“นิพิฏฐ์” บ่น “ปู” ชิ่งสภา ส่ง “เป็ดเหลิม” แถแทน โวยศักยภาพเหตุเป็นขี้ข้า “แม้ว” แถมบีบ ตร.ให้อยู่ข้าง รบ.จน “คำรณวิทย์” เผยธาตุแท้ เปรียบเหมือนยุคจอมพล ป. ติงเรียกทีม กม.ปชป.สอบทั้งที่สาหัส เย้ยคดี “ลูกแม้ว” คงจับง่ายๆ เตือน ตร.ยึดตราแผ่นดิน ทำไม่ได้ไปเป็นยาม ซัด ตร.ยุคเหลิมอคติฝ่ายค้าน สะกิดนายกฯ-ผบ.ตร.อย่าเงียบ “รองเหลิม” อ้างคุย ตร.เลือกข้างฐานะ ตร. แจงรอผู้เสียหายมาให้การถึงคลี่คลาย แต่ไม่รู้อยู่ที่ใด รับ ตร.งงคดี ป้อง ผบช.น. คนทำงาน “อดุลย์” ติดแก้ไฟใต้
คลิกที่นี่ แถลงการณ์ โดย "นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" และ "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง"
วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธาน เมื่อเข้าสู่วาระกระทู้ถามสดเรื่องมาตรการในการป้องกันอาชญากรรมและการคุกคาม ข่มขู่พรรคการเมืองฝ่ายค้าน โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ถามว่า ตนไม่ตนไม่สบายใจที่นายกฯ ไม่มาตอบกระทู้ โดยมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้แทน เพราะเคยยอมรับเองว่าเป็นขี้ข้าทักษิณ จึงไม่มั่นใจในศักยภาพ สามัญสำนึกของท่านในการแก้ไขปัญหานี้ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการมอบนโยบายที่ผิดพลาดของเฉลิม เมื่อวันที่ 3 ต.ค. โดยระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลอีกยาว ถ้าตำรวจเลือกข้างพรรคประชาธิปัตย์ก็เลือกข้างผิด พร้อมทั้งให้นโยบายว่าเอาพี่กลับบ้าน หลังจากนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ก็ประกาศแยกข้างอย่างชัดเจน และไม่เลือกอยู่ข้างคนดีก็เท่ากับประเทศเกิดกลียุค ทำให้การทำงานของตำรวจยุคนี้ก็เหมือนย้อนยุคไปในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม 2493 ที่มี พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เป็นอธิบดีกรมตำรวจนั่นเอง เห็นได้จากคดีนายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายและรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกลอบทำร้าย ซึ่งก็ครบ 10 วันแล้วแต่คดีกลับยังไม่มีความคืบหน้าเลย
“ผมคิดว่า ร.ต.อ.เฉลิมต้องยืนอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง อย่าเชื่อตำรวจอย่างเดียว นายราเมศเพิ่งถอดเครื่องช่วยหายใจ จะให้หามไปให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นคดีนี้จะสอบต่ออย่างไร ซึ่งถ้าคดีนี้นายราเมศเป็นนายพานทองแท้ หรือพานทองเทียม พานทองเหลือง คงจับคนร้ายได้เร็วกว่านี้ อยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีถึง 2 แสนกว่านาย คิดว่ามีตำรวจดีมากกว่าตำรวจชั่ว เพราะตำรวจน่าจะรู้จักสัญลักษณ์บนหมวกที่อยู่หัวตำรวจดี คือ ตราแผ่นดิน ที่ควรรักษาไว้ให้ดี ถ้ารักษาไม่ได้ก็ไปเป็นยามดีกว่า แต่วันนี้ตำรวจเลือกข้างแล้ว ขณะที่เชื่อว่านายราเมศเป็นเด็กดี ผมจึงไม่คาดหวังกับตำรวจไทยชุดนี้ และภายใต้กำกับของ ร.ต.อ.เฉลิม ว่าจะทำคดีนี้ได้ เพราะมีจิตใจมุ่งร้ายฝ่ายค้าน และน้ำยาอย่างนี้ไม่ง่ายเหมือนดาบยิ้ม ทั้งนี้ อยากฝากไปยังนายกฯ และผบ.ตร.ให้ออกมาพูดเรื่องนี้บ้างว่ามีนโยบายอย่างไรในกรณีที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านถูกทำร้าย ไม่ใช่นิ่งเฉยแบบนี้” นายนิพิฏฐ์กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า การตอบกระทู้ครั้งนี้ไม่ใช่นายกฯ ไม่รับผิดชอบ แต่เพราะได้มอบหมายให้ตนในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยตรงเป็นผู้ชี้แจงแทน อีกอย่างตนไม่ได้บอกว่าตำรวจเลือกข้าง แค่บอกว่าแทงหวยผิด ไปแทงพรรคประชาธิปัตย์เลยถูกหวยกิน ซึ่งพูดในฐานะตำรวจกับตำรวจ ไม่ใช่ตำรวจกับนักการเมืองแต่อย่างใด ทั้งนี้ คดีนายราเมศนั้นเหตุก็เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยในคดีอาญาผู้ที่สำคัญที่สุดคือผู้เสียหายของคดี กลับยังไม่มาให้การเพียงคนเดียว และล่าสุดก็มีการเปลี่ยนโรงพยาบาลรักษาอาการของนายราเมศ แต่กลับไม่เปิดเผยแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะเดียวกัน ตนจึงต้องสั่งทำหนังสือไปยังทั้งที่บ้านของนายราเมศ ที่ทำงานพรรคประชาธิปัตย์ และถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้นายราเมศช่วยมาให้การเพราะผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้มาให้การแล้ว และที่สำคัญคดีก็ต้องใช้เวลาด้วย เนื่องจากนี้เป็นแผนประทุษกรรมที่มีความสับสน ทำเอาตำรวจปวดหัว แทนที่ผู้ลอบทำร้ายจะรีบหลบหนีแต่กลับให้อีกคนลงมากระทืบนายราเมศซ้ำ จากนี้ถ้านายราเมศมาให้การได้ ทุกอย่างจะคลี่คลายเร็วขึ้น เนื่องจากขณะนี้ได้พบ 2 ลายพิมพ์นิ้วมือแฝง จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือแล้ว เป็นเพศหญิง 1 ชาย 1 ถ้านายราเมศจำได้ว่าเป็นใครที่ทำร้ายคดีก็จะง่ายขึ้น จึงไม่อยากให้ไปเหน็บแนม กระแทกกระทั้น ผบช.น.อย่างเดียว ถ้ารู้จักเขาดีเป็นคนเอาจริงเอาจังกับงาน ส่วน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ไม่ใช่ไม่ให้ความสำคัญ แต่ดูแลเรื่องปัญหาชายแดนภาคใต้อยู่ ซึ่งในวันนี้ (27 ธ.ค.) ตนจะได้กำชับขอให้ พล.ต.อ.อดุลย์เข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเองเลย
