00 วันแห่งความปลื้มปิติ มีความสุขเป็นล้นพ้นที่ได้เห็นภาพคนไทยร่วมใจกันเข้าเฝ้าฯถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็น “พ่อหลวง” เป็นพ่อของไทยทั้งมวล คลื่นมหาชนที่ “สวมเสื้อสีเหลือง” ตลอดทั้งสองข้างถนนตามเส้นทางที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน และเต็มลานพระราชวังดุสิต(ลานพระบรมรูปทรงม้า) เสียง “ทรงพระเจริญ” ที่เปล่งออกยาวนานมาสะท้อนให้เห็นว่าพวกเขา “รัก” มากเพียงใด
00 ตลอดทั้งเดือนมหามงคลยังมีการสำรวจความรู้สึกออกมาว่าเป็นเดือนที่คนไทยมีความสุขมากที่สุด ขณะเดียวกันยังยืนยันว่าจะทำความดีเพื่อในหลวง ทำความดีเพื่อพ่อของแผ่นดินให้มีความสุข และภาพที่เห็นในวันนี้คงจะเป็นเสี้ยวหนึ่งที่ทำให้พระองค์ท่านมีความสุข เป็นเสมือน “กำลังใจ” ที่ถวายจากใจมอบให้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน !!
00 อีกด้านหนึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นเช่นเดียวกันว่าบรรยากาศการถวายความจงรักภักดีไปทั่วประเทศ แต่พวกคนเสื้อแดงที่จาบจ้วงสถาบันฯจะมีความรู้สึกอย่างไรกันบ้าง อยากรู้ว่าคนอย่าง ก่อแก้ว พิกุลทอง ที่เคยกล่าวถึงการ “ปลดรูปเคารพ”ทุกบ้าน จตุพร พรหมพันธุ์ ที่เคยกล่าวถึงกรณี “กระสุนพระราชทาน” จะคิดอย่างไร หรือแม้แต่ “นายใหญ่” อย่าง ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศกล่าวหาพระเจ้าอยู่หัวจะคิดอย่างไร
00 อย่างไรก็ดีความรู้สึกปลาบปลื้ม บรรยากาศแห่งความสุขทำท่ามีอันต้องมลายลงไปโดยพลันเมื่อได้เห็นความเคลื่อนไหวฉีกทิ้งรธน.ฉบับปัจจุบันเพื่อยกร่างใหม่เพื่อให้เป็นไป “ตามใจ” ของ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนาทีนี้ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน สาเหตุเดียวที่ทำอย่างไรก็ได้ขอให้แก้ไขให้เขาได้พ้นผิด(เสมือนไม่เคยมีความผิด) กลับมามีอำนาจอีกรอบ และได้เงินที่ถูกยึดไป 4.6 หมื่นล้านบาทกลับมา ความหมายมีอยู่แค่นี้จริงๆ และเชื่อว่าไม่ว่าจะมาไม้ไหนคนไทยก็รู้ทันและพร้อมจะต่อต้านหัวชนฝาทุกเวลา
