xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์คำสั่งศาลรธน. ตีความอำนาจประมูล3จี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- ส.ว.สุมล-ไพบูลย์ ยื่นผู้ตรวจร้องศาลรธน. ตีความ มาตรา 40 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่น ขัดรธน. มาตรา 305 "กลุ่มกรีน" บุกศาลปค.ทวงถามใครมีอำนาจยื่นฟ้องล้มประมูล 3 จี ขณะที่ อธิบดีดีเอสไอ ทำหนังสือถึงเลขาฯกสทช. ยันผลสอบประมูล 3จีไม่เข้าข่ายกม.ฮั้ว

วานนี้ ( 4 ธ.ค.) น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบและเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาว่า มาตรา 40 ประกอบมาตรา 27 ( 4) แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 และมาตรา 305 (1) หรือไม่

นายไพบูลย์ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อกฎหมาย พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. ใช้ในการจัดประมูลคลื่นความถี่ และจะออกใบอนญาต 3 จี แล้วเห็นว่า มาตรา 40 ของพ.ร.บ.ดังกล่าว กำหนดให้ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มีอำนาจปฎิบัติหน้าที่แทนกสทช.ในเรื่องต่าง ๆ ตามมาตรา 27 ของพ.ร.บ.เดียวกัน โดยที่เป็นปัญหาคือมาตรา 27 (4) ที่กำหนดให้กทค.มีอำนาจหน้าที่แทน กสทช.ในเรื่องการพิจารณาอนุญาต และกำกับดูแลการใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แต่เมื่อมาพิจารณา รัฐธรรมนูญ มาตรา 305(1) กลับบัญญัติให้กทค. มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่แทนกสทช.เฉพาะการกำกับการประกอบกิจการโทรคมนาคม ซึ่งในที่นี้ไม่หมายรวมถึงการให้มีอำนาจหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ และการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่

ดังนั้นการที่กทค.มีมติเมื่อวันที่ 18 ต.ค. เห็นชอบผลการประมูล 3 จี ที่มีการประมูลเมื่อวันที่ 16 ต.ค. จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งหากศาลมีคำวินิจฉัยว่ามาตรา 40 ประกอบมาตรา 27 ของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และมาตรา 305 (1) ก็จะเป็นผลให้การจัดประมูลที่เกิดขึ้นเป็นโมฆะทันที

ด้านนางผานิต กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมในวันเดียวกันนี้ ซึ่งก็จะมีการพิจารณากรณีศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ฟ้องเรื่องการเพิกถอนการประมูล 3 จี ว่า ทางผู้ตรวจจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสังคมให้ความสนใจมาก เพราะเป็นเรื่องการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ

**ข้องใจใครมีอำนาจยื่นฟ้องล้ม 3 จี

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ได้เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำฟ้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีขอให้เพิกถอนการจัดประมูลคลื่นความถี่ 3 จี โดยเห็นว่าคำสั่งศาลปกครองกลางดังกล่าวเป็นผลให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. คณะกรรมการกสทช. และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือกทค. มีสถานะสูงเกินกว่าที่กฎหมาย อำนาจตุลาการ และอำนาจขององค์กรตรวจสอบจะตรวจสอบได้

อีกทั้งยังมีผลกระทบต่ออำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินโดยมีลักษณะเป็นการจำกัดอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้ว สำนักงานกสทช. ไม่ได้เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ แต่มีฐานะเป็นหน่วยงานทางปกครองที่เป็นอิสระ กสทช.และกทค. จึงมีฐานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ การกระทำหรือคำสั่งใด ๆ ของสำนักงานกสทช. คณะกรรมการกสทช. และกทค. จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลปกครองกลาง

ดังนั้นเพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนและประเทศชาติ และเพื่อป้องกันความเสียหายที่ยากต่อการเยียวยาในภายหลังหากมีการออกใบอนุญาต 3 จี จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด

**ดีเอสไอยันประมูล 3จี"ไม่เข้าข่ายฮั้ว

ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้ทำหนังสือถึง นายฐากรณ์ ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ยืนยันว่า การจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์แบบ 3 จี ที่กสทช. เปิดประมูลนั้น ไม่เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 แต่อย่างใด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบหลักฐานของดีเอสไอ พบว่า การจัดการประมูลดังกล่าวเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามมาตรา 45 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ที่กำหนดให้ กสทช.มีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาต เงื่อนไข หรือค่าธรรมเนียมการอนุญาตและจะต้องดำเนินการโดยวิธีการประมูลตามที่ กสทช.กำหนด

**เชื่อ 3G ดันเม็ดเงินเข้าระบบศก.แสนล.

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อํานวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า โครงการ 3G จะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในประเทศ จำนวน 100,000 ล้านบาท ในช่วง 1 - 2 ปีข้างหน้า โดยจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ (GDP) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 - 0.7 และยังส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศ ให้สามารถแข่งขันได้เพิ่มขึ้น จากการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย และหากสามารถเดินหน้าโครงการ 4G ได้ทันที จะยิ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น