xs
xsm
sm
md
lg

จับตาเล่ห์แม้วมุ่งประชามติ เป้าหมายมาตรา309ล้างมลทินตัวเอง-โอ๊คโผล่แจม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แนะจับตาเล่ห์ "แม้ว" หลังคุยโวประชามติ 24 ล้านเสียงเรื่องหมูๆ ชี้สู่เป้าหมายเพื่อแก้ มาตรา 309 ปลดเปลื้องความผิดของตัวเองพ้นรัฐประหาร "ยะใส" เชื่อปฎิญญาเขาใหญ่ถูกแม้วแช่แข็งตามเคย ฟันธงแก้ รธน.วิธีไหนก็ผ่านยาก เพราะสังคมรู้ทันแก้เพื่อคนๆ เดียว ด้าน "เพื่อไทย" เรียกประชุม ส.ส.หาข้อสรุป 25 ธ.ค. แกนนำเสื้อแดงเมินแม้วให้ทำประชามติ "จาตุรนต์" ตะแบง หากทำประชามติ เอาแค่เสียงข้างมากก็พอ "โอ๊ค" โพสต์เฟซบุ๊กถาม "ปู่พิชัย" ทำไม ปชป.ป้อง ม. 309

หลังจากมีความเห็นแตกแยกในการแก้รัฐธรรมนูญ ระหว่างกลุ่มเสื้อแดง กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประกาศบนเวทีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ที่ โบนันซ่า เขาใหญ่ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า กลุ่มเสื้อแดงเห็นว่าไม่ควรทำประชามติ ก่อนแก้รัฐธรรมนูญ เพราะทำไปก็แพ้ จะไม่มีคนออกมาใช้สิทธิออกเสียงถึง 24 ล้านเสียง ดังนั้นจึงควรใช้แนวทางรัฐสภา ด้วยการเดินหน้าโหวต ร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 วาระที่ 3ไปเลย แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็วิดีโอลิงก์ มาคัดค้านทันที ว่า ถ้าโหวตวาระ 3 จะแพ้ เพราะ ส.ส.-ส.ว. จะไม่มีใครกล้าโหวต เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้ตีความมาแล้วว่า การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อตั้งส.ส.ร. มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่นั้นเป็นการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เท่ากับเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 50 ถ้ามีการโหวตวาระ 3 ฝ่ายตรงข้ามต้องไปยื่นถอดถอน ส.ส.-ส.ว. ที่โหวตแน่ ดังนั้นควรใช้แนวทางทำประชามติ ซึ่งง่ายกว่า ส่วนเรื่องจำนวนผู้มาใช้สิทธิออกเสียงต้องถึง 24 ล้านเสียงนั้น เป็นเรื่องหมูๆ เพราะการใช้สิทธิครั้งนี้ เป็นการตัดสินอนาคตประเทศ เชื่อว่าประชาชนต้องออกมาแน่

