ASTVผู้จัดการรายวัน - “ พีทีจี เอ็นเนอยี”ทุ่ม1พันล้านบาทขยายปั๊มน้ำมันพีทีเพิ่ม 100 แห่ง รีโนเวทปั๊มเดิมให้ทันสมัยและครบวงจรมากขึ้นอีก 20 แห่ง และซื้อรถขนส่งน้ำมันและเช่าคลังเพิ่ม ดันรายได้ปีหน้าโต 5.2 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 40%จากปีนี้ เตรียมยื่นไฟลิ่งก.ล.ต.สัปดาห์หน้า คาดเข้าตลาดหุ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2556
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)(PTG) เปิดเผยว่า ปีหน้าบริษัทฯใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาทในการขยายกิจการสถานีบริการน้ำมันเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 100 ปั๊มจากสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีปั๊มน้ำมันพีทีรวม 570 สาขา
รวมทั้งปรับโฉมปั๊มน้ำมันพีทีเดิม(รีโนเวท)ให้เป็นสถานีบริการน้ำมันที่มีภาพลักษณ์ใหม่ทั้งความทันสมัยและครบวงจรอีก 20 แห่งในปี 2556 และเพิ่มจำนวนรถขนส่งน้ำมันพีทีและคลังน้ำมันด้วย
ทั้งนี้บริษัทฯได้เปิดตัวสถานีบริการน้ำมันพีทีรูปโฉมใหม่สาขาแรกที่บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา บนพื้นที่ 4-5ไร่ ใช้เงินลงทุน 40 ล้านบาท ไม่รวมที่ดิน โดยสถานีบริการน้ำมันแห่งนี้จะมีร้านสะดวกซื้อ “แมกซ์ มาร์ท” และร้านกาแฟพันธุ์ไทย ที่บริหารงานโดยพีทีจี เอ็นเนอยีทั้งหมด โดยตั้งเป้าหมายรายได้มาจากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (non oil)เพิ่มขึ้นปีละ 150 ล้านบาทจากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้เพียง 10% ซึ่งขณะนี้บริษัทได้มีการหารือกับบริษัทค้าปลีก 2-3 รายที่สนใจเข้ามาทำมินิมาร์ทในปั๊มพีทีด้วย
นอกจากนี้ ปั๊มน้ำมันรูปโฉมใหม่นี้จะจำหน่ายแก๊สโซฮอล์อี 20 ด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้รถ เนื่องจากนโยบายรถคันแรกทำให้มีรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นนับล้านคัน ซึ่งรถยนต์เหล่านี้จะใช้น้ำมันอี 20 ได้ หากยอดการจำหน่ายอี 20 เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด บริษัทฯก็จะมีแผนขยายการจำหน่ายน้ำมันอี 20 ผ่านปั๊มพีทีเพิ่มมากขึ้นด้วย
นายพิทักษ์ กล่าวต่อไปว่า การขยายสถานีบริการน้ำมันพีทีเพิ่มขึ้นนี้จะเน้นไปยังภาคอีสาน และภาคกลาง ซึ่งเป็นภาคที่มีความต้องการใช้น้ำมันสูง ขณะที่กรุงเทพฯและปริมณฑลพบว่าการขยายปั๊มทำได้ลำบาก เนื่องจากค่าเช่าที่ดินสูงทำให้คืนทุนยาก ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีปั๊มในกรุงเทพและปริมณฑลไม่เกิน 30 ปั๊ม
จากกลยุทธ์การขยายปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นปีละ 100 แห่งนั้น จะเน้นการเช่าปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 40%ใกล้เคียงปีนี้ คิดเป็นรายได้รวม 5.2 หมื่นล้านบาท จากปีนี้คาดว่ามีรายได้รวม 4 หมื่นล้านบาท หรือมีรายได้โตขึ้นปีละ 1.2 หมื่นล้านบาท
ในปีนี้ปริมาณการขายน้ำมันอยู่ทิ่ 1,350 ล้านลิตร หรือคิดเป็นยอดขายน้ำมันเฉลี่ยต่อปั๊มที่ 1.6 แสนลิตร/เดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขายเฉลี่ย 1.4 แสนลิตร/เดือน/ปั๊ม โดยปีนี้บริษัทฯเพิ่มจำนวนปั๊มอีก 130 ปั๊ม ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมันใกล้ 5% เป็นผู้ค้าน้ำมันใหญ่อันดับ 6 ของไทย และมีปั๊มน้ำมันใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากปตท. และบางจาก
นายพิทักษ์ กล่าวต่อไปว่า แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการขยายปั๊มน้ำมันนั้น จะมาจากการขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯแก่ประชาชนทั่วไป(ไอพีโอ)จำนวน 420 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25-30%ของทุนจดทะเบียน โดยสัปดาห์หน้าจะยื่นข้อมูลแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดว่าสามารถระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ครึ่งแรกของปี 2556 ซึ่งเลื่อนจากเป้าหมายเดิมที่บริษัทฯจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ญฯในปลายปีนี้ เพราะอยากให้นักลงทุนเห็นภาพบริษัทฯชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากปีนี้บริษัทฯมีการขยายงานมาก ทำให้รายได้โตขึ้น 40% ขณะที่กำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 300 กว่าล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 226 ล้านบาท
