ASTVผู้จัดการรายวัน-“บอร์ดบีโอไอ” เตรียมเคาะอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนส่งท้ายปี 2555 อีก 24 โครงการมูลค่าแสนล้านบาท จับตาดันมูลค่าขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งปีทะลุ 1 ล้านล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมจ่อเคาะผ่อนผันใช้แรงงานต่างด้าวหลังเอกชนเรียกร้อง
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน วันนี้ (26ธ.ค.) ที่ประชุมจะมีการพิจารณาอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนส่งท้ายปีจำนวน 24 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ตลอดปี 2555 จะมีการยอดการขอรับส่งเสริมฯทะลุระดับ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าการยื่นขอลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์
“เป็นมูลค่าการลงทุนที่สูงกว่าที่บีโอไอเคยวางเป้าหมายไว้เดิมที่ 6 แสนล้านบาท ต่อมาก็ปรับเป็น 8 แสนล้านบาท และเมื่อถึงที่สุดก็ทะลุล้านล้านบาท เพราะ 11 เดือนมีการยื่นขอรับส่งเสริมคิดเป็นมูลค่าลงทุนแล้วถึง 9.362 แสนล้านบาท โดยกิจการส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกลุ่มพลังงาน อาทิ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล รวมถึงการขยายกิจการของธุรกิจอากาศยาน เป็นต้น”แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังจะมีการพิจารณาการขอผ่อนผันการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือ ในกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ตามที่ภาคเอกชนเรียกร้องขอ เนื่องจากขณะนี้ไทยเกิดการขาดแคลนแรงงานจำนวนมาก ทำให้กิจการหลายแห่งยังจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวอยู่ รวมถึงพิจารณามาตรการต่างๆ ของบีโอไอ ที่ประกาศใช้มาก่อนหน้านี้ และกำลังจะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธ.ค.2555
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ที่เป็นมาตรการซึ่งประกาศใช้ในช่วงสถานการณ์จำเป็น เช่น มาตรการฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤติอุทกภัย และมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับส่งเสริมการลงทุนที่ประสบอุทกภัย จะไม่มีการขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการออกไป ซึ่งจะทำให้มาตรการดังกล่าวจะมีผลถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น ในขณะที่บางมาตรการที่เป็นมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเพิ่มเติม เช่น มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะมีการปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากขึ้น พร้อมกันนี้ จะยืดเวลามาตรการดังกล่าวออกไป เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในพื้นที่
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การนำคณะผู้บริหารของกระทรวงอุตสาหกรรม และ บีโอไอ เยือนสาธารณรัฐอินเดียและบังกลาเทศ ในโอกาสที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียสมัยพิเศษ และเยือนบังกลาเทศ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนอินเดียให้ความสนใจที่จะขยายลงทุนมาไทยจำนวนมากทั้ง บริษัท อดิตยา เบอล่า บริษัท Punj Lloyd ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ สนใจเข้ามาลงทุนในโครงการวางท่อส่งก๊าช และศูนย์ซ่อมอากาศยาน
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน วันนี้ (26ธ.ค.) ที่ประชุมจะมีการพิจารณาอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนส่งท้ายปีจำนวน 24 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ตลอดปี 2555 จะมีการยอดการขอรับส่งเสริมฯทะลุระดับ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าการยื่นขอลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์
“เป็นมูลค่าการลงทุนที่สูงกว่าที่บีโอไอเคยวางเป้าหมายไว้เดิมที่ 6 แสนล้านบาท ต่อมาก็ปรับเป็น 8 แสนล้านบาท และเมื่อถึงที่สุดก็ทะลุล้านล้านบาท เพราะ 11 เดือนมีการยื่นขอรับส่งเสริมคิดเป็นมูลค่าลงทุนแล้วถึง 9.362 แสนล้านบาท โดยกิจการส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกลุ่มพลังงาน อาทิ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล รวมถึงการขยายกิจการของธุรกิจอากาศยาน เป็นต้น”แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังจะมีการพิจารณาการขอผ่อนผันการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือ ในกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ตามที่ภาคเอกชนเรียกร้องขอ เนื่องจากขณะนี้ไทยเกิดการขาดแคลนแรงงานจำนวนมาก ทำให้กิจการหลายแห่งยังจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวอยู่ รวมถึงพิจารณามาตรการต่างๆ ของบีโอไอ ที่ประกาศใช้มาก่อนหน้านี้ และกำลังจะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธ.ค.2555
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ที่เป็นมาตรการซึ่งประกาศใช้ในช่วงสถานการณ์จำเป็น เช่น มาตรการฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤติอุทกภัย และมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับส่งเสริมการลงทุนที่ประสบอุทกภัย จะไม่มีการขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการออกไป ซึ่งจะทำให้มาตรการดังกล่าวจะมีผลถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น ในขณะที่บางมาตรการที่เป็นมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเพิ่มเติม เช่น มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะมีการปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากขึ้น พร้อมกันนี้ จะยืดเวลามาตรการดังกล่าวออกไป เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในพื้นที่
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การนำคณะผู้บริหารของกระทรวงอุตสาหกรรม และ บีโอไอ เยือนสาธารณรัฐอินเดียและบังกลาเทศ ในโอกาสที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียสมัยพิเศษ และเยือนบังกลาเทศ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนอินเดียให้ความสนใจที่จะขยายลงทุนมาไทยจำนวนมากทั้ง บริษัท อดิตยา เบอล่า บริษัท Punj Lloyd ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ สนใจเข้ามาลงทุนในโครงการวางท่อส่งก๊าช และศูนย์ซ่อมอากาศยาน