นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการที่ตนเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เสนอแนวคิดในการปรับโครงสร้างระบบราชการในส่วนของกระทรวงฯ เนื่องจากดำเนินงานมาถึง 10 ปีแล้ว ขณะเดียวกัน ได้เห็นปัญหาหลายด้านของการทำงานที่ซ้ำซ้อนกันกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยตนเห็นว่า กระทรวงวัฒนธรรมน่าจะมีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยรวมเข้ากับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เนื่องจากภารกิจของงานวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ควรจะไปด้วยกัน โดยเสนอให้จัดตั้งเป็น "กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว"
ส่วนเรื่องกีฬา ควรมีการปรับแยกเป็นอีกกระทรวงหนึ่ง เพื่อให้มีการบริหารงานที่คล่องตัวมากขึ้น ในเบื้องต้นตนได้หารือกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งได้เสนอแนวคิดดังกล่าวต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แล้ว โดยจะต้องมีการพิจารณาศึกษารายละเอียดและความเป็นไปได้ก่อน
นายสนธยา กล่าวด้วยว่า การปรับโครงสร้างระบบราชการของประเทศครั้งใหม่นี้ ตนคิดว่า งานวัฒนธรรมและท่องเที่ยวต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน ทั้งมิติทางด้านสืบสาน อนุรักษ์ การสร้างสรรค์ และสร้างเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว จึงเห็นว่าควรน่าจะอยู่รวมกันแบบถูกฝาถูกตัว เพราะงานท่องเที่ยวที่ประเทศไทยนำไปทำการตลาดในปัจจุบัน ล้วนแต่มีการใช้มิติวัฒนธรรมทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นถ้าอยู่ในที่เดียวกัน การกำหนดเป้าหมาย การกำหนดตลาด และสัดส่วนของการท่องเที่ยว ก็จะอยู่รวมกันที่เดียว ไม่ต้องแยกส่วน
สำหรับภารกิจด้านกีฬา เยาวชน และกิจกรรมต่างๆ ทางด้านกีฬา ก็ควรแยกออกไปต่างหาก เพื่อให้เกิดการทำงานที่ส่งเสริมเฉพาะด้าน
ทั้งนี้ ตนได้เสนอแนวคิดหลักการเบื้องต้นแล้ว และผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคนปัจจุบันก็ยอมรับว่า มิติการท่องเที่ยวต้องไปด้วยกันกับวัฒนธรรม ซึ่งคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะมีการปรับโครงสร้างของหน่วยงานของ 2 กระทรวงเข้าด้วยกัน เหมือนกับการที่ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ก็จะต้องมีหน่วยงานบริหารงานโดยตรง เพื่อให้ภารกิจเดินหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนเรื่องกีฬา ควรมีการปรับแยกเป็นอีกกระทรวงหนึ่ง เพื่อให้มีการบริหารงานที่คล่องตัวมากขึ้น ในเบื้องต้นตนได้หารือกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งได้เสนอแนวคิดดังกล่าวต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แล้ว โดยจะต้องมีการพิจารณาศึกษารายละเอียดและความเป็นไปได้ก่อน
นายสนธยา กล่าวด้วยว่า การปรับโครงสร้างระบบราชการของประเทศครั้งใหม่นี้ ตนคิดว่า งานวัฒนธรรมและท่องเที่ยวต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน ทั้งมิติทางด้านสืบสาน อนุรักษ์ การสร้างสรรค์ และสร้างเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว จึงเห็นว่าควรน่าจะอยู่รวมกันแบบถูกฝาถูกตัว เพราะงานท่องเที่ยวที่ประเทศไทยนำไปทำการตลาดในปัจจุบัน ล้วนแต่มีการใช้มิติวัฒนธรรมทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นถ้าอยู่ในที่เดียวกัน การกำหนดเป้าหมาย การกำหนดตลาด และสัดส่วนของการท่องเที่ยว ก็จะอยู่รวมกันที่เดียว ไม่ต้องแยกส่วน
สำหรับภารกิจด้านกีฬา เยาวชน และกิจกรรมต่างๆ ทางด้านกีฬา ก็ควรแยกออกไปต่างหาก เพื่อให้เกิดการทำงานที่ส่งเสริมเฉพาะด้าน
ทั้งนี้ ตนได้เสนอแนวคิดหลักการเบื้องต้นแล้ว และผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคนปัจจุบันก็ยอมรับว่า มิติการท่องเที่ยวต้องไปด้วยกันกับวัฒนธรรม ซึ่งคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะมีการปรับโครงสร้างของหน่วยงานของ 2 กระทรวงเข้าด้วยกัน เหมือนกับการที่ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ก็จะต้องมีหน่วยงานบริหารงานโดยตรง เพื่อให้ภารกิจเดินหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