เป้าหมายแก้ ม.309 ปลดล็อกให้แม้ว

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงก์ มาให้รัฐบาลเดินหน้าทำประชามติ ว่า ต้องจับตาในคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่แสดงความมั่นใจต่อการทำประชามติเช่นนี้ว่า มีจุดประสงค์ใดหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีการใช้เล่ห์เพทุบายทุกรูปแบบเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ โดยไม่สนใจความชอบธรรม หากพ.ต.ท.ทักษิณ จะสนับสนุนให้ทำประชามติ ย่อมไม่ใช่เรื่องทีผิด แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง บ้านเมืองจะเกิดปัญหาอย่างแน่นอน และพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องแสดงความรับผิดชอบที่เป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด
นายองอาจ ยังย้ำให้ประชาชนจับตาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 เพราะรัฐบาลกำลังใช้กลยุทธ์ว่า หากใครไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรานี้ เท่ากับว่าเป็นพวกเดียวกับเผด็จการนั้น ถือเป็นการหลอกลวงประชาชน ด้วยการใช้ประชาธิปไตยบังหน้า และพยายามปิดบัง อำพราง ความต้องการอย่างแท้จริงของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ก่อนหน้านี้บรรดานักวิชาการ และทุกภาคส่วนในสังคม ก็ออกมาตั้งข้อสังเกตเช่นเดียวกันว่า การแก้ไขมาตรา 309 นี้จะเป็นปัญหา และสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความขัดแย้งมากขึ้น
นายองอาจกล่าวด้วยว่า เป้าหมายการแก้ไขมาตรา 309 ที่แท้จริงก็เพื่อล้มล้างทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับรัฐประหาร เท่ากับว่า กระบวนการตรวจสอบหลังรัฐประหารถูกล้มเลิกไปโดยปริยาย และเป็นการทำลายล้างระบบนิติรัฐ นิติธรรม จึงอยากให้รัฐบาลบอกให้ชัดเจนว่า เหตุใดต้องแก้ไขมาตรานี้ และจะเกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ อย่างไร เพราะการจะเป็นประชาธิปไตย หรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับมาตรานี้ แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมนักการเมืองที่ปากอ้างประชาธิปไตย แต่หัวใจเป็นเผด็จการทำเพื่อรับใช้ใครบางคน

"ประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากแก้ไขมาตรานี้คดีที่ตัดสินไปแล้วจะถูกล้มล้างทั้งหมด พรรคไม่ได้เกลียดชัง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สนใจผู้หลบหนีคดีจะชื่อทักษิณหรือไม่ แต่ต้องการผดุงไว้ให้เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และความถูกต้องของบ้านเมือง" นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ ยังกล่าวถึงการตั้งส.ส.ร. เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตย ว่า การอ้างส.ส.ร.โดยโยงถึงหลักประชาธิปไตยนั้น เป็นการนำประชาธิปไตยมาบังหน้า เพื่ออำพรางความต้องการที่แท้จริง เพราะเมื่อพิจารณาสัดส่วน ส.ส.ร. 99 คนแล้ว จะพบว่ามีถึง 22 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธานสภา ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลหาอีกเพียงแค่ 30 คนก็จะเกินครึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ร.ทั้งหมด ทำให้บังคับทิศทางการทำงานของส.ส.ร.ได้ และเมื่อมองพื้นฐานการเลือกตั้งปี 2554 จะเห็นว่า รัฐบาลสามารถควบคุมจำนวนเสียงส่วนใหญ่ได้หมด ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะดลบันดาลให้ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญ ตามที่ตัวเองต้องการ ดังนั้นที่บอกว่า ส.ส.ร.เป็นตัวแทนจากประชาชน จึงไม่ใช่ความจริงทั้งหมด แต่รัฐธรรมนูญที่จะยกร่างใหม่ จะเป็นไปตามความต้องการของคนที่อยู่เบื้องหลังคือ พ.ต.ท.ทักษิณนั่นเอง

เย้ย "ปฏิญญาสวมเขาใหญ่คนเสื้อแดง"
 

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และการประกาศปฏิญญาเขาใหญ่ 3 ข้อ ตามแถลงการณ์ของแกนนำ นปช. ว่า เป็นการเรียกร้องทั้งๆ ที่แกนนำเหล่านี้รู้ดีว่า ไม่มีข้อเรียกร้องใดที่จะสามารถดำเนินการได้จริงเลย เป็นการพูดแบบแผ่นเสียงตกร่อง หลอกคนเสื้อแดงซ้ำซาก สร้างความหวังลมๆ แล้งๆ เพื่อหวังดึงมวลชนไว้อยู่กับตัว โดยตนอยากจะชี้ให้คนเสื้อแดงเห็นว่า ขณะนี้ถูกหลอกและถูกต้ม จากแกนนำ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งแล้วครั้งเล่า คือ

1. การลงมติในวาระ 3 เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่มีวันที่จะดำเนินการ รวมทั้งพ.ต.ท.ทักษิณเองก็วิดีโอลิงก์ เข้ามายืนยันว่า จะไม่เดินหน้าลงมติในวาระที่ 3 แน่นอน โดยเลือกที่จะเดินหน้าทำประชามติ แต่แกนนำ นปช. ก็ยังกล้าที่ออกแถลงการณ์หลอกคนเสื้อแดงต่อไป

