วานนี้(3ธ.ค.55)สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. เป็นประธานในการเปิดงานสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "ความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ" พร้อมเป็นประธานพิธีมอบรางวัลดัชนีความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ และประกาศเกียรติคุณดัชนีวัดความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปี 2554 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เข้าร่วม
นายปานเทพ กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการประเมินดัชนีความโปร่งใสของหน่วยงานภาคราชการ โดยมีหน่วยงานราชการเข้าร่วมประเมินจำนวน 45 แห่ง ซึ่งผลการประเมินความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐ ประจำปี 2554 โดย 3 หน่วยงานแรก ได้รับรางวัลได้แก่ 1.กรมธนารักษ์ 2.กรมอนามัย และ3.สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยได้คะแนนเท่ากันคือ 8.0 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ทั้งนี้หน่วยเป็นตัวอย่างที่ดีของหน่วยงานภาครัฐที่จะนำไปเป็นตัวอย่างในการดำเนินการ และในอนาคต ป.ป.ช.จะขยายการประเมินดัชนีชี้วัดความโปร่งใสไปยังหน่วยงานภาครัฐให้ครอบคลุมหน่วยงานทั้งหมด 148 แห่งต่อไป
ด้านนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวระหว่างการสัมมนาทางวิชาการเรื่องความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ ตอนหนึ่งว่า รัฐจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีหน่วยงานภาครัฐที่จะขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน หน่วยงานภาครัฐจึงต้องเป็นหลักในเรื่องความโปร่งใส ที่ผ่านมาประเทศไทยสอบตกตลอดในเรื่องการประเมินดัชนีความโปร่งใสในระดับนานาชาติ ซึ่งเรื่องนี้มีผลทำให้ความรู้สึกของคนไทยและคนต่างชาติ เหตุนี้หน่วยงานภาครัฐจึงต้องประเมินว่าองค์กรของตัวเองยังสอบตกอยู่หรือไม่ ทั้งนี้ในปี 2556 ป.ป.ช. จะดำเนินการในเรื่องการประเมินคุณธรรมและจริยธรรมของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินได้ยากมาก เช่น เอาจริงเอาจังกับเรื่องการแก้ไขปัญหาทุจริตหรือไม่ เป็นต้น
นายวิชา กล่าวอีกว่า หากมีการประเมินตัวชี้วัดในทุกหน่วยงานแล้ว จะเป็นสิ่งที่ทำให้ค่าดัชนีชี้วัดความโปร่งใสของประเทศไทยในระดับนานาชาติสูงขึ้น ตนขอตัวอย่างจากประเทศเกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจังและเข้มข้น มีการเกณฑ์หน่วยงานที่มีความเสี่ยงสูงเข้ามาประเมินก่อน เช่น กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมตำรวจ เป็นต้น ประเทศไทยต้องนำประเทศเหล่านี้เป็นตัวอย่างa
**ค่าโปร่งใสหน่วยงานรัฐ 6.6 จากเต็ม 10
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงค่าคะแนนความโปร่งใสหน่วยงานรัฐในปีงบประมาณ 2554 ที่ดำเนินการวัดโดยคณะอนุกรรมการจัดทำดัชนีวัดความโปร่งใสสังคมไทยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ สำนักงาน ป.ป.ช.นั้น ได้ผลปรากฏว่า มีค่าความโปร่งใสอยู่ที่ระดับ 6.6 จากคะแนนเต็ม 10 และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดตามดัชนีรายตัวชี้วัดย่อยตามปัจจัยหลัก 4 ด้านที่สะท้อนค่าความโปร่งใสหน่วยงานภาครัฐนั้น สามารถสรุปได้ดังนี้ คือ ด้านความโปร่งใสในการกำหนดยุทธศาสตร์ หน่วยงานภาครัฐมีความโปร่งใสในการกำหนดยุทธศาสตร์สำหรับพันธกิจหลักของแต่ละหน่วยงานในระดับสูง (6.8 )แต่มีความโปร่งใสในการนำยุทธศาสตร์ไปปฏิบัติในระดับปานกลาง(5.5 ) ส่วนค่าความโปร่งใสในการติดตามประเมินผล (6.1) และการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ( 8.0 ) มีค่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูงถึงสูงมาก สะท้อนถึงความพยายามในการดำเนินงานให้มีความโปร่งใสเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
