ปตท.ตั้งเป้า 5ปีข้างหน้าเป็นผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพ 7 แสนตัน/ปี ยันปีนี้เห็นการลงทุนผลิตPBS และPLA ในไทย เพื่อก้าวสู่ไบโอพลาสติก ฮับในภูมิภาคนี้ เตือนรัฐออกมาตรการต่างๆเพื่อดึงดูดการลงทุนก่อนต่างชาติหนีไปซบมาเลย์
นายชวลิต ทิพพาวนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ แผนและบริหารในเครือหน่วยธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.มีเป้าหมายใน 5ปีข้างหน้าจะเป็นผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพ (ไบโอพลาสติก) 7 แสนตันต่อปีภายใต้Green Road Map เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นผู้นำด้านพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic Hub)ในภูมิภาคนี้
โดยปีนี้มีแผนตั้งโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ชนิ ด PBS กำลังการผลิต 2 หมื่นตัน/ปีในนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย มาบตาพุด จ.ระยอง ใช้เงินลงทุน 230 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 6.9 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในอีก 2ปีข้างหน้า โครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนระหว่างปตท.กับมิตซูบิชิ เคมิคอล คอร์ปอเรชั่น หรือ เอ็มซีซี ประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ยังผลักดันให้มีการลงทุนตั้งโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพชนิดPLAในประเทศไทยด้วย หลังจากบริษัท เนเจอร์เวิร์ค ของสหรัฐฯมีแผนจะตั้งโรงงานแห่งที่ 2 ในเอเชีย โดยไทยจะต้องสร้างความเชื่อมั่นรวมทั้งรัฐบาลต้องออกมาตรการสนับสนุนเพื่อดึงการลงทุนดังกล่าวมาไทย เนื่องจากพลาสติกชีวภาพPLA เป็นพลาสติกที่มีอนาคตดี
ทั้งนี้ ปตท.ยังมีความมั่นใจว่าทางเนเจอร์เวิร์คจะตัดสินใจเลือกไทยเป็นฐานการผลิตโรงงานผลิตPLAแห่งที่ 2 เนื่องจากไทยมีศักยภาพด้านวัตถุดิบทั้งน้ำตาลและมันสำปะหลัง และมีผู้ประกอบการที่จะนำPLAไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกด้วย โดยเฟสแรกจะตั้งโรงงานผลิตPLAขนาดกำลังผลิต 7 หมื่นตัน/ปี
ปัจจุบัน บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้เข้าไปซื้อหุ้นในเนเจอร์เวิร์ค คิดเป็นสัดส่วน 50% โดยเนเจอร์เวิร์คมีโรงงานผลิตPLAขนาด 1.4 แสนตัน/ปีที่สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ปตท.ยังจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพอื่นๆ อาทิ ไบโอพีพี ไบโอพีอี ไบโอพีวีซี และไบโอพีทีเอ ซึ่งพลาสติกชีวภาพเหล่านี้ไม่ย่อยสลายได้เหมือนกับPBS และPLA แต่มีข้อดีด้านการนำไปใช้ขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ดีเหมือนพลาสติกที่ผลิตจากปิโตรเลียม
นายชวลิต กล่าวต่อไปว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของไทยเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ จำเป็นต้องอาศัยภาครัฐเป็นผู้เริ่มต้นในการออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนและสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติด้วย เช่น รัฐบาลมาเลเซียส่งเสริมการลงทุนพลาสติกชีวภาพ โดยอุดหนุนราคาน้ำตาล 3.5 เซ็นต์/ปอนด์เป็นเวลา 3ปี จัดหาพื้นที่ตั้งโรงงานเพื่อลดต้นทุน และให้คำมั่นสัญญาว่าเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าไปโดยใช้วัตถุดิบจากเศษปาล์ม ก็จะขายให้ราคาถูก นอกเหนือจากการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเหมือนบีโอไอของไทย
อย่างไรก็ตาม ไทยมีการบรรจุแผนพัฒนาฯพลาสติกชีวภาพเป็นวาระแห่งชาติแล้ว และอยู่ระหว่างการศึกษาว่ารัฐควรมีมาตรการใดๆเสริมบ้างเพื่อดึงดูดการลงทุน ซึ่งไทยมีความได้เปรียบทั้งด้านวัตถุดิบ นักวิจัย และจะสร้างห้องแล็บเพื่อตรวจสอบมาตรฐานสินค้าด้วย ขณะเดียวกัน ทางปตท.มีพื้นที่ 1.5 พันไร่ในนิคมฯเอเชีย ซึ่งจะกันพื้นที่ไว้ 450 ไร่สำหรับการลงทุนพลาสติกชีวภาพ โดยจะให้เช่าพื้นที่เป็นเวลา 30 ปีสำหรับผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทยด้วย
ทั้งนี้ไทยตั้งเป้าหมายการผลิตไบโอพลาสติกปีละ 9 แสนตัน ใช้เงินลงทุน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 ซึ่งเชื่อว่าการลงทุนไบโอพลาสติกนี้ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนจากกลุ่มปตท.
