เหลืองทั้งแผ่นดิน สุขทั้งแผ่นดิน!!

ผ่าประเด็นร้อน

ในที่สุดวันแห่งความสุขที่สุดในรอบปีก็มาถึง นั่นคือวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม และในปีนี้ยังเป็นปีพิเศษนั่นคือวันครบรอบ 85 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่คนไทยถือว่าเป็น “พ่อของแผ่นดิน” มีพระบารมีแผ่ไพศาล เทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม

ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ และระหว่างที่ทรงครองศิริราชสมบัติ พระองค์ได้ยึดมั่นในพระดำรัสที่ว่า “เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม” อยู่ตลอดเวลา ทุกวินาทีพระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อพระสกนิกรทุกหมู่เหล่าไม่เคยแบ่งแยก ไม่เว้นแม้ทุกเชื้อชาติศาสนาที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ก็จะได้รับพระเมตตาอย่างเสมอหน้า

ตลอดเวลาที่ทรงครองราชย์ได้พระราชทานโครงการพระราชดำริกว่า 3 พันโครงการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนที่ยากจนและด้อยโอกาส นับว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในโลกก็ว่าได้ที่ยอมตรากตรำทุ่มเทพระวรกายเสด็จพระราชดำเนินไปทุกแห่งทุกตารางนิ้วของประเทศไทย

ตลอดเส้นทางที่ทรงพระดำเนิน ภาพที่เห็นชินตาก็คือทรงถือแผนที่ประเทศไทย และคล้องกล้องถ่ายรูป เพื่อทรงเก็บข้อมูลและติดตามความคืบหน้า ศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้านแล้วทรงนำมาประมวลแก้ไขอยู่ตลอดเวลา นับได้ว่าพระองค์ท่านทรงรู้จักภูมิประเทศของประเทศไทยอย่างละเอียดยิบ จากการที่ทรงได้ศึกษา ได้ทรงทอดพระเนตรหรือทรงสอบถามจากชาวบ้านในพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงด้วยพระองค์เอง

ภาพที่ชาวบ้านได้เห็นจากข่าวพระราชสำนักเมื่อหลายปีก่อน และนำมาฉายซ้ำหลายครั้งทำให้เห็นว่าพระองค์ทรงสอบถามจากชาวบ้านในพื้นที่ บางครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปแบบไม่เป็นทางการ ทรงขับรถยนต์ด้วยพระองค์เองบุกป่าฝ่าดง ข้ามห้วยหนองคลองบึง ภาพรถยนต์พระที่นั่งที่ทรงขับลุยน้ำแทบจะมิดหลังคารถดูแล้วช่างน่าหวาดเสียว แต่อีกด้านหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพระเมตตา ทรงมุ่งมั่นทุ่มเทพระวรกายเพื่อเยี่ยมเยียนดูแลทุกข์สุขของพสกนิกรของพระองค์ให้ได้

หากใครที่เติบโตในต่างจังหวัดเมื่อหลายสิบปีก่อน ถ้ายังจำได้คราใดก็ตามที่มีหมายกำหนดการเสด็จของพระเจ้าอยู่หัว หรือแม้แต่พระบรมวงศานุวงศ์ ชาวบ้านก็จะตื่นเต้นยินดีเตรียมตัวรับเสด็จกันอย่างกุลีกจอ ต่างเฝ้ารอกันอย่างจดจ่อ ขณะเดียวกันอีกทางหนึ่งก็จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน นั่นคือจะมีเจ้าหน้าที่มาปรับปรุงเส้นทางให้สะดวกสบายขึ้น ทุกอย่างเปลี่ยนไปชนิดที่เรียกว่าหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว ด้วยปรากฏการณ์ดังกล่าวคนในต่างจังหวัดในถิ่นห่างไกลกันดารถึงกับภาวนาคิดแบบซื่อไร้เดียงสาอยากให้พระองค์เสด็จมาบ่อยๆก็มี

เมื่อประมาณ พ.ศ. 2510 เป็นต้นมาสถานการณ์ภัยคุกคามใน “ยุคสงครามเย็น” ในยุคสงครามคอมมิวนิสต์ที่กำลังคุกคามรุกคืบเข้ามาในประเทศไทย หลายคนกำลังหวั่นกลัวว่าเราจะต้องมีความเปลี่ยนแปลงไม่ต่างจากประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอินโดจีนที่ต่างทยอยล้มลงไปตามทฤษฎีโดมิโน แต่ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระองค์ และความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวทรงเป็นขวัญและกำลังใจให้กับพสกนิกร ทรงเสี่ยงฝ่าดงภยันตรายเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมบำรุงขวัญทหารถึงพื้นที่สู้รบที่กำลังแผ่ลุกลามเข้ามาทั่วทุกภูมิภาค

ด้วยพระบารมีที่แผ่ไพศาลทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากสถานการณ์อันเลวร้ายนั้นมาได้ ทั้งที่ประเทศรอบบ้านต่างต้องอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด ต้องทิ้งถิ่นฐานบ้านช่องอพยพหลบหนีภัยเข้ามา และด้วยพระบรมโพธิสมภารดังกล่าวยังได้แผ่ไปปกเกล้าฯด้วยพระเมตตา

พระเมตตา พระบารมีที่แผ่ไพศาลตลอดพระชนม์ชีพของพระเจ้าอยู่หัว และในฐานะที่เป็น “พ่อของแผ่นดิน” เชื่อว่าพวกเราคนไทยทุกคนคงพร้อมใจกัน ร่วมใจกันถวายพระพรในโอกาสพิเศษวันที่ 5 ธันวามหาราช และโอกาสที่ทรงมีพระชนมายุครบ 85 พรรษาขอให้พร้อมใจกัน “ใส่เสื้อเหลืองกันทั้งแผ่นดิน” และร่วมกันทำความดีถวายพ่อ เพื่อให้พ่อได้ชื่นใจ มีกำลังใจ

ทรงพระเจริญ!!