รู้รอบเอาเสียเลยเพราะ ท่านผบ.ทบ. เห็นระบอบเผด็จการ เป็นระบอบประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยมันเป็นเพียงวิธีการหนึ่งขึ้นสู่อำนาจ ระบอบไหนๆ ก็เอาไปใช้ได้ ท่านเห็นรัฐบาลภายใต้ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา ที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ท่านกลัวหัวหดเพราะท่านไปเห็นผิดว่ารัฐบาลมาจากระบอบประชาธิปไตย คนอย่าง ผบ.ทบ. ถ้ารู้น้อยขนาดนี้ ก็แสดงว่าท่านคงไม่เคยผ่านศึกษางานการเมืองและการสงครามของซุนวูเลยมาก่อนเลยรึ

มิน่า ท่านบัญชาการรบที่ไหน แพ้ที่นั้น ใช่หรือไม่อันนี้ท่านยอมรับหรือไม่และสำหรับยอดทหารย่อมรู้ว่ากองทัพภายใต้ระบอบเผด็จการอ่อนแอที่สุด “รบที่ไหน แพ้ที่นั่น จำไว้” แพ้เขมร แพ้พวกกองโจรมุสลิม กองทัพและชาติต้องหมดเกียรติหมดศักดิ์ศรีเคยสำนึกกันไหมท่านผู้นำทั้งหลาย

ท่านเคยศึกษาไหม กองทัพจีนภายใต้ระบอบเผด็จการ แพ้กองทัพปลดแอกประชาชนจีน นำโดยเหมา เจ๋อตุง

กองทัพเวียดนามภายใต้ระบอบเผด็จการ แพ้กองทัพเวียดมินห์ นำโดย โฮจิมินห์

กองทัพลาวภายใต้ระบอบเผด็จการ แพ้กองทัพปลดแอกประชาชนลาวนำโดยเจ้าสุภานุวงศ์ เป็นต้น

และกองทัพไทยภายใต้ระบอบเผด็จการรบแพ้ลาว กลัวกองทัพเขมร กลัวทหารมาเลเซีย กลัวทหารพม่ารบแพ้กองโจรมุสลิมทุกวัน และกำลังจะถูกกองทัพเสื้อแดงก่อสงครามกลางเมือง ในเร็วๆ วันนี้คงได้เห็นหรือท่านจะเป็นผู้นำกองทัพเสื้อแดงเสียเอง ใช่หรือไม่

นี่แหละ เพราะผู้นำกองทัพสนับสนุนระบอบเผด็จการ “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว” ที่กล่าวมา เราสอนผู้นำกองทัพให้สำนึก อย่าเอาทหารไปรับใช้บุคคล ผลงานของกองทัพหากมองในด้านการรบแล้ว ห่วยมาก ท่านยอมรับไหม ที่ท่านชอบด่าลูกน้องของท่านเองห่วยมากๆ เลยติดปากมาด่าสื่อ

ขอร้อง ท่าน ผบ.ทบ. ขอให้เลิกใช้วิธีอันธพาลกับสื่อ ท่านคงรู้ดี หากท่านไม่พอใจสื่อไหนๆ คอลัมนิสต์ท่านใด ท่านฟ้องศาลได้ ศาลก็จะตัดสินว่า “ติติงด้วยความสุจริตใจ” เพราะตำแหน่ง ผบ.ทบ. เป็นตำแหน่งสาธารณะ มีความรับผิดชอบสูงสุดต่อชาติและประชาชน มีหน้าที่ชี้แจ้งต่อสื่อและประชาชน ไม่ใช่มาด่าสื่อด้วยอารมณ์สะใจ

แล้วก็ขอร้องว่า พลเอกประยุทธ์ ... อย่าพูด อย่ากระทำใดๆ เพื่อประจบเสื้อแดง รัฐบาล และนายกฯ กองทัพจะเสียหาย เราเป็นห่วงกองทัพเราอยากเห็นกองทัพเป็นกองทัพแห่งชาติ เป็นกองทัพแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราอยากเห็นผู้นำกองทัพ มีปัญญาชี้ชัดว่า ปัจจุบันคือระบอบเผด็จการ ทหารไม่ยอมอยู่ใต้ระบอบเผด็จการ เฉกเช่นเดียวกับนายทหารใหญ่ในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น อินเดีย มาเลเซีย เป็นต้น

ท่าน ผบ.ทบ. ทราบไหมว่าระบอบเผด็จการทุกชนิด ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม เพราะลัทธิเผด็จการทุกชนิดเปิดเผยหลักการปกครองไม่ได้ พวกเขาได้แต่ “ปิดหลักการปกครอง แต่เปิดวิธีการปกครองคือกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ” นี่คือความจริงอันเป็นแนวคิดอุบาทว์จัญไรครอบงำชาติและประชาชนไทยมายาวนานกว่า 80 ปี ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญผิดอย่างร้ายแรงมา 18 ฉบับ