“ ที่ผ่าน ปตท.มีการเจรจากับบริษัทชั้นนำต่างชาติที่สนใจลงทุนไบโอพลาสติก และไบโอเคมิคอลหลายราย พบว่าบริษัทเหล่านี้ได้เคยหารือกับมาเลเซียมาแล้ว ดังนั้นภาครัฐจำเป็นต้องออกมาตรการเสริมเพื่อดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมนี้ไว้ “
ทั้งนี้ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน)หรือสนข. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย และกลุ่มปตท. เตรียมจัดประชุมสัมมนาและงานแสดงนิทรรศการนานาชาติด้านพลาสติกชีวภาพ :InnoBioPlast 2013 ระหว่างวันที่ 24-26 มกราคม 2556 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีระดับนานาชาติตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
นายชวลิต ทิพพาวนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ แผนและบริหารในเครือหน่วยธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.มีเป้าหมายใน 5ปีข้างหน้าจะเป็นผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพ (ไบโอพลาสติก) 7 แสนตันต่อปีภายใต้Green Road Map เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นผู้นำด้านพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic Hub)ในภูมิภาคนี้
โดยปีนี้มีแผนตั้งโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ชนิ ด PBS กำลังการผลิต 2 หมื่นตัน/ปีในนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย มาบตาพุด จ.ระยอง ใช้เงินลงทุน 230 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 6.9 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในอีก 2ปีข้างหน้า โครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนระหว่างปตท.กับมิตซูบิชิ เคมิคอล คอร์ปอเรชั่น หรือ เอ็มซีซี ประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ยังผลักดันให้มีการลงทุนตั้งโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพชนิดPLAในประเทศไทยด้วย หลังจากบริษัท เนเจอร์เวิร์ค ของสหรัฐฯมีแผนจะตั้งโรงงานแห่งที่ 2 ในเอเชีย โดยไทยจะต้องสร้างความเชื่อมั่นรวมทั้งรัฐบาลต้องออกมาตรการสนับสนุนเพื่อดึงการลงทุนดังกล่าวมาไทย เนื่องจากพลาสติกชีวภาพPLA เป็นพลาสติกที่มีอนาคตดี
ทั้งนี้ ปตท.ยังมีความมั่นใจว่าทางเนเจอร์เวิร์คจะตัดสินใจเลือกไทยเป็นฐานการผลิตโรงงานผลิตPLAแห่งที่ 2 เนื่องจากไทยมีศักยภาพด้านวัตถุดิบทั้งน้ำตาลและมันสำปะหลัง และมีผู้ประกอบการที่จะนำPLAไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกด้วย โดยเฟสแรกจะตั้งโรงงานผลิตPLAขนาดกำลังผลิต 7 หมื่นตัน/ปี
ปัจจุบัน บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้เข้าไปซื้อหุ้นในเนเจอร์เวิร์ค คิดเป็นสัดส่วน 50% โดยเนเจอร์เวิร์คมีโรงงานผลิตPLAขนาด 1.4 แสนตัน/ปีที่สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ปตท.ยังจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพอื่นๆ อาทิ ไบโอพีพี ไบโอพีอี ไบโอพีวีซี และไบโอพีทีเอ ซึ่งพลาสติกชีวภาพเหล่านี้ไม่ย่อยสลายได้เหมือนกับPBS และPLA แต่มีข้อดีด้านการนำไปใช้ขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ดีเหมือนพลาสติกที่ผลิตจากปิโตรเลียม
นายชวลิต กล่าวต่อไปว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของไทยเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ จำเป็นต้องอาศัยภาครัฐเป็นผู้เริ่มต้นในการออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนและสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติด้วย เช่น รัฐบาลมาเลเซียส่งเสริมการลงทุนพลาสติกชีวภาพ โดยอุดหนุนราคาน้ำตาล 3.5 เซ็นต์/ปอนด์เป็นเวลา 3ปี จัดหาพื้นที่ตั้งโรงงานเพื่อลดต้นทุน และให้คำมั่นสัญญาว่าเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าไปโดยใช้วัตถุดิบจากเศษปาล์ม ก็จะขายให้ราคาถูก นอกเหนือจากการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเหมือนบีโอไอของไทย
อย่างไรก็ตาม ไทยมีการบรรจุแผนพัฒนาฯพลาสติกชีวภาพเป็นวาระแห่งชาติแล้ว และอยู่ระหว่างการศึกษาว่ารัฐควรมีมาตรการใดๆเสริมบ้างเพื่อดึงดูดการลงทุน ซึ่งไทยมีความได้เปรียบทั้งด้านวัตถุดิบ นักวิจัย และจะสร้างห้องแล็บเพื่อตรวจสอบมาตรฐานสินค้าด้วย ขณะเดียวกัน ทางปตท.มีพื้นที่ 1.5 พันไร่ในนิคมฯเอเชีย ซึ่งจะกันพื้นที่ไว้ 450 ไร่สำหรับการลงทุนพลาสติกชีวภาพ โดยจะให้เช่าพื้นที่เป็นเวลา 30 ปีสำหรับผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทยด้วย
ทั้งนี้ไทยตั้งเป้าหมายการผลิตไบโอพลาสติกปีละ 9 แสนตัน ใช้เงินลงทุน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 ซึ่งเชื่อว่าการลงทุนไบโอพลาสติกนี้ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนจากกลุ่มปตท.
“ ที่ผ่าน ปตท.มีการเจรจากับบริษัทชั้นนำต่างชาติที่สนใจลงทุนไบโอพลาสติก และไบโอเคมิคอลหลายราย พบว่าบริษัทเหล่านี้ได้เคยหารือกับมาเลเซียมาแล้ว ดังนั้นภาครัฐจำเป็นต้องออกมาตรการเสริมเพื่อดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมนี้ไว้ “
ทั้งนี้ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน)หรือสนข. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย และกลุ่มปตท. เตรียมจัดประชุมสัมมนาและงานแสดงนิทรรศการนานาชาติด้านพลาสติกชีวภาพ :InnoBioPlast 2013 ระหว่างวันที่ 24-26 มกราคม 2556 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีระดับนานาชาติตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