xs
xsm
sm
md
lg

แย้ม"ปู"ปรับโครงสร้างปี56 สนธยาลุ้นวธ.รวมท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 19 ธ.ค. ) นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม (วธ.) ได้เสนอแนวคิดต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้มีการปรับโครงสร้างการบริหารราชการ โดยรวมกระทรวงวัฒนธรรม เข้ากับ กระทรวงการท่องเที่ยว และ กีฬา (กก.) เนื่องจาก ภารกิจของงานวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวควรจะไปด้วยกัน โดยเสนอให้จัดตั้งเป็น กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ส่วนเรื่องกีฬา แยกเป็นอีกกระทรวงหนึ่งต่างหาก ว่า นายสนธยา ยังไม่ได้มาหารือกับตนเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่มีการพูดคุยเพียงเล็กน้อยในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) เข้ามาศึกษาในเรื่องดังกล่าวก่อน
ส่วนตัวเห็นว่ากระทรวงทั้งสอง ได้ทำงานร่วมกันมาอยู่แล้ว และจะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านศาสนา คือ กรมการศาสนา (ศน.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยเฉพาะเรื่องท่องเที่ยว ไม่ได้มีแค่ด้านวัฒนธรรม และศาสนาเท่านั้น ยังมีเรื่องของธรรมชาติ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นเรื่องของโครงสร้างระบบราชการ ที่จะต้องนำมาดูกันทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแต่ วธ. และกก. เท่านั้น ซึ่งรัฐบาลเข้ามาทำงานได้ 1 ปีกว่า กำลังดูอยู่ และมีแนวคิดที่จะปรับโครงสร้างโดยภาพรวมทั้งหมด แต่ก่อนที่จะมีการปรับ รัฐบาลก็ต้องสอบถามความคิดเห็น จากทุกกระทรวงก่อน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลได้เก็บรวมรวมข้อมูลการทำงานของทุกหน่วยงานราชการทั้งหมด พบว่า การทำงานไม่มีปัญหา แต่มีประสิทธิภาพสูงสุดหรือยัง เราคงต้องดูเรื่องประสิทธิภาพว่า ทุกหน่วยงานจะทำให้งานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น อย่างเรื่องน้ำ มีหน่วยงานดูแล 17 หน่วยงาน เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลจะต้องเข้ามาดูเรื่องปรับโครงสร้างให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
" เชื่อว่าปี 2556 จะต้องมีการหารือเรื่องปรับโครงสร้าง ส่วนแนวคิดท่านสนธยา ก็เป็นแนวคิดหนึ่ง ที่ต้องนำมาพิจารณา ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องการปรับโครงสร้างว่า จะทำอย่างไรให้หน่วยงานเกิดประสิทธิภาพ อัตรากำลังเท่าไร จึงจะเหมาะสม บางงานทำมาหลายปีแล้ว ยังคงล้าสมัย หรือบางงาน ควรจะให้ข้างนอกทำ หรือเอกชนทำให้ เช่น การทำหนังสือเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการให้ ส่งผลให้การออกหนังสือเดินทางเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นต้น ต้องมีการคิด และพัฒนาอยู่ตลอด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงตลอดว่า เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำ โดยจะต้องค่อยๆ ปรับ ไม่ใช่ปรับกันทีเดียว" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว

**"สนธยา"อ้างปฏิรูปเพื่อประสิทธิภาพ

นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นแนวคิดจากการประเมินโครงการกระทรวง ทบวง กรม หลังการปฏิรูประบบราชการมา 10 ปี ไม่ได้เกิดจากตนต้องการกระทรวงท่องเที่ยวฯ แต่เป็นหน้าที่ของคนที่เป็นนักการเมือง และประชาชน ที่มีสิทธิแสดงความคิดเห็น
ที่ผ่านมา การประชุมเวทีนานาชาติ เห็นได้ชัดว่า งานด้านวัฒนธรรมถือเป็นสินค้าการท่องเที่ยว หากควบรวมจะมีความคล่องตัวในการวางยุทธศาสตร์ เป็นโครงสร้างที่หลายประเทศทำกัน เช่นเดียวกับแนวคิดของนายกฯ ในการควบรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องน้ำทั้งหมด และเรื่องของกีฬา เป็นเรื่องที่มีหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม ควรที่จะมีเอกภาพการทำงาน เรื่องนี้เราคิดถึงผลสัมฤทธิ์ทำงาน ไม่ได้คิดเพื่อตัวเอง และหากย้อนไป 10 ปี ตนเป็นผู้ที่เสนอแนวคิดตั้งกระทรวงท่องเที่ยวและวัฒนธรรม มากกว่ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นการทำให้ถูกฝา ถูกตัว ไม่ใช่ผิดฝา ผิดตัว

** "ตือ"ขวางคลอง ย้อนทำไม่เพิ่งคิดได้

ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า อยากให้กลับไปดูแนวคิดเริ่มต้นของการตั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สมัยปรับปรุง พ.ร.บ.กระทรวง ทบวง กรม และนายสนธยา เป็น รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เมื่อมีการตั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสร็จ นายสนธยา เป็นรมต.ว่าการคนแรก ตนเข้าใจหลักการดี การเอากีฬามารวมท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวเป็นผลพลอยได้ ทำให้เห็นคุณค่าวัฒนธรรม การท่องเที่ยวมีหลายมิติ ไม่ได้ผูกพันกับมิติใดมิติเดียว และการกีฬา เป็นหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยว เช่น โอลิมปิก เวิลด์เอ๊กซ์โป ถ้าวันนี้มีแนวคิดเอากระทรวงวัฒนธรรมฯรวมกระทรวงท่องเที่ยวฯ จริง ควรมองย้อนอดีตไปดูด้วยว่า แนวคิดแรกที่ตั้งกระทรวงนั้นเป็นอย่างไร คิดถึงประโยชน์ประเทศชาติให้มากกว่า นายสนธยา เป็นรมว.ท่องเที่ยวฯ มาก่อน ทำไมเพิ่งมาคิดได้ในวันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น