00 ตามข่าวยืนยันแล้วว่า ทักษิณ จะมาบัญชาการด้วยตัวเองที่ฮ่องกงในวันที่ 11 ธ.ค.หลังจากดีเดย์เคลื่อนไหวแก้ไขรธน.ในวันที่ 10 ธ.ค. เพียงหนึ่งวันเท่านั้น และเชื่อว่าจะมีบรรดา ส.ส.และรมต.แห่แหนกันไปเสนอหน้าเพื่อ “รับงาน” สำคัญดังกล่าวมาเดินหน้าต่ออย่างเต็มที่ และแม้ว่าคราวนี้จะพยายามแก้ไขช่องโหว่พยายามดึงมวลชนเข้ามาระดมความคิดเห็นแบบ “ปาหี่” อย่างเต็มที่ แต่ในเมื่อเป้าหมายมันไม่สุจริต ไม่ใช่หวังให้เป็นรธน.ฉบับประชาชนอย่างแท้จริงแล้วทุกอย่างมันก็สำเร็จที่เขาต้องการได้ยาก
00 ตามข้อเสนอของ “กุนซือ” คนใหม่อย่าง โภคิน พลกุล ที่ไปยกร่างไว้ล่วงหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะใช้วิธีให้ ส.ส.ร ยกร่างมาทั้งฉบับแล้วจะรวบรัดให้มีการลงประชามติยอมรับ รธน.ฉบับแม้ว แม้ว่าดูแล้วอาจเป็นไปได้บ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ดีมันก็ต้องผ่านด่านหินหากจะให้สภาเดินหน้าลงมติในวาระ 3 เพื่อนำไปสู่การยกร่างทั้งฉบับ เพราะที่ผ่านมาเคยมีคำวินิจฉัยของศาลรธน.เป็นบรรทัดฐานเอาไว้แล้วว่า หากจะแก้ไข “ต้องทำประชามติก่อน” ไม่ใช่แก้ไขเสร็จแล้วไปมัดมือชกให้ชาวบ้านเห็นชอบ แต่ถ้าอยากเสี่ยงตายยกแก๊งค์ก็ลองให้โหวตวาระ 3 แก้ไขมาตรา 291 ก็ได้ แต่ขณะเดียวกันก็อยากดูท่าทีของ “ค้อนปลอม” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ที่เป็นประธานสภาว่าออกมาแบบไหนจะกล้าเสี่ยงตายหรือไม่ !!
00 แต่สำหรับนกรู้อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ย่อมรู้ทิศทางลมเป็นอย่างดี ออกมาให้ความเห็นแตะเบรกเอาไว้ก่อน อ้างเกรงเพิ่มความขัดแย้ง แต่ความหมายน่าจะกลัวพังมากกว่า หรือไม่ก็อีกทางหนึ่งเป็นเพราะรายการนี้ "นายแม้ว" ไม่่ได้ใช้บริการตัวเอง แต่กลับไปใช้กุนซือกฎหมายที่เป็นนักวิชาการอย่างที่เห็นก็คือ โภคิน เป็นหลัก สาเหตุอาจมาจากเรื่องแบบนี้ก็ได้ !!
00 ตลอดทั้งเดือนมหามงคลยังมีการสำรวจความรู้สึกออกมาว่าเป็นเดือนที่คนไทยมีความสุขมากที่สุด ขณะเดียวกันยังยืนยันว่าจะทำความดีเพื่อในหลวง ทำความดีเพื่อพ่อของแผ่นดินให้มีความสุข และภาพที่เห็นในวันนี้คงจะเป็นเสี้ยวหนึ่งที่ทำให้พระองค์ท่านมีความสุข เป็นเสมือน “กำลังใจ” ที่ถวายจากใจมอบให้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน !!