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)(PTG) เปิดเผยว่า ปีหน้าบริษัทฯใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาทในการขยายกิจการสถานีบริการน้ำมันเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 100 ปั๊มจากสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีปั๊มน้ำมันพีทีรวม 570 สาขา
รวมทั้งปรับโฉมปั๊มน้ำมันพีทีเดิม(รีโนเวท)ให้เป็นสถานีบริการน้ำมันที่มีภาพลักษณ์ใหม่ทั้งความทันสมัยและครบวงจรอีก 20 แห่งในปี 2556 และเพิ่มจำนวนรถขนส่งน้ำมันพีทีและคลังน้ำมันด้วย
ทั้งนี้บริษัทฯได้เปิดตัวสถานีบริการน้ำมันพีทีรูปโฉมใหม่สาขาแรกที่บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา บนพื้นที่ 4-5ไร่ ใช้เงินลงทุน 40 ล้านบาท ไม่รวมที่ดิน โดยสถานีบริการน้ำมันแห่งนี้จะมีร้านสะดวกซื้อ “แมกซ์ มาร์ท” และร้านกาแฟพันธุ์ไทย ที่บริหารงานโดยพีทีจี เอ็นเนอยีทั้งหมด โดยตั้งเป้าหมายรายได้มาจากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (non oil)เพิ่มขึ้นปีละ 150 ล้านบาทจากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้เพียง 10% ซึ่งขณะนี้บริษัทได้มีการหารือกับบริษัทค้าปลีก 2-3 รายที่สนใจเข้ามาทำมินิมาร์ทในปั๊มพีทีด้วย
นอกจากนี้ ปั๊มน้ำมันรูปโฉมใหม่นี้จะจำหน่ายแก๊สโซฮอล์อี 20 ด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้รถ เนื่องจากนโยบายรถคันแรกทำให้มีรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นนับล้านคัน ซึ่งรถยนต์เหล่านี้จะใช้น้ำมันอี 20 ได้ หากยอดการจำหน่ายอี 20 เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด บริษัทฯก็จะมีแผนขยายการจำหน่ายน้ำมันอี 20 ผ่านปั๊มพีทีเพิ่มมากขึ้นด้วย
นายพิทักษ์ กล่าวต่อไปว่า การขยายสถานีบริการน้ำมันพีทีเพิ่มขึ้นนี้จะเน้นไปยังภาคอีสาน และภาคกลาง ซึ่งเป็นภาคที่มีความต้องการใช้น้ำมันสูง ขณะที่กรุงเทพฯและปริมณฑลพบว่าการขยายปั๊มทำได้ลำบาก เนื่องจากค่าเช่าที่ดินสูงทำให้คืนทุนยาก ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีปั๊มในกรุงเทพและปริมณฑลไม่เกิน 30 ปั๊ม
จากกลยุทธ์การขยายปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นปีละ 100 แห่งนั้น จะเน้นการเช่าปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 40%ใกล้เคียงปีนี้ คิดเป็นรายได้รวม 5.2 หมื่นล้านบาท จากปีนี้คาดว่ามีรายได้รวม 4 หมื่นล้านบาท หรือมีรายได้โตขึ้นปีละ 1.2 หมื่นล้านบาท
ในปีนี้ปริมาณการขายน้ำมันอยู่ทิ่ 1,350 ล้านลิตร หรือคิดเป็นยอดขายน้ำมันเฉลี่ยต่อปั๊มที่ 1.6 แสนลิตร/เดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขายเฉลี่ย 1.4 แสนลิตร/เดือน/ปั๊ม โดยปีนี้บริษัทฯเพิ่มจำนวนปั๊มอีก 130 ปั๊ม ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมันใกล้ 5% เป็นผู้ค้าน้ำมันใหญ่อันดับ 6 ของไทย และมีปั๊มน้ำมันใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากปตท. และบางจาก
นายพิทักษ์ กล่าวต่อไปว่า แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการขยายปั๊มน้ำมันนั้น จะมาจากการขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯแก่ประชาชนทั่วไป(ไอพีโอ)จำนวน 420 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25-30%ของทุนจดทะเบียน โดยสัปดาห์หน้าจะยื่นข้อมูลแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดว่าสามารถระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ครึ่งแรกของปี 2556 ซึ่งเลื่อนจากเป้าหมายเดิมที่บริษัทฯจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ญฯในปลายปีนี้ เพราะอยากให้นักลงทุนเห็นภาพบริษัทฯชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากปีนี้บริษัทฯมีการขยายงานมาก ทำให้รายได้โตขึ้น 40% ขณะที่กำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 300 กว่าล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 226 ล้านบาท