00 ในช่วงปลายปีถึงสิ้นปีแบบนี้ก็จะเป็นธรรมเนียมที่หลายองค์กร หลายหน่วยงานจะมีการทำโพล ตั้งฉายารัฐบาล ส.ส.หรือ ข้าราชการแล้ว แต่ที่ต้องจับตามาตั้งแต่อดีตก็คือ “ฉายารัฐบาล” จากผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ปีนี้ก็เช่นเดียวกันให้ฉายารัฐบาลว่า “พี่คนแรก” ความหมายก็คือ ผลประโยชน์ของ “พี่ชาย” นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือ ทักษิณ ชินวัตร มาก่อนปัญหาของประชาชน
00 ถัดมาก็เลี่ยงไม่พ้นฉายาของ นายกฯยิ่งลักษณ์ คือ “ปูกรรเชียง” ความหมายคือเอาแต่ลอยตัว “เฉิดฉายไปวันๆ” ฉายา รองนายกฯเฉลิม อยู่บำรุง คือ “กันชนตระกูลชิน” และที่ขาดไม่ได้คือ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เป็น “ไพร่เทียม” ส่วนรายละเอียดของ รมต.รายอื่นๆ สื่อทุกสำนักได้ลงรายละเอียดเอาไว้หมดแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องยกมาว่าซ้ำ แต่ที่แยกยกมาบางส่วนบางตำแหน่งก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า ฉายาของรัฐบาล ของ นายกฯที่กำลังเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารในปัจจุบัน และรมต.ดังกล่าวว่ามีพฤติกรรมอย่างไร และเท่าที่เห็นก็ต้องบอกว่าสื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายาได้ตรงความหมายจริงๆ แม้ว่าอาจจะไม่สะใจพวกสาย “ฮาร์ดคอร์” มากนักก็ตาม แต่ถ้าในสถานการณ์ที่มีการล็อบบี้กันหนักหน่วง เมื่อผลออกมาอย่างที่เห็นก็พอกล้อมแกล้มโอเคได้บ้าง
00 อย่างน้อยฉายาที่สื่อออกมาคราวนี้มันก็สะท้อนความเป็นจริง ตามความหมายที่ควรจะเป็น เช่น บอกว่าเป็นรัฐบาลพี่คนแรก ก็คือ ทำทุกอย่างเพื่อพี่ชาย คือ ทักษิณ แทนที่จะนึกถึงปัญหาของประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ทั้งเรื่องของแพง สินค้าราคาเกษตรตกต่ำ ซึ่งหากนำไปเปรียบเทียบให้เห็นอีกก็คือ การแก้ไขรธน.ที่กำลังผลักดันอยู่ในเวลานี้ก็ไม่ได้ต่างกัน นั่นคือแก้ไขเพื่อคนๆเดียว ต้องการให้ ทักษิณ ชินวัตร พ้นความผิดเท่านั้น
00 ที่สะสุดตาก็คือคำว่า “ไพร่เทียม” ของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มันก็ยิ่งเจ็บลึกเข้าไปข้างใน เพราะที่ผ่านมาคนๆนี้ พยายามสร้างภาพให้เห็นก็คือตัวเอง “เป็นไพร่” อยู่บนเวทีคนเสื้อแดง แต่ฉายาที่ได้รับก็คือ “มันไม่ใช่” มันไม่ใช่ไพร่ เพราะทำตัวเป็นอำมาตย์ และที่ผ่านมา ป.ป.ช.ก็เพิ่งเปิดเผยทรัพย์สินให้เห็นแล้วว่า มีทั้งหมดถึงกว่า 24 ล้าน แต่เมื่อหักหนี้ออกมาแล้วยังเหลือถึง 17 ล้านบาท อย่างนี้แหละถึงต้องเรียกว่า “ไพร่เทียม” คำพูดอาจไม่แรงสะใจ สาสม แต่ความหมายละใช่เลย
00 ฉายารัฐบาล ฉายานายกฯปู และ รมต.ตัวแทนของคนเสื้อแดงอย่าง ณัฐวุฒิ ที่สะท้อนออกมา ไม่รู้ว่าคนเสื้อแดงที่หลงใหลบูชาคนในตระกูลชินวัตร และครอบครัวของทักษิณ จะรู้สึกอย่างไรบ้าง แต่เชื่อว่าอย่างน้อย คง “สะอึก” ตั้งสติและหยุดคิดได้บ้าง การยอมให้คนอื่นเขาเหยียบย่ำขึ้นไปเสวยสุข เสวยอำนาจ แสวงหาความร่ำรวยไม่สิ้นสุด ขณะที่ตัวเองยังหาเช้ากินค่ำ อดมื้อกินมื้อ
00 อย่างไรก็ดี การประจาน ทักษิณ กับพวกนั้นบางครั้งไม่ต้องไปทำอะไรมาก ปล่อยให้ระยะเวลาทำหน้าที่ของมันเอง เพราะความชั่ว ความโลภ ความเห็นแก่ตัวก็จะค่อยๆโผล่ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ เหมือนอย่างในปัจจุบันที่เริ่มพิสูจน์ให้เห็นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนเสื้อแดง จะได้เห็นเองว่าคนอย่างทักษิณ นั้นเป็นอย่างไร ทุกอย่างคิดแต่เรื่องกำไร ขาดทุนเท่านั้น ทุด !!
