นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล การป้องกันและปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชันของรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่องค์กรความโปร่งใสสากล เผยผลการจัดอันดับดัชนี ชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน ปี 2555 พบประเทศไทยได้ตกลงจากอันดับที่ 80 ในปี 2554 จาก 183 ประเทศ มาอยู่ที่ 88 จาก 176 ประเทศว่า ปีนี้องค์กรความโปร่งใสสากลได้เปลี่ยนระบบจากการให้คะแนนเต็ม 10 มาเป็นเต็ม 100 คะแนน ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกัน ถือว่าประเทศไทยทำดีขึ้นคือ ปี 2555 ได้ 37 คะแนน ขณะที่ปี 2554 ได้คะแนน 34 หรือ 3.4 เดิม
นายนิวัฒน์ธำรง ยังกล่าวด้วยว่า อันดับที่ตกลงนั้น เป็นเพราะหลายประเทศ ที่เป็นประเทศเล็กๆ แต่ได้คะแนน และมีอันดับที่เท่ากับประเทศไทย เพราะใช้แหล่งข้อมูลในการคำนวณเพียง 3-4 ตัวชี้วัด ขณะที่ประเทศไทยใช้แหล่งข้อมูลในการคำนาณถึง 8 ตัวชี้วัด จึงทำให้ประเทศดังกล่าวได้คะแนนสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย และ ส่งผลต่อการจัดอันดับในครั้งนี้
" รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ และได้พยายามแก้ปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องคอร์รัปชันที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย โดยได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชันขึ้นในทุกกระทรวง และเปิดช่องทางการร้องเรียนให้ประชาชน ให้สามารถร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง ใน 3 ช่องทางพิเศษ คือ ตู้รับเรื่องร้องเรียนทุจริตทั่วประเทศ สายด่วย 1206 และสื่อออนไลน์ www.stopcorruption.go.th และยังได้ร่วมกับภาคเอกชนในการรณรงค์ต่อต้านการทุจริต รวมทั้งร่วมมือกับองค์กรอิสระ ซึ่งหวังว่าจะช่วยทำให้ประเทศไทย มีภาพลักษณ์ความโปร่งใส เป็นที่ยอมรับของนานาชาติมากขึ้น" รมต.สำนักนายกฯ กล่าว
นายนิวัฒน์ธำรง ยังกล่าวถึง การจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม รู้สึกปลี้มปิติ ยินดีและภูมิใจมาก ที่ได้ทำงานถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ส่วนพระราชดำรัสของพระองค์ท่านต่อผู้มาเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรนั้น รัฐบาลจะน้อมนำปฏิบัติอย่างแน่นอน และเห็นว่าคนไทยทุกคน ทุกหมู่เหล่า ทุกหน่วยงาน ข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมือง ภาคเอกชน ฯลฯ สมควรอย่างยิ่งที่จะน้อมนำพระราชดำรัสไปปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่องคุณธรรม ต้องทำเป็นประจำ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ไม่ใช่เพิ่งจะมาเริ่มทำ
นายนิวัฒน์ธำรง ยังกล่าวด้วยว่า อันดับที่ตกลงนั้น เป็นเพราะหลายประเทศ ที่เป็นประเทศเล็กๆ แต่ได้คะแนน และมีอันดับที่เท่ากับประเทศไทย เพราะใช้แหล่งข้อมูลในการคำนวณเพียง 3-4 ตัวชี้วัด ขณะที่ประเทศไทยใช้แหล่งข้อมูลในการคำนาณถึง 8 ตัวชี้วัด จึงทำให้ประเทศดังกล่าวได้คะแนนสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย และ ส่งผลต่อการจัดอันดับในครั้งนี้
" รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ และได้พยายามแก้ปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องคอร์รัปชันที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย โดยได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชันขึ้นในทุกกระทรวง และเปิดช่องทางการร้องเรียนให้ประชาชน ให้สามารถร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง ใน 3 ช่องทางพิเศษ คือ ตู้รับเรื่องร้องเรียนทุจริตทั่วประเทศ สายด่วย 1206 และสื่อออนไลน์ www.stopcorruption.go.th และยังได้ร่วมกับภาคเอกชนในการรณรงค์ต่อต้านการทุจริต รวมทั้งร่วมมือกับองค์กรอิสระ ซึ่งหวังว่าจะช่วยทำให้ประเทศไทย มีภาพลักษณ์ความโปร่งใส เป็นที่ยอมรับของนานาชาติมากขึ้น" รมต.สำนักนายกฯ กล่าว
นายนิวัฒน์ธำรง ยังกล่าวถึง การจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม รู้สึกปลี้มปิติ ยินดีและภูมิใจมาก ที่ได้ทำงานถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ส่วนพระราชดำรัสของพระองค์ท่านต่อผู้มาเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรนั้น รัฐบาลจะน้อมนำปฏิบัติอย่างแน่นอน และเห็นว่าคนไทยทุกคน ทุกหมู่เหล่า ทุกหน่วยงาน ข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมือง ภาคเอกชน ฯลฯ สมควรอย่างยิ่งที่จะน้อมนำพระราชดำรัสไปปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่องคุณธรรม ต้องทำเป็นประจำ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ไม่ใช่เพิ่งจะมาเริ่มทำ