กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดแถลงข่าวยืนยันชัดเจนไม่ยุบรวมกับกระทรวงวัฒนธรรมแน่นอน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวง โต้ไม่มีปัญหาใดๆ ให้ดูที่ผลงานเป็นหลัก พร้อมเร่งแผนพัฒนากีฬาปีหน้าเปิดกว้างให้ทุกสมาคมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาต่างๆ
หลังจากที่ นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เสนอแนวคิดในการปรับโครงสร้างระบบราชการในส่วนของกระทรวง โดยให้กระทรวงวัฒนธรรม รวมเข้ากับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เนื่องจากภารกิจของงานวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ควรจะไปด้วยกัน โดยเสนอให้จัดตั้งเป็น “กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว” เนื่องจากได้เห็นปัญหาหลายด้านของการทำงานที่ซ้ำซ้อนกันกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ 12 ธันวาคม 2555 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก ได้มีการแถลงเรื่องความชัดเจนและผลได้ผลเสียของการควบรวมกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในมุมมองของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(กก.) โดยมี ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวง และ นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวง เป็นผู้ชี้แจง
ซึ่งทางฝั่งของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ยืนยันว่า ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใดที่จะต้องรวมทั้ง 2 กระทรวงเข้าด้วยกัน “กก.ตั้งมาตั้งแต่ปี 2545 และมีจุดยืนชัดเจน ซึ่งได้มีการไตร่ตรองดีแล้วว่าทำอย่างไรให้การท่องเที่ยวแข็งแกร่งขึ้นโดยมีกีฬาเข้ามาเสริม เพื่อเป็นการสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวเมื่อมีการจัดการแข่งขันต่างๆ และตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่ได้มีปัญหาใดๆ โดยปีนี้มียอดนักท่องเที่ยว 20 กว่าล้านคน และคาดว่า ภายในสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 21.5 ล้านคน ทำให้มีเงินเข้ามาถึง 2 ล้านล้านบาท ผมจึงไม่เห็นด้วยที่จะต้องมีการปรับโครงสร้างใหม่ และไม่มีปัญหาในเรื่องการทำงานซับซ้อนแต่อย่างใด และขอยืนยันว่าที่จะแถลงข่าวในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการตอบโต้ถึงบุคคลใด แต่เป็นเพียงการนำเหตุผลมาชี้แจงเท่านั้น” ดร.สุวัตร กล่าว
ด้าน นายวัชระ กล่าวเสริมทำนองเดียวกันว่า “การยุบรวมกระทรวงสามารถเกิดขึ้นได้ถ้าหากหน่วยงานใดเกิดปัญหา แต่ตอนนี้ทาง กก.ไม่เคยทำให้การท่องเที่ยว และกีฬา เสียผลประโยชน์ อีกทั้งมีการเจริญเติบโตมากขึ้นด้วยซ้ำ ผมเข้าใจดีว่า ทางท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมอาจจะยังเมตตาในส่วนของกีฬา แต่ท้าเป็นไปได้ทาง กก.อยากให้ร่วมมือกันช่วยมากกว่าในแง่ภารกิจมากกว่า ไม่ใช่โครงสร้างบริหาร เพราะอาจทำให้เกิดช่วงปัญหาด้านบุคลากรในช่วงปรับเปลี่น และอย่าเป็นห่วงว่า กก.จะเป็นตัวถ่วงของประเทศ เราขอยืนยันด้วยผลงานที่ผ่านมา”
“สำหรับในเรื่องของการจะแยกกีฬา และ การท่องเที่ยว ออกจากกันนั้น ไม่สามารถที่จะทำได้แล้ว เนื่องจากตอนนี้เราไม่ได้มองแค่ความสำเร็จของเหรียญรางวัล เพราะเมืองนอกเขามองถึงผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวรวมอยู่ด้วย เราไม่เคยขัดขวางหน่วยงานต่างๆ ด้านกีฬา พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกสมาคมเข้ามาเสนอหากจะจัดการแข่งขันกีฬาใดๆ ขึ้นมา ซึ่งในปีนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จหลายรายการ แต่ในส่วนความสำเร็จด้านรางวัลนั้นต้องไปเร่งจี้ที่ทางสมาคมนั้นๆ ส่วนทาง กก.มีหน้าที่ในการจัดสรรงบประมาณซึ่งถ้ามีปัญหาส่วนนี้เราต้องรับผิดชอบ”
โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวต่อถึงแผนงานในปีหน้า ว่า “ตอนนี้เรามีแผนงานที่วางไว้แล้วนอกจากเปิดกว้างให้สมาคมเสนอจัดกีฬามากขึ้น ยังเตรียมที่จะสร้างสนามกีฬา ในระดับอำเภอและตำบลต่างๆ ซึ่งมีประมาณหลายร้อยแห่ง โดยมีแผนงานเตรียมไว้แล้วกำลังอยู่ในช่วงของบประมาณ ส่วนปัญหาสำคัญที่เราไม่มีอำนาจที่จะเข้าไปแทรกแซงในหน่วยงานสมาคมต่างๆ โดยให้การกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแลแทน แต่ตอนนี้เราได้ร่างพระราชบัญญัติหลายฉบับเพื่อรองรับทั้ง พ.ร.บ.กีฬาอาชีพ ซึ่งคาดว่าจะออกมาเป็นอันดับแรก พ.ร.บ.สารกระตุ้น และ พ.ร.บ.มวย ซึ่งคาดว่าถ้าแล้วเสร็จก็จะสามารถควบคุมได้มากขึ้น”