ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คนร้ายแต่งกายเลียนแบบทหารบุกเผาโรงเรียนบ้านท่าสู ปัตตานีรับเปิดเทอมวันแรก ด้านโรงเรียนกว่า 300 โรงเปิดสอนแล้ว ขณะที่องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนนานาชาติ เรียกร้องสมาชิกส่งจดหมายกดดันรัฐบาลไทย จี้วางมาตรการเข้มข้นดูแลครูชายแดนใต้ ผบ.ตร. โวสถานการณ์ไฟใต้ภาพรวมรวมดีขึ้น แต่ยังต้องเฝ้าระวังช่วงปีใหม่
เมื่อเวลา 01.45 น. วานนี้ (3 ธ.ค.) ตำรวจ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุจาก ฉก.ทพ.44 ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนบ้านท่าสู หมู่ 3 ต.น้ำบ่อ ซึ่งเป็นอาคารขนาด 2 ชั้น จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าระงับเหตุ ตรวจสอบเบื้องต้นพบห้องเรียนเสียหาย 1 ห้อง และบางส่วนของห้องพักครู สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีคนร้าย 15-20 คนแต่งกายชุดดำ อาวุธปืนครบมือเข้ามาภายในโรงเรียนแล้วจับชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียน 4 คนมัดไว้จากนั้นจึงวางเพลิงภายในอาคาร
ต่อมาเวลา 08.30 น. พ.ต.อ.มานิตย์ ยิ้มซ้าย ผกก.สภ.ปะนาเระ นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น 10 ห้อง ห้องที่ได้รับความเสียหายอยู่ชั้น 2 เป็นห้องสำนักงานหรือห้องพักครู เพลิงได้เผาผลาญเอกสาร เครื่องแท็บเล็ต 18 เครื่อง และลุกลามไปติดห้องพยาบาล ห้องสมุด และห้องเรียนชั้น ป.3 เสียหายบางส่วนด้วย
พ.ต.อ.มานิตย์ กล่าวว่า ชุดรักษาความปลอดภัยให้การว่าคนร้ายประมาณ 4 คน แต่งกายคล้ายทหารเรียกให้เปิดประตู อ้างว่าจะตรวจสอบความเรียบร้อย ระหว่างเปิดประตูมีคนร้าย 5-6 คนพร้อมอาวุธปืนเข้ามาจับมัดมือและพาไปอยู่ที่สนาม จากนั้นบุกขึ้นไปบนอาคารลงมือวางเพลิงแล้วหลบหนีไป ซึ่งโชคดีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาระงับเหตุก่อนที่จะถูกเผาทั้งหลัง
สำหรับโรงเรียน 332 โรงใน จ.ปัตตานี ที่ปิดการเรียนการสอนไปหลังนางนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อ.หนองจิก ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาได้เปิดเรียนตามปกติตั้งแต่วานนี้ (3 ธ.ค.) โดยมีหน้าที่คุ้มครองครูที่เดินทางไปโรงเรียนตลอดเส้นทาง ส่วนที่โรงเรียนบ้านท่ากำชำ นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจครูและนักเรียนด้วย เนื่องจากครูอีก 3 คนยังไม่กล้าเดินทางมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศึกษาปัตตานี เขต 1 จึงมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการในโรงเรียนที่ปลอดภัยแล้ว
ด้าน พล ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนา ผบก.ภจว.ปัตตานี กล่าวถึงความคืบหน้าของคดียิงครูนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ กำลังเตรียมออกหมายจับ และกดดันให้คนร้ายยอมให้จับโดยดี
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผบ.ตร.กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยให้กับครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้เริ่มเปิดสอนใหม่อีกครั้งหลังจากที่ได้ปิดทำการสอนไปกว่า 300 โรงเรียนว่า ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 อย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดมาตรการในการดูแลความปลอดภัย ที่ผ่านมาเรามีแผนดูแลความปลอดภัยของครูตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว
ส่วนในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีการข่าวว่าจะเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์นั้น ผบ.ตร.กล่าวเลี่ยงว่า ในภาพรวมสถานการณ์ความไม่สงบต่างๆ ตนถือว่าดีขึ้น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในช่วงนี้อย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลหรือเอไอ ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนนานาชาติ สำนักงานใหญ่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แถลงการณ์เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมระบุว่าตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีครูอย่างน้อย 4 คนถูกสังหาร อีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ย.เหตุเกิดกับผู้อำนวยการโรงเรียนใน จ.ปัตตานี ทำให้ครูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ประท้วงโดยหยุดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.เพื่อเรียกร้องให้รัฐจัดระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่า และเรียกร้องให้กลุ่มก่อความไม่สงบยุติการใช้ความรุนแรง เพราะตั้งแต่ปี 2547 มีครูและบุคลากรทางการศึกษาเสียชีวิตกว่า 150 คน บาดเจ็บกว่า 140 คน
ทั้งนี้ เอไอขอให้สมาชิกทั่วโลกกว่า 2 ล้านคนเขียนจดหมายถึงรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนวันที่ 9 มกราคม 2556 โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลจัดให้มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการคุ้มครองครูโดยทันที 2.รัฐบาลต้องทำให้แน่ใจว่าผู้กระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เหยื่อรวมทั้งญาติได้รับความเป็นธรรม การเยียวยาที่เหมาะสม และ 3.ขอเรียกร้องให้ปราบปรามการก่อความไม่สงบ โดยคำนึงถึงพันธกรณีตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
