แปลกแต่จริงนะครับองค์การพิทักษ์สยามของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ แม้จะเป็นม็อบมือใหม่แต่สร้างความหวั่นไหวให้กับรัฐบาลไม่น้อย จนเกิดขบวนการป้ายสีม็อบเสธ.อ้ายต่างๆ นานา
ช่วงไม่กี่วันนี้ก่อนจะถึงวันนัดหมายของม็อบเสธ.อ้ายวันที่ 24 พฤศจิกายน เราจึงได้ยินสงครามข่าวสารที่สาดโคลนใส่ถี่ยิบและรุนแรงหนักหน่วงขึ้นทุกวัน
รัฐบาลและคนเสื้อแดงทำราวกับว่า การชุมนุมทางการเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาลนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตย พยายามจะสร้างภาพให้เห็นว่า ผู้ชุมนุมเป็นมวลชนที่ถูกจ้างมา มีการใช้เงินในการระดมมวลชนถึง 6,000 ล้านบาท และผู้ชุมนุมจะใช้ความรุนแรงเพื่อขับไล่รัฐบาล
โดยลืมไปว่าคนในประเทศนี้และชาวโลกยังอดสั่นพรั่นพรึงกับความรุนแรงจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้เมื่อปี 2552 และ 2553
ลืมไปว่า การชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ลืมไปว่า ประชาชนมีความชอบธรรมที่จะขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม และลืมไปว่า รัฐบาลชุดนี้เคยสนับสนุนการชุมนุมเผาบ้านเผาเมืองของคนเสื้อแดงมาก่อน
ที่ตลกก็คือ หนังสือพิมพ์มติชนซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่สนับสนุนรัฐบาลและคนเสื้อแดงพยายามจะกล่าวหาว่า ม็อบเสธ.อ้ายจะใช้ความรุนแรงแบบที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคยกระทำมาก่อน ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วพันธมิตรฯ เป็นฝ่ายถูกใช้ความรุนแรงจากอำนาจรัฐ และกลุ่มคนที่ได้รับการสนับสนุนจากอำนาจรัฐให้ใช้อาวุธสงครามยิงใส่พันธมิตรฯ โดยที่ตำรวจไม่ดำเนินคดี
กล่าวหาว่าม็อบเสธ.อ้ายจะใช้วิธีการแบบเหตุการณ์ 7 ตุลา ทั้งๆ ที่ 7 ตุลานั้นเป็นการกระทำความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อประชาชน และถูกชี้มูลความผิดแล้วโดย ป.ป.ช.และศาลปกครอง
แต่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้กลับไม่เคยมองเห็นว่าคนเสื้อแดงใช้ความรุนแรงในการชุมนุมอย่างไร มองไม่เห็นคนชุดดำที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง
ความจริงมติชนควรจะใช้คำพูดว่า กลัวม็อบจะใช้ความรุนแรงแบบคนเสื้อแดงกลัวกันว่าจะเผาบ้านเผาเมือง กลัวว่าจะใช้อาวุธสงครามแบบที่คนเสื้อแดงกระทำ
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การข่าวของตำรวจสันติบาล คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมมากกว่า 50,000 คน และพบว่ามีการจ้างมวลชนมาร่วมชุมนุมหัวละ 300-1,500 บาท รวมถึงสั่งให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมทุกคนเตรียมอุปกรณ์ อาทิ ร่มด้ามแข็ง น้ำส้มสายชู แว่นกันสารเคมี น้ำเกลือ อาหาร และเสื้อผ้า ที่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ 2-3 วัน พร้อมทั้งมีการแนะนำการปฏิบัติตัวระหว่างการชุมนุม และได้วางระบบการเดินทางไว้เป็นขั้นตอน รวมถึงกำหนดจุดนัดหมาย หากเกิดเหตุฉุกเฉินไว้ด้วย นอกจากนี้ การข่าวยังพบอีกว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีแนวโน้มที่จะยกระดับการชุมนุม เคลื่อนขบวนไปกดดันตามสถานที่สำคัญต่างๆ ในรูปแบบดาวกระจาย และสร้างสถานการณ์โดยใช้ประทัดยักษ์
