ASTV ผู้จัดการรายวัน- รอง ผบก.น.5 พร้อมด้วย ผกก.สน.บางนา เดินทางเข้าสอบปากคำ "ราเมศ รัตนะเชวง" แล้วที่ รพ.กลาง ด้านหมอเผยอาการปลอดภัยแล้วแต่ยังมีอาการสมองบวมเล็กน้อย ส่วน "ราเมศ"เผยไม่มั่นในการทำงานของนตำรวจเพราะผ่านมาหลายวันแล้ว พร้อมยืนยันไม่เคยมีเรื่องกับใคร และไม่เคยมีเรื่องชู้สาวกับใครเช่นกัน
วานนี้ (10 ม.ค.)เมื่อเวลา 11.00 น.ที่รพ.กลาง ถนนหลานหลวง เขตป้อมปราบ กทม. พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.อาชสิน บุญธรรมเจริญ พงส.ผนพ.สน.บางนา เดินทางเข้าสอบปากคำ นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องเลขที่1108 ชั้น 11 หอผู้ป่วยพิเศษ 20/11 อาคารอนุสรณ์ 100 ปี หลังถูกคนร้ายดักทำร้ายร่างกาย บริเวณหน้าที่พักย่านบางนา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเข้าฟังการสอบปากคำด้วย
พ.ต.อ.ไตรเมต เผยเพียงว่า มาสอบปากคำ สอบถามลำดับเหตุการณ์คืนวันเกิดเหตุ ว่านายราเมศ เดินทางไปไหนมาบ้าง และตั้งประเด็นว่าใครเป็นผู้ลอบทำร้าย หรือเคยมีปัญหากับบุคคลใดและจะทำการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
นพ.ชูวิทย์ ประดิษฐ์บาทุกา ผ.อ.รพ.กลาง กล่าวว่า อาการของนายราเมศดีขึ้นมาก เหลือแค่อาการสมองบวมเล็กน้อยเนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และมีอาการหูอื้อ การทรงตัวยังต้องใช้เครื่องช่วยพยุงในการช่วยเดิน และทำกายบำบัดควบคู่กันไปด้วย ซึ่งคาดว่านายราเมศอาจจะออกจากโรงพยาบาลได้ในเร็วๆนี้ ส่วนการสอบปากคำหากพนักงานสอบสวน ต้องการจะขอเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมอีกในภายหลัง ทางโรงพยาบาลต้องสอบถามความเห็นจากแพทย์เจ้าของผู้ป่วยและตัวผู้ป่วย ว่ามีความพร้อมที่จะให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนหรือไม่
ต่อมาเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายราเมศ อนุญาติให้ผู้สื่อข่าวเข้าพบในห้องพัก โดยมีสีหน้าสดใส ยิ้มแย้ม ลุกนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ก่อนกล่าวว่า บาดแผลบริเวณศรีษะตัดไหมแล้ว ไม่มีเจ็บ แต่ยังปวดบริเวณซีกโครงเมื่อขยับตัวบางครั้ง ส่วนสมองมีปัญหา เรื่องการปรับสมดุลร่างกาย ทำให้ยังเดินไม่ค่อยสะดวก และ หูขวา ยังไม่ค่อยได้ยิน แพทย์ได้ให้เพื่อฟื้นฟูสมอง และระบบประสาท พร้อมกายภาพบำบัดทุกวัน
นายราเมศ กล่าวอีกว่า ก่อนที่จะถูกทำร้ายร่างกาย มีโทรศัพท์ปริศนาโทรมาข่มขู่ และมีรถยนตร์ สลับกับรถจยย. ขับตามมาบ่อยครั้ง หลังถูกทำร้ายร่างกายรู้สึกถูกอะไรฟาดใส่ศรีษะ จากด้านหลังจนหมดสติ มารู้สึกตัวอีกทีที่ รพ.บางนา 1 จึงไม่เห็นคนร้าย ไม่คาดหวังกับการทำงานของตำรวจ เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมาหลายวันแล้วคดีก็ยังไม่คืบ หลังจากนี้จะปรึกษากับผู้ใหญ่ของพรรค เพื่อวางมาตราการการระวังตัว ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ด้านกฏหมาญของพรรคฝ่ายค้านต่อไป ไม่กลัว นอกจากนี้ยังมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และสมาชิกเดินทางสลับผลัดเปลี่ยนกันมาเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมสอบถามอาการ
“สาเหตุที่ถูกทำร้ายเชื่อว่าเกิดจากเรื่องคดีความ เพราะรับผิดชอบในส่วนคดีของพรรค และคดีความของหัวหน้าพรรค ซึ่งคดีความล่าสุดที่ทำคือคดีตรวจสอบ ผบช.น. ส่วนที่ตำรวจตั้งปมขัดแย้งเรื่องส่วนตัว หรือชู้สาว ยืนยันว่าไม่เคยประกอบธุรกิจ ไม่เคยเป็นหุ้นส่วนกับใคร และไม่เคยไปยุ่งกับภรรยาคนอื่น อยากขอความยุติธรรม” นายราเมศ กล่าว