การวัดค่าคะแนนความโปร่งใสหน่วยงานของรัฐระดับกรมหรือหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่ากรมของประเทศไทยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อตรวจวัดความโปร่งใส โดยยึดถือความถูกต้องของข้อมูลจากหลักฐานการดำเนินงานตามภารกิจหลักเพียง 1 ภารกิจของแต่ละหน่วยงานที่สามารถแสดงหลักฐานอ้างอิงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและลดอคติที่อาจเกิดจากการสำรวจความคิดเห็นสาธารณะในการประเมินความโปร่งใสและภาพลักษณ์การทุจริตของหน่วยงาน
ทั้งนี้มีหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการประเมินความโปร่งใสประจำปีงบประมาณ 2554 ทั้งสิ้น 45 หน่วยงาน แบ่งเป็น 5 กลุ่มภารกิจ คือ กลุ่มภารกิจด้านสาธารณูปโภค กลุ่มภารกิจด้านสังคม กลุ่มภารกิจด้านการยุติธรรมและความมั่นคง กลุ่มภารกิจด้านเศรษฐกิจ กลุ่มภารกิจด้านนโยบายและวิชาการ
สำหรับกลุ่มภารกิจด้านสาธารณูปโภค มีหน่วยงานเข้าร่วมโครงการประเมินฯ อาทิ กรมการขนส่งทางบก กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน กรมทางหลวง กรมเจ้าท่า กลุ่มภารกิจด้านสังคม อาทิ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มภารกิจด้านการยุติธรรมและความมั่นคง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กลุ่มภารกิจด้านเศรษฐกิจ อาทิ กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมสรรพสามิต กลุ่มภารกิจด้านนโยบายและวิชาการ อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
"ค่าคะแนนเฉลี่ยความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐที่วัดเฉพาะตามภารกิจหลักของหน่วยงาน เมื่อจำแนกตามกลุ่มภารกิจ ค่อนข้างใกล้เคียงกันทุกกลุ่มโดยมีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 6.3- 6.7 " นายวิชา กล่าว
นายปานเทพ กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการประเมินดัชนีความโปร่งใสของหน่วยงานภาคราชการ โดยมีหน่วยงานราชการเข้าร่วมประเมินจำนวน 45 แห่ง ซึ่งผลการประเมินความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐ ประจำปี 2554 โดย 3 หน่วยงานแรก ได้รับรางวัลได้แก่ 1.กรมธนารักษ์ 2.กรมอนามัย และ3.สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยได้คะแนนเท่ากันคือ 8.0 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ทั้งนี้หน่วยเป็นตัวอย่างที่ดีของหน่วยงานภาครัฐที่จะนำไปเป็นตัวอย่างในการดำเนินการ และในอนาคต ป.ป.ช.จะขยายการประเมินดัชนีชี้วัดความโปร่งใสไปยังหน่วยงานภาครัฐให้ครอบคลุมหน่วยงานทั้งหมด 148 แห่งต่อไป
ด้านนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวระหว่างการสัมมนาทางวิชาการเรื่องความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ ตอนหนึ่งว่า รัฐจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีหน่วยงานภาครัฐที่จะขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน หน่วยงานภาครัฐจึงต้องเป็นหลักในเรื่องความโปร่งใส ที่ผ่านมาประเทศไทยสอบตกตลอดในเรื่องการประเมินดัชนีความโปร่งใสในระดับนานาชาติ ซึ่งเรื่องนี้มีผลทำให้ความรู้สึกของคนไทยและคนต่างชาติ เหตุนี้หน่วยงานภาครัฐจึงต้องประเมินว่าองค์กรของตัวเองยังสอบตกอยู่หรือไม่ ทั้งนี้ในปี 2556 ป.ป.ช. จะดำเนินการในเรื่องการประเมินคุณธรรมและจริยธรรมของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินได้ยากมาก เช่น เอาจริงเอาจังกับเรื่องการแก้ไขปัญหาทุจริตหรือไม่ เป็นต้น