นอกจากนั้นยังมีข่าวว่ามีคำสั่งให้ตำรวจ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันสกัดการเดินทางมาร่วมชุมนุมของประชาชนในจังหวัดต่างๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญของรัฐบาลที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ อ้างว่า ข่าวเรื่องมีผู้เตรียมเสื้อแดงไว้ 3-4 พันตัว เพื่อก่อกวนการชุมนุมของเสธ.อ้ายเป็นเรื่องจริง โดยการข่าวพบว่า เป็นการเตรียมตัวของกลุ่มก่อความวุ่นวายที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล
เหวง โตจิราการ อ้างว่าได้รับข้อมูลข่าวสารจากทหารและปรากฏเป็นข่าวในสื่อว่า มีการส่งทหารนอกเครื่องแบบกว่า 5,000 คนจากกองทัพบกในหลายจังหวัด อาทิ ขอนแก่น ชลบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรีและสระบุรี เพื่อมาเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้
จตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า แนวทางของ พล.อ.บุญเลิศ ที่ต้องการล้มรัฐบาล แล้วตั้งรัฐบาลขึ้นมาแทนนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกระทำโดยไม่ฉีกรัฐธรรมนูญ ดังนั้นถือเป็นการรัฐประหารแน่นอน
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่า เป็นห่วงกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม อยากเห็นการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ ปราศจากความรุนแรง
จะเห็นได้ว่าทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐและระดับนำของคนเสื้อแดงต่างละเลงใส่สีตีไข่ใส่ม็อบเสธ.อ้ายกันอย่างสนุกสนาน สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์และเครือข่ายระบอบทักษิณมีความหวั่นไหวกับม็อบเสธ.อ้ายครั้งนี้อย่างมาก และอีกด้านก็คงหวังว่า การสร้างภาพให้เห็นว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นนั้นจะทำให้ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมเกิดความหวาดกลัว
เพราะวาทกรรมต่างๆ ที่ออกมาจากฝ่ายเสื้อแดงและเจ้าหน้าที่รัฐล้วนเต็มไปด้วยการมุ่งสร้างสถานการณ์ว่าการชุมนุมของกลุ่มเสธ.อ้ายจะเป็นไปด้วยความรุนแรงรวมทั้งกล่าวหาว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เคารพหลักการของระบอบประชาธิปไตย หรือชุมนุมเพื่อเชื้อเชิญรัฐประหาร
แล้วประชาธิปไตยของทักษิณเป็นแบบไหน และการชุมนุมโดยสงบของคนเสื้อแดงเป็นแบบไหน
ผมคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังจำยุคสมัยของทักษิณได้ไม่ลืมเลือน
ยุคของทักษิณ องค์กรอิสระกลายเป็นง่อย เรื่องการบริหารประเทศกลายเป็นเรื่องของสองคนผัวเมีย เดี๋ยวมีข่าวเมียนายกฯ เรียก ส.ส.คนนั้นคนนี้เข้าพบ ส.ส.กลายเป็นทาสในเรือนเบี้ยของตระกูลชินวัตร ซื้อพรรคควบรวมพรรคซื้อตัว ส.ส. ซื้อตัวผู้สมัคร ซื้อตัวสมาชิกวุฒิสภา และตัวทักษิณเองแทบจะไม่เข้าประชุมสภาเลย กลายเป็นเผด็จการที่ถือเงินเข้ามายึดอำนาจ
ประชาธิปไตยของทักษิณและพวกมีความหมายเพียงการเข้าไปกาบัตรเลือกตั้ง และใช้ข้ออ้างที่มาจากการเลือกตั้ง สร้างระบบเผด็จการอำนาจนิยมขึ้นมา
พอทักษิณหมดอำนาจ การชุมนุมของคนเสื้อแดงก็เต็มไปด้วยการสร้างความรุนแรงและสร้างความหวาดหวั่นสะพรึงกลัวให้กับคนกรุงเทพฯ มีการลอบวางระเบิด ยิงเอ็ม 79 ใส่สถานที่ต่างๆ ไม่เว้นแต่ละวัน มีการยิงถล่มคลังน้ำมัน วางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง ยิงอาร์พีจีถล่มวัดพระแก้ว มีการตั้งด่านตรวจค้นคุกคามสวัสดิภาพของประชาชนทั่วไป มีการใช้อาวุธสงครามยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ และจบลงด้วยการเผาบ้านเผาเมือง
และสุดท้ายนำมวลชนมาตายเพียงเพื่อให้ทักษิณได้อำนาจคืน แล้วใช้เงินของรัฐจ่ายค่าชีวิตประชาชนที่ออกมาตายเพื่อทักษิณ