ระบอบเผด็จการคืออำนาจอธิปไตยเป็นของผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียวดังที่กล่าวแล้ว กองทัพกลายเป็นกองทัพของคนเพียงหยิบมือเดียว เป็นกองทัพที่อยู่ใต้ระบอบเผด็จการคือกองทัพที่ไร้สมรรถภาพกองทัพที่อ่อนแอ ทหารเฝ้าคลับ บาร์และก็เห็นๆ กันอยู่ 5 เสือแห่งกองทัพไทย สยบยอมต่อระบอบเผด็จการ ฝากถามด้วย ใช่หรือไม่

อยากประกาศดังๆ ว่า ผู้นำกองทัพที่แท้จริง จะต้องมีปัญญาในเรื่อง “การเมือง-การทหารแยกกันไม่ได้” หากการเมืองห่วยไม่รับใช้ประชาชน กองทัพก็จะมีแต่ความอ่อนแอ รบที่ไหนย่อมพ่ายแพ้เสมอ กองทัพพ่ายแพ้ ชาติเสียเกียรติภูมิ เสียแผ่นดิน สิ้นชาติ

ผู้นำกองทัพที่แท้จริงจะอยู่ข้างประชาชน ศึกษาจนกระทั่งรู้ว่าบ้านเมืองนี้มีการปกครองระบอบเผด็จการ ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยที่พวกผู้ปกครองโฆษณาหลอกลวง (นักปราชญ์ย่อมด่าว่า “อัปรีย์จัญไรจริงๆ”)

ผู้นำและกองทัพต้องให้ความร่วมมือกับประชาชนในการผลักดันไปสู่การสร้างการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง เฉกเช่นกองทัพปฏิวัติในประเทศต่างๆ ที่ร่วมมือกับประชาชนโค่นระบอบเผด็จการ

ทหารผู้มีปัญญาทั้งหลาย แต่ไม่มีอำนาจย่อมรู้ว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และฝ่ายที่เชิดชูหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 (ควรแสวงหาศึกษาให้ถ่องแท้) นี่คือฝ่ายระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง

ฝ่ายประชาธิปไตยที่แท้จริง จะประกาศ เสนอ บอกกล่าวด้วยเมตตา ในการร่วมการสร้างหรือสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 เพราะนี่คือ ส่วนขยายของอุดมการณ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างเป็นรูปธรรมทางการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง (อย่างแท้จริง)

ส่วนฝ่ายที่ยึดมั่นถือมั่นในระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ พวกเขาคิดได้แค่แก้ไขกับร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่ พวกเขาไม่เคยเสนอหลักการปกครองโดยธรรม โดยยึดถือรัฐธรรมนูญว่าระบอบประชาธิปไตย ยึดถืออนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ (สี่แยกราชดำเนิน) ว่าเป็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นี่แหละคือความโง่เขลาเบาปัญญาของพวกเผด็จการในคราบของนักการเมืองอัปรีย์จัญไรของชาติที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 80 ปี

รวมทั้งคนในกองทัพนับแต่ทำรัฐประหาร (Coup d’etat) ครั้งแรกคือ พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา กระทั่งครั้งหลังสุดคือ พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ที่เคยนำเอากองทัพไปทำรัฐประหาร แล้วร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โง่จัญไรจริงๆ ซ้ำรอยรัฐประหารครั้งอื่นๆ มาแล้วนับไม่ถ้วนโดยมิได้ฉุกคิดเลย นี่คือพวกเผด็จการรัฐธรรมนูญในคราบผู้นำทหาร ที่ถือลัทธิรัฐธรรมนูญสรณะ ซึ่งแท้จริงมันก็คือระบอบเผด็จการ โดยใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญมาเป็นเครื่องมือในการปกครอง และกดขี่ขูดรีดอย่างแรงๆ ด้วยนโยบายประชานิยม

พลเอกประยุทธ์เราเชื่อว่าท่านไม่ทำรัฐประหาร เพื่อจะสร้างเผด็จการรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ท่านยอมสยบ พอใจยินดีต่อระบอบเผด็จการ เพราะท่านไม่รู้การเมือง หากท่านรู้การเมือง ท่านก็คงไม่ยอม ท่านอาจจะทำรัฐประหารแล้วสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย ก็เป็นได้

หากท่านยอมอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการ โดยรัฐบาลทักษิณ ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย ภาพของท่าน ผบ.ทบ. กลายเป็นทหารของสกุลชิน ทั้งนี้เพราะท่านรับใช้ พอใจ ยินดีอยู่กับระบอบเผด็จการนั่นเอง ก็เท่ากับว่า ท่านนำพาให้กองทัพบกอ่อนแอ ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี รบที่ไหน แพ้ที่นั่น และเมื่อท่านเป็นทหารแตงโม จะถูกประชาชนผู้รักชาติขับไล่
กำลังโหลดความคิดเห็น