ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ยืนยันรัฐบาลไม่ทบทวนยกเลิกโครงการศูนย์ประชุมฯ ที่ภูเก็ต อ้างยังไม่ผ่านสิ่งแวดล้อม ทำอะไรไม่ได้ รัฐบาลไม่ลงทุนแน่นอน เผยเครือเซ็นทรัลพร้อมลงทุนศูนย์ประชุมฯ ขนาดใหญ่ที่ภูเก็ตแล้ว
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝั่งอันดามัน และชาวภูเก็ตออกมาทวงคืนโครงการศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการภูเก็ต ที่รัฐบาลได้ยกเลิกโครงการ และโยกงบประมาณ 2,600 ล้านบาท ไปดำเนินด้านเศรษฐกิจอื่นๆ ในโอกาสที่เดินทางมาตรวจความพร้อมการจัดงาน “มหัศจรรย์ ร้อยพันหมื่นปีอันดามัน” ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 9-11 พ.ย.2555 ที่จังหวัดภูเก็ต วันนี้ (27 ต.ค.) ว่า
ศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติ ที่จังหวัดภูเก็ต ได้อนุมัติงบประมาณขึ้นมา 2,600 ล้านบาท โดยที่รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ยังไม่ผ่านการพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) แต่ปรากฏว่า พอมาถึงช่วงประมาณเดือนสิงหาคม 2554 ทางสิ่งแวดล้อมก็ยังไม่ผ่านการเห็นชอบ โดยระบุว่า เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นที่วางไข่ของเต่าทะเล แล้วก็อาจจะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนของสภาพป่า เพราะฉะนั้น ตรงนี้เองโครงการนี้ยังไม่ผ่านเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งจริงๆ แล้วโครงการจะดำเนินการได้ต้องผ่านสิ่งแวดล้อมก่อน
“มาถึงรัฐบาลนี้ เมื่อสิ่งแวดล้อมไม่ผ่าน เราไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ แล้วพื้นที่ที่จะก่อสร้างโครงการเราก็มองว่าเป็นพื้นที่ที่มีลมแรง แล้วก็ไม่เหมาะสมที่จะทำกิจกรรมทางน้ำใดๆ อาจจะเกิดอันตรายต่อคนที่มาใช้บริการ ประกอบกับเราก็ดูว่าแนวโน้มถ้าหากมีแล้ว เอกชนจะมาลงทุนหรือเปล่า” นายวรวัจน์ กล่าวและว่า
วันนี้เราก็มองว่ามีภาคเอกชนรายใหญ่จะมาลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งการบริหารโครงการนั้นต้องดูหลายๆ ที่ บางทีเอาไปแล้วใครเป็นคนบริหาร บางทีเอาไปแล้วไม่มีคนบริหารก็เปล่าประโยชน์ หรือเป็นการสกัดทำให้ภาคเอกชนไม่กล้าลงทุน เพราะฉะนั้น ไม่อยากให้มองว่าโครงการศูนย์ประชุมฯ เป็นเรื่องเดียวที่จะต้องเกิดที่ภูเก็ต มีเรื่องของโรงพยาบาลอีกมากที่ต้องเกิดในเขตของพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีก็ได้พิจารณาแล้วก็ให้การสนับสนุน เพราะว่าหลายสิ่งหลายอย่างเป็นสิ่งที่ภาคใต้มีความต้องการสูงมาก ขอให้ไว้วางใจว่าทางรัฐบาลนี้ เราทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
ส่วนจะย้ายสถานที่ในภูเก็ตแทนหรือไม่นั้น นายวรวัจน์ กล่าวว่า ในส่วนศูนย์ประชุมฯ ต้องดูว่าถ้าหากภาคเอกชนจะลงทุนอยู่แล้ว ภาครัฐก็อาจจะต้องดูว่าถ้าเราลงทุนแข่งกับภาคเอกชน ผลเป็นอย่างไร ถ้าเราลงทุนไปเอกชนอาจจะระงับโครงการ แต่ในขณะเดียวกัน ภาครัฐลงทุนใครจะมาบริหาร ก็จะเป็นอาคารที่ขาดการจัดการ วันนี้ตนคิดว่าเรามองภาพรวม ความต้องการที่แท้จริงของพื้นที่คืออะไร บางทีโรงพยาบาลจะดีกว่าไหม หรือโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ขาดแคลนจะดีกว่าไหม เพราะว่าในส่วนของศูนย์ประชุมที่ไม้ขาวถ้าหากสิ่งแวดล้อมไม่ผ่าน และไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะผ่าน และถ้าทำไปแล้วเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว อาจจะก่อให้เกิดผลเสียหายมากกว่า และ ณ วันนี้ มีทางภาคเอกชนสนใจจะมาลงทุนอยู่แล้ว เป็นของกลุ่มเซ็นทรัล มีแนวโน้มมาลงทุนที่ภูเก็ตอย่างแน่นอน
