ASTVผู้จัดการรายวัน-บอร์ดแข่งขันทางการค้าไฟเขียวส่งอัยการฟ้อง เอ.พี.ฮอนด้า มีพฤติกรรมแข่งขันไม่เป็นธรรม ทำบริษัทคู่แข่งเสียหาย ลุ้นอัยการฟ้องหรือไม่ ก่อนหมดอายุความเดือนเม.ย.นี้ หลังสอบมาราธอนมาเกือบ 10 ปี พร้อมให้ยุติเรื่องบิ๊กซีขายกระดาษถ่ายเอกสารต่ำกว่าทุน หลังสอบไม่พบความผิด ส่วนดคีเหล้าพ่วงเบียร์ บิ๊กซีฟ้องโลตัสตุกติก อยู่ระหว่างสอบสวน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า วานนี้ (10 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ส่งสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมของคณะอนุกรรมการสอบสวนกรณีเรื่องร้องเรียนบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ตามประเด็นที่สำนักงานอัยการสูงสุดกำหนดให้สอบสวนเพิ่ม และมอบหมายให้กรมการค้าภายใน
ซึ่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ส่งสำนวนดังกล่าวให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องร้องต่อไป ก่อนที่คดีจะหมดอายุความในเดือนเม.ย.2556 และไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับบริษัทได้
“เคยสรุปไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า เอ.พี.ฮอนด้า มีพฤติกรรมเข้าข่ายการแข่งขันไม่เป็นธรรม แต่พอส่งเรื่องไปให้อัยการ ก็ส่งกลับมาให้สอบเพิ่มเติม ตอนนี้ก็ได้สอบเพิ่มเติมตามที่ขอมาแล้ว ก็ส่งคืนและมีความเห็นให้ฟ้องเหมือนเดิม หลังจากนี้ ก็อยู่ที่อัยการว่าจะฟ้องร้องหรือไม่ ซึ่งถ้าฟ้องและมีความผิด จะมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”นายบุญทรงกล่าว
สำหรับคดีดังกล่าว บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า ได้ถูกบริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ บริษัท ไทยยามาฮ่า และบริษัท คาวาซากิ ร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2546 ว่ามีพฤติกรรมแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม โดยบังคับให้ตัวแทนจำหน่ายห้ามจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของบริษัทคู่แข่ง จนสร้างความเสียหายทางธุรกิจ
นายบุญทรงกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้ให้ยุติการตรวจสอบเรื่องธุรกิจค้าส่งค้าปลีก กรณีห้างบิ๊กซีจำหน่ายกระดาษถ่ายเอกสารต่ำกว่าทุน ของคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง เพราะเห็นว่า พฤติกรรมของห้างบิ๊กซีไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 25 และ มาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ที่ห้ามผู้มีอำนาจเหนือตลาดจำกัดการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม และห้ามกระทำการใด ที่ไม่ใช่การแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม และมีผลทำลายธุรกิจของคู่แข่ง ทั้งนี้เพราะราคาจำหน่ายไม่ต่ำกว่าต้นทุน และบิ๊กซีไม่มีเจตนาทำลาย หรือทำให้เกิดความเสียหายแก่การประกอบธุรกิจของร้านค้าใดร้านหนึ่ง ตามที่มีการร้องเรียน
ส่วนการร้องเรียนกรณีจำหน่ายสุราพ่วงเบียร์จากตัวแทนจำหน่ายเบียร์สิงห์ และบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ ที่ร้องเรียนว่าบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตเบียร์อาชา มีพฤติกรรมขายเหล้าพ่วงเบียร์ และมีการนำเบียร์มาขายในราคาต่ำกว่าทุนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกบริษัทที่จำหน่ายสุรามาสอบสวน และกรณีห้างบิ๊กซี ฟ้องเทสโก้ โลตัส มีพฤติกรรมแข่งขันทางการค้าไม่เป็นธรรม ทั้งกรณีการให้นำคูปองของห้างคาร์ฟูร์ที่บิ๊กซีได้ไปควบรวมกิจการ และบัตร I Wish ให้มาใช้ที่ห้างโลตัสนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารและนัดประชุม รวมทั้งจะมีหนังสือเรียกโลตัสมาชี้แจงข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้อนุมัติการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องที่ครบวาระให้ทำงานได้ต่อไปจำนวน 3 คณะ เพื่อพิจารณาในเรื่องเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และลิขสิทธิ์ ให้แล้วเสร็จ