นายวิชา กล่าวอีกว่า หากมีการประเมินตัวชี้วัดในทุกหน่วยงานแล้ว จะเป็นสิ่งที่ทำให้ค่าดัชนีชี้วัดความโปร่งใสของประเทศไทยในระดับนานาชาติสูงขึ้น ตนขอตัวอย่างจากประเทศเกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจังและเข้มข้น มีการเกณฑ์หน่วยงานที่มีความเสี่ยงสูงเข้ามาประเมินก่อน เช่น กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมตำรวจ เป็นต้น ประเทศไทยต้องนำประเทศเหล่านี้เป็นตัวอย่างa
**ค่าโปร่งใสหน่วยงานรัฐ 6.6 จากเต็ม 10
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงค่าคะแนนความโปร่งใสหน่วยงานรัฐในปีงบประมาณ 2554 ที่ดำเนินการวัดโดยคณะอนุกรรมการจัดทำดัชนีวัดความโปร่งใสสังคมไทยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ สำนักงาน ป.ป.ช.นั้น ได้ผลปรากฏว่า มีค่าความโปร่งใสอยู่ที่ระดับ 6.6 จากคะแนนเต็ม 10 และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดตามดัชนีรายตัวชี้วัดย่อยตามปัจจัยหลัก 4 ด้านที่สะท้อนค่าความโปร่งใสหน่วยงานภาครัฐนั้น สามารถสรุปได้ดังนี้ คือ ด้านความโปร่งใสในการกำหนดยุทธศาสตร์ หน่วยงานภาครัฐมีความโปร่งใสในการกำหนดยุทธศาสตร์สำหรับพันธกิจหลักของแต่ละหน่วยงานในระดับสูง (6.8 )แต่มีความโปร่งใสในการนำยุทธศาสตร์ไปปฏิบัติในระดับปานกลาง(5.5 ) ส่วนค่าความโปร่งใสในการติดตามประเมินผล (6.1) และการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ( 8.0 ) มีค่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูงถึงสูงมาก สะท้อนถึงความพยายามในการดำเนินงานให้มีความโปร่งใสเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
การวัดค่าคะแนนความโปร่งใสหน่วยงานของรัฐระดับกรมหรือหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่ากรมของประเทศไทยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อตรวจวัดความโปร่งใส โดยยึดถือความถูกต้องของข้อมูลจากหลักฐานการดำเนินงานตามภารกิจหลักเพียง 1 ภารกิจของแต่ละหน่วยงานที่สามารถแสดงหลักฐานอ้างอิงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและลดอคติที่อาจเกิดจากการสำรวจความคิดเห็นสาธารณะในการประเมินความโปร่งใสและภาพลักษณ์การทุจริตของหน่วยงาน
ทั้งนี้มีหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการประเมินความโปร่งใสประจำปีงบประมาณ 2554 ทั้งสิ้น 45 หน่วยงาน แบ่งเป็น 5 กลุ่มภารกิจ คือ กลุ่มภารกิจด้านสาธารณูปโภค กลุ่มภารกิจด้านสังคม กลุ่มภารกิจด้านการยุติธรรมและความมั่นคง กลุ่มภารกิจด้านเศรษฐกิจ กลุ่มภารกิจด้านนโยบายและวิชาการ
สำหรับกลุ่มภารกิจด้านสาธารณูปโภค มีหน่วยงานเข้าร่วมโครงการประเมินฯ อาทิ กรมการขนส่งทางบก กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน กรมทางหลวง กรมเจ้าท่า กลุ่มภารกิจด้านสังคม อาทิ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มภารกิจด้านการยุติธรรมและความมั่นคง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กลุ่มภารกิจด้านเศรษฐกิจ อาทิ กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมสรรพสามิต กลุ่มภารกิจด้านนโยบายและวิชาการ อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
"ค่าคะแนนเฉลี่ยความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐที่วัดเฉพาะตามภารกิจหลักของหน่วยงาน เมื่อจำแนกตามกลุ่มภารกิจ ค่อนข้างใกล้เคียงกันทุกกลุ่มโดยมีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 6.3- 6.7 " นายวิชา กล่าว