2. เรื่องการลงนามรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ ตนยืนยันมาหลายครั้งแล้วว่า รัฐบาลไม่มีทางที่จะลงนามรับเขตอำนาจศาลฯ เนื่องจากคดีการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในปี 2553 นั้น ไม่เข้าข่ายการพิจารณาของศาลอาญาระหว่างประเทศ ดังนั้นหากลงนามไป ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ ตรงกันข้าม การรับอำนาจศาลนั้นอาจจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องไปขึ้นศาลโลก ในกรณีมัสยิดกรือเซะ หรือเหตุการณ์ตากใบ จึงเป็นเหตุให้รัฐบาลไม่กล้าที่จะเดินหน้าในเรื่องดังกล่าว และตนขอท้าว่า ถ้าแน่จริงก็ขอให้ประกาศรับเขตอำนาจศาลเลย เพราะพวกตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ และพร้อมต่อสู้ทุกที่ มีแต่แกนนำคนเสื้อแดงเหล่านี้ที่ยังดีแต่พูด

3. เรื่องการนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ตนเชื่อว่าเป็นอีก 1 ข้อเรียกร้องที่มีไว้ต้มคนเสื้อแดง เพราะรัฐบาลจะไม่มีทางนิรโทษกรรมให้กับประชาชน จนกว่าแกนนำหรือพ.ต.ท.ทักษิณ จะพ้นผิด

" ผมรู้สึกเห็นใจคนเสื้อแดงจริงๆ ที่ต้องไปร่วมชุมนุม และหลวมตัวเข้าไปอยู่ในกระบวนการล้างผิดให้กับแกนนำ โดยหารู้ไม่ว่า ข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ ที่เขาพูดนั้นไม่มีวันเป็นจริง และคนเสื้อแดงก็ต้องเป็นหมากให้กับแกนนำต่อไป และเห็นว่าปฏิญญา ดังกล่าวนั้นควรจะถูกเรียกว่า ปฏิญญาสวมเขาใหญ่คนเสื้อแดงมากกว่า" นายชวนนท์ กล่าว

"ปฎิญญาฯ" ถูกแม้วแช่แข็งแน่

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า กรณีการออกเสียงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เห็นต่างกันระหว่างแกนนำนปช.ที่เสนอให้ลงมติ วาระ3 ในขณะที่รัฐบาล และ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้เดินหน้าออกเสียงประชามตินั้น เชื่อว่าในที่สุดก็คงเป็นไปตามประกาศิตนายใหญ่ ความเห็นต่างในเรื่องนี้คงไม่ขยายตัวเป็นความขัดแย้ง เพราะที่ผ่านมา อำนาจเด็ดขาดทั้งในพรรคเพื่อไทย และในขบวนการคนเสื้อแดงอยู่ในมือ พ.ต.ท.ทักษิณ ฉะนั้น"ปฏิญญาเขาใหญ่" ของ นปช. ที่ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าลงมติ วาระ 3 นั้น ก็คงถูกแช่แข็งโดย พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นเคย เหมือนเมื่อคราวที่นปช. จัดชุมนุมหน้าสภา เพื่อกดดันให้ ลงมติวาระ3 โดยไม่สนใจคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้น แต่สุดท้ายก็กลับบ้านมือเปล่า
"ผมเชื่อว่ากระแสต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่คลี่คลาย แม้รัฐบาลจะจัดให้มีการออกเสียงประชามติก็ตาม เพราะประชาชนไม่ไว้วางใจ และไม่เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อการปฏิรูปการเมือง แต่เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ จะเป็นเพียงพิธีกรรมสร้างควมชอบธรรมในการฟอกผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่ายเท่านั้น"
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า การที่รัฐบาลและพรรคร่วมบอกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่อง ของส.ส.ร. และรัฐสภานั้น ฟังไม่ขึ้น เพราะรัฐบาลกุมเสียงข้างมากในสภา และมีอำนาจที่จะสามารถแทรกแซงกำหนดตัว ส.ส.ร. สายวิชาการ หรือแม้แต่ในกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ตลอดเวลา เพราะรัฐบาลกุมทั้งสื่อ และงบประมาณอยู่แล้ว ดังนั้น อยากเตือนรัฐบาลว่า ตราบใดที่ยังไม่สามารถลบข้อครหาว่า แก้รัฐธรรมนูญเพื่อคนๆ เดียวนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด ก็จะเป็นสายล่อฟ้า เป็นเงื่อนไขความแตกแยกในสังคมมากขึ้น และเป็นเรื่องยากที่รัฐบาลจะควบคุมกระแสต่อต้านได้ ถึงตอนนั้นประเทศไทยก็คงเดินตามรอยประเทศอียิปต์ แตกแยก ขัดแย้งไม่รู้จบ

