ASTV ผู้จัดการรายวัน - โครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมากขยายตัวออกมาจากกรุงเทพฯ จากพื้นที่ชานเมืองไปสู่พื้นที่ในจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะตามแนวถนนสายหลัก เช่น ถนนพระรามที่ 2 บางนา - ตราด
นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า จำนวนประชากรในพื้นที่ตามแนวถนนเหล่านี้ รวมทั้งพื้นที่โดยรอบได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังคงเติบโตต่อไปในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยที่ดึงดูดผู้ประกอบการพื้นที่ค้าปลีกทุกประเภทให้เข้ามาพัฒนาโครงการพื้นที่ค้าปลีก โดยผู้ประกอบการพื้นที่ค้าปลีกต่างๆ ต้องการที่จะพัฒนาโครงการใกล้กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่เหล่านี้ ดังนั้นจึงมีโครงการพื้นที่ค้าปลีกจำนวนมากเปิดให้บริการตามแนวถนนสายหลักในพื้นที่ชานเมืองของกรุงเทพมหานคร พื้นที่ค้าปลีกในกรุงเทพมหานครมีอยู่ประมาณ 5.78 ล้านตารางเมตร แต่ถ้ารวมพื้นที่ค้าปลีกที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกรุงเทพมหานคร ในจังหวัดใกล้เคียงจะมากกว่า 6.4 ล้านตารางเมตร
โดยโครงการพื้นที่ค้าปลีกโดยส่วนใหญ่ในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่โดยรอบ จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพรอบนอก โดยเฉพาะในจังหวัดที่ติดกับกรุงเทพมหานคร คิดเป็น 53% ของพื้นที่ค้าปลีกทั้งหมดในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่โดยรอบ หรือประมาณ 3.39 ล้านตรางเมตร โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพรอบนอกทิศตะวันออกที่มีมากกว่า 1.5 ล้านตารางเมตร ในขณะที่ประมาณ 11% หรือเกือบ 7 แสนตารางเมตรเท่านั้นที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพรอบนอกทิศตะวันตก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคอมมูนิตี้มอลล์จะเป็นประเภทของโครงการพื้นที่ค้าปลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและจะมากกว่าพื้นที่รวมของไฮเปอร์มาร์เก็ตในปีหน้า แต่ถ้ารวมพื้นที่รอบนอกรุงเทพฯ แล้วนั้น ไฮเปอร์มาร์เก็ตยังคงมีสัดส่วนที่มากกว่า แม้ไฮเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์การค้าไม่สามารถพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในพื้นที่ได้ ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้น การขาดแคลนที่ดินขนาดใหญ่ รวมทั้งข้อจำกัดในการพัฒนาเนื่องจากผังเมือง กฎระเบียบ ทำให้ คอมมูนิตี้มอลล์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ประกอบการ นอกเขตกรุงเทพฯ
นายสุรเชษฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสำคัญในภาคอื่นๆ ของประเทศไทยได้กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของผู้ประกอบการพื้นที่ค้าปลีกรายใหญ่เช่นกัน โดยเฉพาะจังหวัดตามแนวชายแดนของประเทศ ซึ่งรวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ที่ดึงดูดลูกค้าจากประเทศลาว และพม่า จังหวัดอุดรธานีที่มีชาวลาว และเวียดนามข้ามพรมแดนมาซื้อของ รวมทั้งหาดใหญ่ในจังหวัดสงขลาที่มีชาวมาเลเซียเข้ามาซื้อสินค้า นอกจากนั้นผู้ประกอบการยังคงขยายไปยังจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ และเมืองขนาดใหญ่รอบๆ ประเทศไทยด้วยรูปแบบที่แตกต่างกัน
“ร้านสะดวกซื้อได้กลายเป็นสนามแข่งขันใหม่ในธุรกิจค้าปลีก ภายหลังจากที่ กลุ่มเซ็นทรัล โดย ซีอาร์ซี ได้เข้าซื้อกิจการของร้านแฟมิลี่มาร์ทในประเทศไทย แม้ว่าเซเว่นอีเลฟเว่นจะเป็นเจ้าตลาดอยู่ แต่ว่ายังคงมีช่องว่างให้เติบโตได้อีกในอนาคต ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ให้ความสำคัญกับตลาดร้านสะดวกซื้อมากขึ้นโดยมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนสาขาให้มากขึ้นทั่วประเทศไทย” นายสุรเชษฐกล่าวเพิ่มเติม
นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า จำนวนประชากรในพื้นที่ตามแนวถนนเหล่านี้ รวมทั้งพื้นที่โดยรอบได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังคงเติบโตต่อไปในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยที่ดึงดูดผู้ประกอบการพื้นที่ค้าปลีกทุกประเภทให้เข้ามาพัฒนาโครงการพื้นที่ค้าปลีก โดยผู้ประกอบการพื้นที่ค้าปลีกต่างๆ ต้องการที่จะพัฒนาโครงการใกล้กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่เหล่านี้ ดังนั้นจึงมีโครงการพื้นที่ค้าปลีกจำนวนมากเปิดให้บริการตามแนวถนนสายหลักในพื้นที่ชานเมืองของกรุงเทพมหานคร พื้นที่ค้าปลีกในกรุงเทพมหานครมีอยู่ประมาณ 5.78 ล้านตารางเมตร แต่ถ้ารวมพื้นที่ค้าปลีกที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกรุงเทพมหานคร ในจังหวัดใกล้เคียงจะมากกว่า 6.4 ล้านตารางเมตร
โดยโครงการพื้นที่ค้าปลีกโดยส่วนใหญ่ในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่โดยรอบ จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพรอบนอก โดยเฉพาะในจังหวัดที่ติดกับกรุงเทพมหานคร คิดเป็น 53% ของพื้นที่ค้าปลีกทั้งหมดในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่โดยรอบ หรือประมาณ 3.39 ล้านตรางเมตร โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพรอบนอกทิศตะวันออกที่มีมากกว่า 1.5 ล้านตารางเมตร ในขณะที่ประมาณ 11% หรือเกือบ 7 แสนตารางเมตรเท่านั้นที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพรอบนอกทิศตะวันตก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคอมมูนิตี้มอลล์จะเป็นประเภทของโครงการพื้นที่ค้าปลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและจะมากกว่าพื้นที่รวมของไฮเปอร์มาร์เก็ตในปีหน้า แต่ถ้ารวมพื้นที่รอบนอกรุงเทพฯ แล้วนั้น ไฮเปอร์มาร์เก็ตยังคงมีสัดส่วนที่มากกว่า แม้ไฮเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์การค้าไม่สามารถพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในพื้นที่ได้ ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้น การขาดแคลนที่ดินขนาดใหญ่ รวมทั้งข้อจำกัดในการพัฒนาเนื่องจากผังเมือง กฎระเบียบ ทำให้ คอมมูนิตี้มอลล์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ประกอบการ นอกเขตกรุงเทพฯ
นายสุรเชษฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสำคัญในภาคอื่นๆ ของประเทศไทยได้กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของผู้ประกอบการพื้นที่ค้าปลีกรายใหญ่เช่นกัน โดยเฉพาะจังหวัดตามแนวชายแดนของประเทศ ซึ่งรวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ที่ดึงดูดลูกค้าจากประเทศลาว และพม่า จังหวัดอุดรธานีที่มีชาวลาว และเวียดนามข้ามพรมแดนมาซื้อของ รวมทั้งหาดใหญ่ในจังหวัดสงขลาที่มีชาวมาเลเซียเข้ามาซื้อสินค้า นอกจากนั้นผู้ประกอบการยังคงขยายไปยังจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ และเมืองขนาดใหญ่รอบๆ ประเทศไทยด้วยรูปแบบที่แตกต่างกัน
“ร้านสะดวกซื้อได้กลายเป็นสนามแข่งขันใหม่ในธุรกิจค้าปลีก ภายหลังจากที่ กลุ่มเซ็นทรัล โดย ซีอาร์ซี ได้เข้าซื้อกิจการของร้านแฟมิลี่มาร์ทในประเทศไทย แม้ว่าเซเว่นอีเลฟเว่นจะเป็นเจ้าตลาดอยู่ แต่ว่ายังคงมีช่องว่างให้เติบโตได้อีกในอนาคต ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ให้ความสำคัญกับตลาดร้านสะดวกซื้อมากขึ้นโดยมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนสาขาให้มากขึ้นทั่วประเทศไทย” นายสุรเชษฐกล่าวเพิ่มเติม