00 ถัดมาก็เลี่ยงไม่พ้นฉายาของ นายกฯยิ่งลักษณ์ คือ “ปูกรรเชียง” ความหมายคือเอาแต่ลอยตัว “เฉิดฉายไปวันๆ” ฉายา รองนายกฯเฉลิม อยู่บำรุง คือ “กันชนตระกูลชิน” และที่ขาดไม่ได้คือ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เป็น “ไพร่เทียม” ส่วนรายละเอียดของ รมต.รายอื่นๆ สื่อทุกสำนักได้ลงรายละเอียดเอาไว้หมดแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องยกมาว่าซ้ำ แต่ที่แยกยกมาบางส่วนบางตำแหน่งก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า ฉายาของรัฐบาล ของ นายกฯที่กำลังเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารในปัจจุบัน และรมต.ดังกล่าวว่ามีพฤติกรรมอย่างไร และเท่าที่เห็นก็ต้องบอกว่าสื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายาได้ตรงความหมายจริงๆ แม้ว่าอาจจะไม่สะใจพวกสาย “ฮาร์ดคอร์” มากนักก็ตาม แต่ถ้าในสถานการณ์ที่มีการล็อบบี้กันหนักหน่วง เมื่อผลออกมาอย่างที่เห็นก็พอกล้อมแกล้มโอเคได้บ้าง
00 อย่างน้อยฉายาที่สื่อออกมาคราวนี้มันก็สะท้อนความเป็นจริง ตามความหมายที่ควรจะเป็น เช่น บอกว่าเป็นรัฐบาลพี่คนแรก ก็คือ ทำทุกอย่างเพื่อพี่ชาย คือ ทักษิณ แทนที่จะนึกถึงปัญหาของประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ทั้งเรื่องของแพง สินค้าราคาเกษตรตกต่ำ ซึ่งหากนำไปเปรียบเทียบให้เห็นอีกก็คือ การแก้ไขรธน.ที่กำลังผลักดันอยู่ในเวลานี้ก็ไม่ได้ต่างกัน นั่นคือแก้ไขเพื่อคนๆเดียว ต้องการให้ ทักษิณ ชินวัตร พ้นความผิดเท่านั้น
00 ที่สะสุดตาก็คือคำว่า “ไพร่เทียม” ของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มันก็ยิ่งเจ็บลึกเข้าไปข้างใน เพราะที่ผ่านมาคนๆนี้ พยายามสร้างภาพให้เห็นก็คือตัวเอง “เป็นไพร่” อยู่บนเวทีคนเสื้อแดง แต่ฉายาที่ได้รับก็คือ “มันไม่ใช่” มันไม่ใช่ไพร่ เพราะทำตัวเป็นอำมาตย์ และที่ผ่านมา ป.ป.ช.ก็เพิ่งเปิดเผยทรัพย์สินให้เห็นแล้วว่า มีทั้งหมดถึงกว่า 24 ล้าน แต่เมื่อหักหนี้ออกมาแล้วยังเหลือถึง 17 ล้านบาท อย่างนี้แหละถึงต้องเรียกว่า “ไพร่เทียม” คำพูดอาจไม่แรงสะใจ สาสม แต่ความหมายละใช่เลย
00 ฉายารัฐบาล ฉายานายกฯปู และ รมต.ตัวแทนของคนเสื้อแดงอย่าง ณัฐวุฒิ ที่สะท้อนออกมา ไม่รู้ว่าคนเสื้อแดงที่หลงใหลบูชาคนในตระกูลชินวัตร และครอบครัวของทักษิณ จะรู้สึกอย่างไรบ้าง แต่เชื่อว่าอย่างน้อย คง “สะอึก” ตั้งสติและหยุดคิดได้บ้าง การยอมให้คนอื่นเขาเหยียบย่ำขึ้นไปเสวยสุข เสวยอำนาจ แสวงหาความร่ำรวยไม่สิ้นสุด ขณะที่ตัวเองยังหาเช้ากินค่ำ อดมื้อกินมื้อ
00 อย่างไรก็ดี การประจาน ทักษิณ กับพวกนั้นบางครั้งไม่ต้องไปทำอะไรมาก ปล่อยให้ระยะเวลาทำหน้าที่ของมันเอง เพราะความชั่ว ความโลภ ความเห็นแก่ตัวก็จะค่อยๆโผล่ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ เหมือนอย่างในปัจจุบันที่เริ่มพิสูจน์ให้เห็นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนเสื้อแดง จะได้เห็นเองว่าคนอย่างทักษิณ นั้นเป็นอย่างไร ทุกอย่างคิดแต่เรื่องกำไร ขาดทุนเท่านั้น ทุด !!