พท.เรียกประชุมหาทางออก

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยจะเรียกประชุมส.ส.ใน วันที่ 25ธ.ค.นี้ เพื่อหารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าจะใช้วิธีโหวตวาระที่ 3 หรือใช้แนวทางการทำประชามติ รวมทั้งจะมีการพิจารณาข้อเสนอของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่เสนอให้การแก้ไขเป็นรายมาตรา และข้อเสนอ 9 ข้อ ของสมาชิกพรรค เพื่อให้ได้ข้อยุติ พร้อมทั้งพิจารณาข้อเสนอของคณะทำงานเพื่อศึกษาการทำประชามติของรัฐบาล ที่จะมีการประชุมในวันที่ 24 ธ.ค.ด้วย เพื่อรับฟังความเห็นของทุกภาคส่วน ต่อจากนั้นจะนำข้อสรุป ไปหารือร่วมกันในการสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 6-7 ม.ค. 56 ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการสัมมนาด้วย หลังจากนั้นจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมพรรคอีกครั้งในวันที่ 8 ม.ค. 56
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า ที่หลายฝ่ายห่วงว่า พรรคเพื่อไทย มีความเห็นแตกแยก เพราะเสียงส่วนหนึ่งต้องการ

ให้ทำประชามติ แต่ยังห่วงเรื่องผู้ที่จะออกมาใช้สิทธิ ต้องมีอย่างน้อย 24ล้านเสียง อีกทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม ยังต้องการแก้ไขรายมาตราและสมาชิกพรรค ต้องการให้ลงมติในวาระที่ 3 แต่ทั้งนี้ยืนยันพรรคเพื่อไทยไม่ได้แตกแยก ทุกฝ่ายต้องฟังเหตุผลในการประชุมพรรค และจะต้องเคารพเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากรากเหง้าเผด็จการ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดตัวกติกาใหม่

แก้ ม.309หรือไม่เป็นเรื่องอนาคต
ส่วนกรณีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเป็นการแก้ไขมาตรา 309 เพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นเป็นคำพูดที่บิดเบือนความจริง เพราะการแก้ไขมาตรา 309 เป็นเรื่องของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งวันนี้ยังไม่มีการแก้ไข มาตรา 291 อย่างไรก็ตาม แม้ในอนาคต จะมีการแก้ไข มาตรา 309 ก็ไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมาตรา 309 เป็นการรับรองการรัฐประหารในอดีต ตนแปลกใจว่า ทำไมนายองอาจ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พยายามจะอุ้มการกระทำของคณะรัฐประหาร ทั้งที่มาตรา 309 เป็นมาตราที่รับรองความชอบของการยึดอำนาจที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามใช้ มาตรา 309 เป็นข้ออ้าง ก็เพราะไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 26-27 ธ.ค. มีการปล่อยข่าวว่าจะมีการนำเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. .... เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วยนั้น

พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า จะไม่มีการนำเสนอกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภาฯ อย่างแน่นอน แต่จะเป็นการนำเสนอกฎหมายที่ค้างในการประชุมรัฐสภาสมัยที่่ผ่านมา ขึ้นมาพิจารณาเท่านั้น

