น้ำตามหาปิติ-ให้กำลังใจพ่อ !!

เกาะกระแส

00 ตลอดเส้นทางที่ได้เห็น “ในหลวง” เสด็จพระราชดำเนิน และได้เห็นพระองค์เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ท่ามกลางเสียงพสกนิกรที่พร้อมใจกันเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้อง เชื่อว่าหลายคนต้องขนลุก ตื้นตัน น้ำตาแห่งความปลื้มปิติ หลายคนที่นั่งชมอยู่หน้าจอทีวี ก็มีความปลาบปลื้มไม่แพ้กัน

00 ในโอกาสพิเศษ ได้เห็น “พ่อ” ที่เป็น “พ่อของแผ่นดิน” พ่อของทุกคน มีพลานามัย มีพระพักตร์แจ่มใส ได้เห็นรอยยิ้มของพระองค์ท่าน แม้จะเป็นเพียงแวบเดียวก็ชื่นใจเหลือพรรณนา แน่นอนว่าน้ำตาแห่งความปลื้มปิติหลั่งมาอาบแก้มแบบไม่รู้ตัว และไม่อาย เพราะนี่คือความรัก ความภักดี ที่เอ่อล้นออกมาจากใจ ภาพที่มีพสกนิกรพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองโบกธงกันไสวตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน รวมไปถึงพสกนิกรที่หลั่งไหลมาจับจองพื้นที่ เพื่อเฝ้ารอรับเสด็จทั้งลานพระราชวังดุสิต หรือลานพระรูปฯ เสมือนหนึ่งว่า “ลูกๆทั้งหลายร่วมใจมาให้กำลังใจพ่อ” ให้ทรงมีพลานามัยแข็งแรง มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรไปตราบนานแสนนาน เสียง “ทรงพระเจริญ” ที่ดังกึกก้อง คงทำให้พ่อได้ยิน และชื่นใจ !!

00 ในโอกาสพิเศษแบบนี้ไม่อยากจะให้เสียบรรยากาศ แต่ก็จำเป็นต้องชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของคนอีกจำพวกหนึ่งที่กำลังบ่อนเซาะทำลายสถาบันฯให้อ่อนแอลงด้วยการปลุกระดมสร้างกระแสบิดเบือนอย่างต่อเนื่อง และนับวันยิ่งเข้มข้นขึ้นทุกวัน เปิดเผยออกมาให้เห็นตัวตนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างไรถ้าเรารู้ทัน และฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องเอาจริง คนพวกนี้ก็ไม่อาจเผยอหน้าเหิมเกริมไปได้มากกว่านี้

00 กรณีของ ก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.เพื่อไทย ที่ถูกศาลเพิกถอนการประกันตัว จากคำพูดข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ จนต้องนอนคุก แต่กรณีของเขาถือว่าเป็นกรณีที่น่าศึกษา เพราะหลังที่ต้องระเห็จไปนอนคุกอยู่สองสามคืน ก็ดิ้นรนให้ทนายความยื่นคำร้องขอให้ศาลเปลี่ยนแปลงคำสั่งใหม่ โดยอ้างในเหตุผลหนึ่งว่า ต้องการออกไปถวายความจงรักภักดีในวันมหามงคลร่วมกับคนไทย แต่อาจเป็นเพราะโกหกจนเคย คิดว่าคนอื่นรู้ไม่ทัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ก่อแก้ว คนนี้เคยจาบจ้วงอย่างอุกอาจ กล่าวถึงการ “ปลดรูป” ที่ติดไว้ทุกบ้าน แค่นี้คนไทยทั่วไปเมื่อได้ยินแล้วก็ไม่อาจให้อภัยให้ได้อยู่แล้ว แต่ยังเหิมเกริมไม่สิ้นสุด คิดแอบอ้างมาเพื่อทำให้ตัวเองเอาตัวรอด พ้นออกไปจากคุก

00 ยังโชคดีที่ศาลรู้ทัน ไม่เล่นด้วย ไม่ยอมให้ประกันตัวออกไป ในเหตุผลที่ระบุ บอกว่าเกรงว่าถ้าปล่อยออกไปจะไปสร้างความวุ่นวายซ้ำอีก รวมถึงกล่าวถึงข้ออ้างที่จะออกไปร่วมถวายความจงรักภักดีว่า ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถแสดงความภักดีได้อยู่แล้ว เป็นการตอกหน้าแงกันตรงๆ

00 สังเกตหรือไม่ว่า คนที่จาบจ้วงทำลายสถาบันฯ เริ่มได้รับผลกรรมที่ก่อเอาไว้เรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ได้ถูกจำคุก หรือถูกปล่อยตัวออกไปชั่วคราวแล้ว แต่เชื่อเถอะคนเหล่านี้จะไม่มีความเจริญไปได้หรอก และยังเชื่อว่าคนพวกนี้ไม่เคยมีบั้นปลายมีความสุขสักคนเดียว จำได้หรือไม่ว่า วีระกานต์ มุสิกพงศ์ ตั้งแต่ถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตั้งแต่นั้นมาชีวิตก็ลุ่มๆ ดอนๆ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาเป็นดาวรุ่งทางการเมือง ต่อไปก็ให้จับตาอนาคตของ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ที่เคยกล่าวจาบจ้วงเรื่อง “กระสุนพระราชทาน” จะได้เป็นรมต.หรือไม่ รวมไปถึง อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ที่เพิ่งถูกศาลชั้นต้นจำคุกหนึ่งปีโดยไม่รอลงอาญา และในคำพิพากษายังระบุว่าสาเหตุที่ไม่รอลงอาญาเพราะมีการพูดพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เคารพรัก เป็นสัญญาณให้เห็นแววแล้วว่าในอนาคตน่าจะมีแนวโน้มไปอยู่ในคุกสูงยิ่ง เพราะคนพวกนี้ยังมีคดีความข้อหาฉกรรจ์อีกหลายคดี จับตามองให้ดีก็แล้วกัน !!