วานนี้ (10 ม.ค.)เมื่อเวลา 11.00 น.ที่รพ.กลาง ถนนหลานหลวง เขตป้อมปราบ กทม. พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.อาชสิน บุญธรรมเจริญ พงส.ผนพ.สน.บางนา เดินทางเข้าสอบปากคำ นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องเลขที่1108 ชั้น 11 หอผู้ป่วยพิเศษ 20/11 อาคารอนุสรณ์ 100 ปี หลังถูกคนร้ายดักทำร้ายร่างกาย บริเวณหน้าที่พักย่านบางนา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเข้าฟังการสอบปากคำด้วย
พ.ต.อ.ไตรเมต เผยเพียงว่า มาสอบปากคำ สอบถามลำดับเหตุการณ์คืนวันเกิดเหตุ ว่านายราเมศ เดินทางไปไหนมาบ้าง และตั้งประเด็นว่าใครเป็นผู้ลอบทำร้าย หรือเคยมีปัญหากับบุคคลใดและจะทำการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
นพ.ชูวิทย์ ประดิษฐ์บาทุกา ผ.อ.รพ.กลาง กล่าวว่า อาการของนายราเมศดีขึ้นมาก เหลือแค่อาการสมองบวมเล็กน้อยเนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และมีอาการหูอื้อ การทรงตัวยังต้องใช้เครื่องช่วยพยุงในการช่วยเดิน และทำกายบำบัดควบคู่กันไปด้วย ซึ่งคาดว่านายราเมศอาจจะออกจากโรงพยาบาลได้ในเร็วๆนี้ ส่วนการสอบปากคำหากพนักงานสอบสวน ต้องการจะขอเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมอีกในภายหลัง ทางโรงพยาบาลต้องสอบถามความเห็นจากแพทย์เจ้าของผู้ป่วยและตัวผู้ป่วย ว่ามีความพร้อมที่จะให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนหรือไม่
ต่อมาเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายราเมศ อนุญาติให้ผู้สื่อข่าวเข้าพบในห้องพัก โดยมีสีหน้าสดใส ยิ้มแย้ม ลุกนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ก่อนกล่าวว่า บาดแผลบริเวณศรีษะตัดไหมแล้ว ไม่มีเจ็บ แต่ยังปวดบริเวณซีกโครงเมื่อขยับตัวบางครั้ง ส่วนสมองมีปัญหา เรื่องการปรับสมดุลร่างกาย ทำให้ยังเดินไม่ค่อยสะดวก และ หูขวา ยังไม่ค่อยได้ยิน แพทย์ได้ให้เพื่อฟื้นฟูสมอง และระบบประสาท พร้อมกายภาพบำบัดทุกวัน
นายราเมศ กล่าวอีกว่า ก่อนที่จะถูกทำร้ายร่างกาย มีโทรศัพท์ปริศนาโทรมาข่มขู่ และมีรถยนตร์ สลับกับรถจยย. ขับตามมาบ่อยครั้ง หลังถูกทำร้ายร่างกายรู้สึกถูกอะไรฟาดใส่ศรีษะ จากด้านหลังจนหมดสติ มารู้สึกตัวอีกทีที่ รพ.บางนา 1 จึงไม่เห็นคนร้าย ไม่คาดหวังกับการทำงานของตำรวจ เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมาหลายวันแล้วคดีก็ยังไม่คืบ หลังจากนี้จะปรึกษากับผู้ใหญ่ของพรรค เพื่อวางมาตราการการระวังตัว ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ด้านกฏหมาญของพรรคฝ่ายค้านต่อไป ไม่กลัว นอกจากนี้ยังมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และสมาชิกเดินทางสลับผลัดเปลี่ยนกันมาเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมสอบถามอาการ
“สาเหตุที่ถูกทำร้ายเชื่อว่าเกิดจากเรื่องคดีความ เพราะรับผิดชอบในส่วนคดีของพรรค และคดีความของหัวหน้าพรรค ซึ่งคดีความล่าสุดที่ทำคือคดีตรวจสอบ ผบช.น. ส่วนที่ตำรวจตั้งปมขัดแย้งเรื่องส่วนตัว หรือชู้สาว ยืนยันว่าไม่เคยประกอบธุรกิจ ไม่เคยเป็นหุ้นส่วนกับใคร และไม่เคยไปยุ่งกับภรรยาคนอื่น อยากขอความยุติธรรม” นายราเมศ กล่าว