เสื้อแดงเมินแม้วให้ทำประชามติ

นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินแสดงความไม่เห็นด้วยกับการลงมติโหวต แก้รัฐธรรมนูญ วาระ 3 ว่า เชื่อว่าเป็นความห่วงใยของ พ.ต.ท.ทักษิณจริงๆ ไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลัง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยากให้เกิดเงื่อนไข เมื่อโหวตวาระ 3 ไปแล้ว จะมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีก และกลัวว่า ส.ส. และส.ว. บางส่วน อาจจะไม่ยกมื่อให้ เพราะกลัวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ จึงอยากให้ใช้การทำประชามติแทน

ทั้งนี้ ทราบว่าขณะนี้ที่ภาคใต้ และกทม.บางส่วน มีนักการเมืองท้องถิ่นถึงนักการเมืองระดับชาติ ของพรรคการเมืองบางพรรค นำรถติดเครื่องขยายเสียงไปเคลื่อนไหวในพื้นที่ รณรงค์ไม่ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิทำประชามติ ประเมินดูแล้ว จะทำให้มีคนนอนอยู่บ้านเฉยๆได้ถึง 7 ล้านคน ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ อีกทั้งกฎหมายการทำประชามติ ไม่มีการติดสิทธิใดๆ ของผู้ไม่ออกมาใช้สิทธิ ทำให้ไม่ต้องกังวลอะไร หากไม่ออกมาใช้สิทธิ ดังนั้นการจะหาให้ถึง 25 ล้านเสียง เป็นเรื่องยากจริงๆ เพราะขณะนี้เสียงพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรครวมกันได้แค่ 17 ล้านเสียงเท่านั้น
นายวรชัย กล่าวด้วยว่า คนเสื้อแดงยังยืนยันแนวทางให้โหวต วาระ 3 ถือเป็นปฏิญญาโบนันซา ที่ได้ประกาศไปแล้ว ซึ่งแกนนำนปช. บางส่วนหารือกันว่า หากยังลังเลว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยวิธีใด ก็เสนอให้ทำโพลถามประชาชนไปเลยว่าจะทำอย่างไร ได้แก่ 1.ให้เดินหน้าโหวตวาระ 3 ทันที 2. ให้ทำประชามติก่อนโหวตวาระ 3 3.ให้แก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา หากเสียงข้างมากว่าอย่างไร ก็ใช้แนวทางนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคมีมติให้ทำประชามติก่อนโหวตวาระ 3 จะทำให้คนเสื้อแดงเสียความรู้สึก จนไม่ออกมาใช้สิทธิทำประชามติ หรือไม่ นายวรชัย ตอบว่า คนเสื้อแดงมีเหตุผล สิ่งที่เสนอไป เราแค่ติ แต่สุดท้ายแล้วหากพรรคมีมติเลือกแนวทางใด ไม่ว่าจะลงเหว หรือขึ้นเขา คนเสื้อแดงก็ไม่เสียความรู้สึก พร้อมจะสนับสนุน และออกมาใช้สิทธิทำประชามติอย่างเต็มที่