น่าตลกไหมครับทั้งๆ ที่โลกเขารู้ว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงเป็นอย่างไร แต่ถึงตอนนี้พวกคนเสื้อแดงกลับยังไม่ยอมรับว่า ตัวเองใช้ความรุนแรงเลย
แต่รัฐบาลชุดนี้กลับสาดโคลนใส่ม็อบเสธ.อ้ายว่าจะใช้ความรุนแรง เหมือนกับคนกลัว “แรงเงา” ของตัวเอง ที่เคยสนับสนุนการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงเผาบ้านเผาเมืองและติดอาวุธมาก่อน
ช่วงไม่กี่วันนี้ก่อนจะถึงวันนัดหมายของม็อบเสธ.อ้ายวันที่ 24 พฤศจิกายน เราจึงได้ยินสงครามข่าวสารที่สาดโคลนใส่ถี่ยิบและรุนแรงหนักหน่วงขึ้นทุกวัน
รัฐบาลและคนเสื้อแดงทำราวกับว่า การชุมนุมทางการเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาลนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตย พยายามจะสร้างภาพให้เห็นว่า ผู้ชุมนุมเป็นมวลชนที่ถูกจ้างมา มีการใช้เงินในการระดมมวลชนถึง 6,000 ล้านบาท และผู้ชุมนุมจะใช้ความรุนแรงเพื่อขับไล่รัฐบาล
โดยลืมไปว่าคนในประเทศนี้และชาวโลกยังอดสั่นพรั่นพรึงกับความรุนแรงจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้เมื่อปี 2552 และ 2553
ลืมไปว่า การชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ลืมไปว่า ประชาชนมีความชอบธรรมที่จะขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม และลืมไปว่า รัฐบาลชุดนี้เคยสนับสนุนการชุมนุมเผาบ้านเผาเมืองของคนเสื้อแดงมาก่อน
ที่ตลกก็คือ หนังสือพิมพ์มติชนซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่สนับสนุนรัฐบาลและคนเสื้อแดงพยายามจะกล่าวหาว่า ม็อบเสธ.อ้ายจะใช้ความรุนแรงแบบที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคยกระทำมาก่อน ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วพันธมิตรฯ เป็นฝ่ายถูกใช้ความรุนแรงจากอำนาจรัฐ และกลุ่มคนที่ได้รับการสนับสนุนจากอำนาจรัฐให้ใช้อาวุธสงครามยิงใส่พันธมิตรฯ โดยที่ตำรวจไม่ดำเนินคดี
กล่าวหาว่าม็อบเสธ.อ้ายจะใช้วิธีการแบบเหตุการณ์ 7 ตุลา ทั้งๆ ที่ 7 ตุลานั้นเป็นการกระทำความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อประชาชน และถูกชี้มูลความผิดแล้วโดย ป.ป.ช.และศาลปกครอง
แต่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้กลับไม่เคยมองเห็นว่าคนเสื้อแดงใช้ความรุนแรงในการชุมนุมอย่างไร มองไม่เห็นคนชุดดำที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง
ความจริงมติชนควรจะใช้คำพูดว่า กลัวม็อบจะใช้ความรุนแรงแบบคนเสื้อแดงกลัวกันว่าจะเผาบ้านเผาเมือง กลัวว่าจะใช้อาวุธสงครามแบบที่คนเสื้อแดงกระทำ
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การข่าวของตำรวจสันติบาล คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมมากกว่า 50,000 คน และพบว่ามีการจ้างมวลชนมาร่วมชุมนุมหัวละ 300-1,500 บาท รวมถึงสั่งให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมทุกคนเตรียมอุปกรณ์ อาทิ ร่มด้ามแข็ง น้ำส้มสายชู แว่นกันสารเคมี น้ำเกลือ อาหาร และเสื้อผ้า ที่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ 2-3 วัน พร้อมทั้งมีการแนะนำการปฏิบัติตัวระหว่างการชุมนุม และได้วางระบบการเดินทางไว้เป็นขั้นตอน รวมถึงกำหนดจุดนัดหมาย หากเกิดเหตุฉุกเฉินไว้ด้วย นอกจากนี้ การข่าวยังพบอีกว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีแนวโน้มที่จะยกระดับการชุมนุม เคลื่อนขบวนไปกดดันตามสถานที่สำคัญต่างๆ ในรูปแบบดาวกระจาย และสร้างสถานการณ์โดยใช้ประทัดยักษ์