00 อีกด้านหนึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นเช่นเดียวกันว่าบรรยากาศการถวายความจงรักภักดีไปทั่วประเทศ แต่พวกคนเสื้อแดงที่จาบจ้วงสถาบันฯจะมีความรู้สึกอย่างไรกันบ้าง อยากรู้ว่าคนอย่าง ก่อแก้ว พิกุลทอง ที่เคยกล่าวถึงการ “ปลดรูปเคารพ”ทุกบ้าน จตุพร พรหมพันธุ์ ที่เคยกล่าวถึงกรณี “กระสุนพระราชทาน” จะคิดอย่างไร หรือแม้แต่ “นายใหญ่” อย่าง ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศกล่าวหาพระเจ้าอยู่หัวจะคิดอย่างไร
00 อย่างไรก็ดีความรู้สึกปลาบปลื้ม บรรยากาศแห่งความสุขทำท่ามีอันต้องมลายลงไปโดยพลันเมื่อได้เห็นความเคลื่อนไหวฉีกทิ้งรธน.ฉบับปัจจุบันเพื่อยกร่างใหม่เพื่อให้เป็นไป “ตามใจ” ของ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนาทีนี้ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน สาเหตุเดียวที่ทำอย่างไรก็ได้ขอให้แก้ไขให้เขาได้พ้นผิด(เสมือนไม่เคยมีความผิด) กลับมามีอำนาจอีกรอบ และได้เงินที่ถูกยึดไป 4.6 หมื่นล้านบาทกลับมา ความหมายมีอยู่แค่นี้จริงๆ และเชื่อว่าไม่ว่าจะมาไม้ไหนคนไทยก็รู้ทันและพร้อมจะต่อต้านหัวชนฝาทุกเวลา
00 ตามข่าวยืนยันแล้วว่า ทักษิณ จะมาบัญชาการด้วยตัวเองที่ฮ่องกงในวันที่ 11 ธ.ค.หลังจากดีเดย์เคลื่อนไหวแก้ไขรธน.ในวันที่ 10 ธ.ค. เพียงหนึ่งวันเท่านั้น และเชื่อว่าจะมีบรรดา ส.ส.และรมต.แห่แหนกันไปเสนอหน้าเพื่อ “รับงาน” สำคัญดังกล่าวมาเดินหน้าต่ออย่างเต็มที่ และแม้ว่าคราวนี้จะพยายามแก้ไขช่องโหว่พยายามดึงมวลชนเข้ามาระดมความคิดเห็นแบบ “ปาหี่” อย่างเต็มที่ แต่ในเมื่อเป้าหมายมันไม่สุจริต ไม่ใช่หวังให้เป็นรธน.ฉบับประชาชนอย่างแท้จริงแล้วทุกอย่างมันก็สำเร็จที่เขาต้องการได้ยาก
00 ตามข้อเสนอของ “กุนซือ” คนใหม่อย่าง โภคิน พลกุล ที่ไปยกร่างไว้ล่วงหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะใช้วิธีให้ ส.ส.ร ยกร่างมาทั้งฉบับแล้วจะรวบรัดให้มีการลงประชามติยอมรับ รธน.ฉบับแม้ว แม้ว่าดูแล้วอาจเป็นไปได้บ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ดีมันก็ต้องผ่านด่านหินหากจะให้สภาเดินหน้าลงมติในวาระ 3 เพื่อนำไปสู่การยกร่างทั้งฉบับ เพราะที่ผ่านมาเคยมีคำวินิจฉัยของศาลรธน.เป็นบรรทัดฐานเอาไว้แล้วว่า หากจะแก้ไข “ต้องทำประชามติก่อน” ไม่ใช่แก้ไขเสร็จแล้วไปมัดมือชกให้ชาวบ้านเห็นชอบ แต่ถ้าอยากเสี่ยงตายยกแก๊งค์ก็ลองให้โหวตวาระ 3 แก้ไขมาตรา 291 ก็ได้ แต่ขณะเดียวกันก็อยากดูท่าทีของ “ค้อนปลอม” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ที่เป็นประธานสภาว่าออกมาแบบไหนจะกล้าเสี่ยงตายหรือไม่ !!
00 แต่สำหรับนกรู้อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ย่อมรู้ทิศทางลมเป็นอย่างดี ออกมาให้ความเห็นแตะเบรกเอาไว้ก่อน อ้างเกรงเพิ่มความขัดแย้ง แต่ความหมายน่าจะกลัวพังมากกว่า หรือไม่ก็อีกทางหนึ่งเป็นเพราะรายการนี้ "นายแม้ว" ไม่่ได้ใช้บริการตัวเอง แต่กลับไปใช้กุนซือกฎหมายที่เป็นนักวิชาการอย่างที่เห็นก็คือ โภคิน เป็นหลัก สาเหตุอาจมาจากเรื่องแบบนี้ก็ได้ !!