ตะแบงไม่ทำประชามติตาม ม.165

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ ถึงการทำประชามติ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า การจะทำประชามติก่อนการลงมติ วาระ 3 หรือไม่ เรื่องนี้จะมีผลอย่างมากต่อวิกฤตประเทศ รัฐธรรมนูญปัจจุบันไม่ได้บัญญัติว่า จะต้องมีการลงประชามติก่อนที่จะมีการลงมติในวาระ 3 ฉะนั้นจะลงมติเสียเลย ก็ย่อมทำได้ แต่เข้าใจว่ามีความเป็นห่วงว่า ถ้าลงมติไปแล้วก็อาจไปสะดุดข้างหน้าอีก เพราะศาลรัฐธรรมนูญ แนะนำไว้ว่าถ้าจะแก้ทั้งฉบับควรลงประชามติเสียก่อน แต่พอจะให้มีการลงประชามติ ก็มีปัญหาต้องตีความกันมากพอสมควร ว่าจะทำอย่างไร และจะมีผลอย่างไรกันแน่ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติให้ต้องมีประชามติ
ข้อดีอีกอย่างของการลงประชามติ คือ การแก้ปัญหาการเมือง เนื่องจากรัฐธรรมนูญนี้ ผ่านการลงประชามติมาก่อนจะนำมาใช้ ถ้าจะแก้กันใหม่มากๆ การมีประชามติก็ดี ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ค้างสภาอยู่ก็กำหนดให้ต้องมีการทำประชามติอยู่แล้ว เพียงแต่ให้ทำในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งเป็นเหตุเป็นผลมากกว่าทำก่อนยกร่าง แต่ถ้าจะลงประชามติกันถึง 2 รอบ คือ ทั้งก่อน และหลังการยกร่างโดยส.ส.ร. แล้วสังคมไม่เห็นว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลือง ก็สามารถทำได้เหมือนกัน แต่ปัญหาการลงประชามติเวลานี้คือ จะลงประชามติกันด้วยกติกาอย่างไร ถ้าลงประชามติอย่างที่พูดกันอยู่ คือ การทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 จะมีปัญหาอย่างมาก เพราะมีการกำหนดให้ใช้เสียงเกินกว่าครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ
กติกาตามมาตรา 165 นี้ มีไว้สำหรับขอคำปรึกษา หรือหาข้อยุติในเรื่องต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องมีการลงประชามติ การลงประชามติตาม มาตรา 165 เป็นการกำหนดเงื่อนไขให้สูงกว่า ยากกว่า การลงประชามติ รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ที่มีขึ้นในปี 2550 อย่างมาก การกำหนดให้ต้องมีเสียงเกินกว่าครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง เท่ากับบอกว่า ผู้ไม่ออกเสียง ก็ถือเป็นเสียงค้านด้วย ผู้ที่ค้านก็ไม่ต้องทำอะไร นอกจากอยู่กับบ้าน หรือรณรงค์ให้คนอยู่กับบ้าน ภาระก็ตกอยู่กับฝ่ายสนับสนุนที่ต้องหาคนมาให้ได้เกินครึ่งของผู้มีสิทธิ ปกติการจะให้ประชาชนตัดสินเรื่องอะไร ควรจะวัดกันที่เสียงข้างมาก ผู้ที่ไม่มาออกเสียงย่อมต้องถือว่า ยอมรับผลของการออกเสียง

"การลงประชามติ ตามมาตรา 165 จึงเป็นการเดินไปสู่ทางตัน คือ ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ เพราะปัญหาทางเทคนิก เกี่ยวกับกติกาว่าด้วยการลงประชามติ แล้วฝ่ายคัดค้านก็จะไปทึกทักเอาว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อไปไม่ว่าจะแก้ทั้งฉบับ หรือรายมาตรา ก็จะเป็นเรื่องยากมาก ผมจึงเห็นว่า ไม่ควรจัดให้มีการลงประชามติ ตามมาตรา 165 เพราะจะเป็นการเดินตามเกมที่ฝ่ายปกป้องรัฐธรรมนูญได้วางหมากไว้ให้เดิน สำเร็จยากมาก หากจะมีการลงประชามติ ควรต้องใช้กติกาเดียวกันกับการลงประชามติรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน เมื่อปี 50 คือ กำหนดให้ใช้เสียงข้างมากเท่านั้นพอ จึงจะถูก สำหรับปัญหาที่ต้องตัดสินใจกันในขณะนี้ ผมจึงขอเสนอทางออกเป็น 2 ทางคือ 1. ลงมติวาระ 3 ไปเลย หรือ 2. ลงประชามติตามกติกาเดียวกันกับการลงประชามติ ในปี 2550" นายจาตุรนต์ ระบุ