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า วานนี้ (10 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ส่งสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมของคณะอนุกรรมการสอบสวนกรณีเรื่องร้องเรียนบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ตามประเด็นที่สำนักงานอัยการสูงสุดกำหนดให้สอบสวนเพิ่ม และมอบหมายให้กรมการค้าภายใน
ซึ่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ส่งสำนวนดังกล่าวให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องร้องต่อไป ก่อนที่คดีจะหมดอายุความในเดือนเม.ย.2556 และไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับบริษัทได้
“เคยสรุปไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า เอ.พี.ฮอนด้า มีพฤติกรรมเข้าข่ายการแข่งขันไม่เป็นธรรม แต่พอส่งเรื่องไปให้อัยการ ก็ส่งกลับมาให้สอบเพิ่มเติม ตอนนี้ก็ได้สอบเพิ่มเติมตามที่ขอมาแล้ว ก็ส่งคืนและมีความเห็นให้ฟ้องเหมือนเดิม หลังจากนี้ ก็อยู่ที่อัยการว่าจะฟ้องร้องหรือไม่ ซึ่งถ้าฟ้องและมีความผิด จะมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”นายบุญทรงกล่าว
สำหรับคดีดังกล่าว บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า ได้ถูกบริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ บริษัท ไทยยามาฮ่า และบริษัท คาวาซากิ ร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2546 ว่ามีพฤติกรรมแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม โดยบังคับให้ตัวแทนจำหน่ายห้ามจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของบริษัทคู่แข่ง จนสร้างความเสียหายทางธุรกิจ
นายบุญทรงกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้ให้ยุติการตรวจสอบเรื่องธุรกิจค้าส่งค้าปลีก กรณีห้างบิ๊กซีจำหน่ายกระดาษถ่ายเอกสารต่ำกว่าทุน ของคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง เพราะเห็นว่า พฤติกรรมของห้างบิ๊กซีไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 25 และ มาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ที่ห้ามผู้มีอำนาจเหนือตลาดจำกัดการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม และห้ามกระทำการใด ที่ไม่ใช่การแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม และมีผลทำลายธุรกิจของคู่แข่ง ทั้งนี้เพราะราคาจำหน่ายไม่ต่ำกว่าต้นทุน และบิ๊กซีไม่มีเจตนาทำลาย หรือทำให้เกิดความเสียหายแก่การประกอบธุรกิจของร้านค้าใดร้านหนึ่ง ตามที่มีการร้องเรียน
ส่วนการร้องเรียนกรณีจำหน่ายสุราพ่วงเบียร์จากตัวแทนจำหน่ายเบียร์สิงห์ และบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ ที่ร้องเรียนว่าบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตเบียร์อาชา มีพฤติกรรมขายเหล้าพ่วงเบียร์ และมีการนำเบียร์มาขายในราคาต่ำกว่าทุนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกบริษัทที่จำหน่ายสุรามาสอบสวน และกรณีห้างบิ๊กซี ฟ้องเทสโก้ โลตัส มีพฤติกรรมแข่งขันทางการค้าไม่เป็นธรรม ทั้งกรณีการให้นำคูปองของห้างคาร์ฟูร์ที่บิ๊กซีได้ไปควบรวมกิจการ และบัตร I Wish ให้มาใช้ที่ห้างโลตัสนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารและนัดประชุม รวมทั้งจะมีหนังสือเรียกโลตัสมาชี้แจงข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้อนุมัติการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องที่ครบวาระให้ทำงานได้ต่อไปจำนวน 3 คณะ เพื่อพิจารณาในเรื่องเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และลิขสิทธิ์ ให้แล้วเสร็จ