เมื่อเวลา 01.45 น. วานนี้ (3 ธ.ค.) ตำรวจ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุจาก ฉก.ทพ.44 ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนบ้านท่าสู หมู่ 3 ต.น้ำบ่อ ซึ่งเป็นอาคารขนาด 2 ชั้น จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าระงับเหตุ ตรวจสอบเบื้องต้นพบห้องเรียนเสียหาย 1 ห้อง และบางส่วนของห้องพักครู สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีคนร้าย 15-20 คนแต่งกายชุดดำ อาวุธปืนครบมือเข้ามาภายในโรงเรียนแล้วจับชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียน 4 คนมัดไว้จากนั้นจึงวางเพลิงภายในอาคาร
ต่อมาเวลา 08.30 น. พ.ต.อ.มานิตย์ ยิ้มซ้าย ผกก.สภ.ปะนาเระ นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น 10 ห้อง ห้องที่ได้รับความเสียหายอยู่ชั้น 2 เป็นห้องสำนักงานหรือห้องพักครู เพลิงได้เผาผลาญเอกสาร เครื่องแท็บเล็ต 18 เครื่อง และลุกลามไปติดห้องพยาบาล ห้องสมุด และห้องเรียนชั้น ป.3 เสียหายบางส่วนด้วย
พ.ต.อ.มานิตย์ กล่าวว่า ชุดรักษาความปลอดภัยให้การว่าคนร้ายประมาณ 4 คน แต่งกายคล้ายทหารเรียกให้เปิดประตู อ้างว่าจะตรวจสอบความเรียบร้อย ระหว่างเปิดประตูมีคนร้าย 5-6 คนพร้อมอาวุธปืนเข้ามาจับมัดมือและพาไปอยู่ที่สนาม จากนั้นบุกขึ้นไปบนอาคารลงมือวางเพลิงแล้วหลบหนีไป ซึ่งโชคดีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาระงับเหตุก่อนที่จะถูกเผาทั้งหลัง
สำหรับโรงเรียน 332 โรงใน จ.ปัตตานี ที่ปิดการเรียนการสอนไปหลังนางนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อ.หนองจิก ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาได้เปิดเรียนตามปกติตั้งแต่วานนี้ (3 ธ.ค.) โดยมีหน้าที่คุ้มครองครูที่เดินทางไปโรงเรียนตลอดเส้นทาง ส่วนที่โรงเรียนบ้านท่ากำชำ นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจครูและนักเรียนด้วย เนื่องจากครูอีก 3 คนยังไม่กล้าเดินทางมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศึกษาปัตตานี เขต 1 จึงมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการในโรงเรียนที่ปลอดภัยแล้ว
ด้าน พล ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนา ผบก.ภจว.ปัตตานี กล่าวถึงความคืบหน้าของคดียิงครูนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ กำลังเตรียมออกหมายจับ และกดดันให้คนร้ายยอมให้จับโดยดี
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผบ.ตร.กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยให้กับครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้เริ่มเปิดสอนใหม่อีกครั้งหลังจากที่ได้ปิดทำการสอนไปกว่า 300 โรงเรียนว่า ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 อย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดมาตรการในการดูแลความปลอดภัย ที่ผ่านมาเรามีแผนดูแลความปลอดภัยของครูตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว
ส่วนในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีการข่าวว่าจะเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์นั้น ผบ.ตร.กล่าวเลี่ยงว่า ในภาพรวมสถานการณ์ความไม่สงบต่างๆ ตนถือว่าดีขึ้น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในช่วงนี้อย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลหรือเอไอ ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนนานาชาติ สำนักงานใหญ่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แถลงการณ์เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมระบุว่าตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีครูอย่างน้อย 4 คนถูกสังหาร อีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ย.เหตุเกิดกับผู้อำนวยการโรงเรียนใน จ.ปัตตานี ทำให้ครูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ประท้วงโดยหยุดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.เพื่อเรียกร้องให้รัฐจัดระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่า และเรียกร้องให้กลุ่มก่อความไม่สงบยุติการใช้ความรุนแรง เพราะตั้งแต่ปี 2547 มีครูและบุคลากรทางการศึกษาเสียชีวิตกว่า 150 คน บาดเจ็บกว่า 140 คน
ทั้งนี้ เอไอขอให้สมาชิกทั่วโลกกว่า 2 ล้านคนเขียนจดหมายถึงรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนวันที่ 9 มกราคม 2556 โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลจัดให้มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการคุ้มครองครูโดยทันที 2.รัฐบาลต้องทำให้แน่ใจว่าผู้กระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เหยื่อรวมทั้งญาติได้รับความเป็นธรรม การเยียวยาที่เหมาะสม และ 3.ขอเรียกร้องให้ปราบปรามการก่อความไม่สงบ โดยคำนึงถึงพันธกรณีตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