"โอ๊ค"ถาม"ปู่พิชัย"ทำไมป้อง ม.309

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีพรรค ประชาธิปัตย์ คัดค้านการแก้รธน.มาตรา 309 ว่า การยืนยันไม่แก้ รัฐธรรมนูญปี 50 ที่ร่างในยุคเผด็จการ ถือว่าเป็นสิ่งที่แปลก สำหรับพรรคเก่าแก่ที่เหลืออยู่พรรคเดียวในเมืองไทย ที่ชื่อพรรคประชาธิปัตย์ การเน้นไปที่ มาตรา309 เพียงมาตราเดียว ของหัวหน้าพรรค ยิ่งแปลกประหลาดสุดๆ หัวหน้าพรรคการเมือง ที่มีชื่อมาจากรากศัพท์ ที่แสดงความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย กลับมีพฤติกรรมปกป้อง มาตรา 309 ที่เป็นประตูเชื่อมไปสู่กฎหมายเผด็จการ รัฐธรรมนูญปี 49 ของคณะปฏิวัติ เหตุการณ์แปลกสุดแบบนี้ เป็นเหตุการณ์แบบที่เขาเปรียบเทียบกันว่ากระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม ก็ลองคิดดูว่าเคยมี พรรคการเมืองที่ไหนได้รับการยกย่องว่าดี ทำให้ประเทศไทย

โชคดีที่ได้คนดีมาปกครองประเทศ กลับมีจุดยืนปกป้องกฎหมายเผด็จการ ส่วนพรรคที่หัวแข็ง ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเลว คนโกง ใครที่เข้าร่วมถูกตราหน้าว่าไม่จงรักภักดี ใครที่สนับสนุนถูกตราหน้าว่า เป็นควายแดง กลับมีจุดยืนที่มั่นคงในการที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย
“ผมทราบดีว่า จะพูดด้วยเหตุผล และสุภาพอย่างไรก็ไม่มีวันได้รับคำตอบจากหัวหน้าพรรคเก่าแก่คนปัจจุบัน มองไปทั้งพรรคแล้ว ผมมองแทบไม่เห็นใครที่จะยืนหยัดในอุดมการณ์ดั้งเดิมของการตั้งมั่นที่จะบำเพ็ญประชาธิปไตย ให้กับประเทศชาติบ้านเมือง จะมีไหมสักคนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะกล้าออกมาอธิบายกับประชาชนว่า มาตรา 309 มันไม่ได้ดีเลิศ ถึงขนาดที่หัวหน้าพรรค จะต้องเขียนจดหมายเปิดผนึกเพื่อปกป้อง ทั้งที่จริงน่าจะเป็นมาตราที่แย่ที่สุดในรัฐธรรมนูญปี 50 เลย ด้วยซ้ำ ถ้าจะมีก็น่าจะเป็น นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยุคที่ยังเฟื่องฟูไม่ตกต่ำครับ หลายครั้งที่ นายพิชัยออกมาพูดถึงความห่วงใยบ้านเมือง และ เป็นห่วงพรรคประชาธิปัตย์ มักจะเข้าตากรรมการที่เป็นคนกลางตลอด ทุกครั้งที่ออกมาตำหนินายอภิสิทธิ์ ด้วยความเป็นห่วงอย่างจริงใจ ในลักษณะรักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี ผมรู้สึกว่าความคิดยังไม่แก่เลย ผมยอมรับตามตรงเลยครับว่าถึงกับเก็บไปฝัน แบบ ส.ส.รังสิมา-จ่าประสิทธิ์ ว่าปู่พิชัย จะได้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้าฝันเป็นจริง ผมคิดว่า มันจะใกล้เคียงกับคำว่า ทางออกประเทศไทย ที่มีพื้นฐานจากความปรองดองของทุกคนในชาติมากที่สุด โพสต์นี้ถือว่าเป็นจดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 4 ถึงท่านพิชัย ในอุดมคติ สรุปเป็นคำถามโดยย่อความว่า พรรคประชาธิปัตย์แสดงท่าทีปกป้อง ม.309 ของรัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งเป็นเสมือนประตูสู่เผด็จการ คุณพิชัยฯ มีความเห็นเป็นอย่างไร

ครับ ”.
กำลังโหลดความคิดเห็น