นอกจากนั้นยังมีข่าวว่ามีคำสั่งให้ตำรวจ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันสกัดการเดินทางมาร่วมชุมนุมของประชาชนในจังหวัดต่างๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญของรัฐบาลที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ อ้างว่า ข่าวเรื่องมีผู้เตรียมเสื้อแดงไว้ 3-4 พันตัว เพื่อก่อกวนการชุมนุมของเสธ.อ้ายเป็นเรื่องจริง โดยการข่าวพบว่า เป็นการเตรียมตัวของกลุ่มก่อความวุ่นวายที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล
เหวง โตจิราการ อ้างว่าได้รับข้อมูลข่าวสารจากทหารและปรากฏเป็นข่าวในสื่อว่า มีการส่งทหารนอกเครื่องแบบกว่า 5,000 คนจากกองทัพบกในหลายจังหวัด อาทิ ขอนแก่น ชลบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรีและสระบุรี เพื่อมาเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้
จตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า แนวทางของ พล.อ.บุญเลิศ ที่ต้องการล้มรัฐบาล แล้วตั้งรัฐบาลขึ้นมาแทนนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกระทำโดยไม่ฉีกรัฐธรรมนูญ ดังนั้นถือเป็นการรัฐประหารแน่นอน
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่า เป็นห่วงกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม อยากเห็นการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ ปราศจากความรุนแรง
จะเห็นได้ว่าทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐและระดับนำของคนเสื้อแดงต่างละเลงใส่สีตีไข่ใส่ม็อบเสธ.อ้ายกันอย่างสนุกสนาน สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์และเครือข่ายระบอบทักษิณมีความหวั่นไหวกับม็อบเสธ.อ้ายครั้งนี้อย่างมาก และอีกด้านก็คงหวังว่า การสร้างภาพให้เห็นว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นนั้นจะทำให้ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมเกิดความหวาดกลัว
เพราะวาทกรรมต่างๆ ที่ออกมาจากฝ่ายเสื้อแดงและเจ้าหน้าที่รัฐล้วนเต็มไปด้วยการมุ่งสร้างสถานการณ์ว่าการชุมนุมของกลุ่มเสธ.อ้ายจะเป็นไปด้วยความรุนแรงรวมทั้งกล่าวหาว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เคารพหลักการของระบอบประชาธิปไตย หรือชุมนุมเพื่อเชื้อเชิญรัฐประหาร
แล้วประชาธิปไตยของทักษิณเป็นแบบไหน และการชุมนุมโดยสงบของคนเสื้อแดงเป็นแบบไหน
ผมคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังจำยุคสมัยของทักษิณได้ไม่ลืมเลือน
ยุคของทักษิณ องค์กรอิสระกลายเป็นง่อย เรื่องการบริหารประเทศกลายเป็นเรื่องของสองคนผัวเมีย เดี๋ยวมีข่าวเมียนายกฯ เรียก ส.ส.คนนั้นคนนี้เข้าพบ ส.ส.กลายเป็นทาสในเรือนเบี้ยของตระกูลชินวัตร ซื้อพรรคควบรวมพรรคซื้อตัว ส.ส. ซื้อตัวผู้สมัคร ซื้อตัวสมาชิกวุฒิสภา และตัวทักษิณเองแทบจะไม่เข้าประชุมสภาเลย กลายเป็นเผด็จการที่ถือเงินเข้ามายึดอำนาจ
ประชาธิปไตยของทักษิณและพวกมีความหมายเพียงการเข้าไปกาบัตรเลือกตั้ง และใช้ข้ออ้างที่มาจากการเลือกตั้ง สร้างระบบเผด็จการอำนาจนิยมขึ้นมา
พอทักษิณหมดอำนาจ การชุมนุมของคนเสื้อแดงก็เต็มไปด้วยการสร้างความรุนแรงและสร้างความหวาดหวั่นสะพรึงกลัวให้กับคนกรุงเทพฯ มีการลอบวางระเบิด ยิงเอ็ม 79 ใส่สถานที่ต่างๆ ไม่เว้นแต่ละวัน มีการยิงถล่มคลังน้ำมัน วางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง ยิงอาร์พีจีถล่มวัดพระแก้ว มีการตั้งด่านตรวจค้นคุกคามสวัสดิภาพของประชาชนทั่วไป มีการใช้อาวุธสงครามยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ และจบลงด้วยการเผาบ้านเผาเมือง
และสุดท้ายนำมวลชนมาตายเพียงเพื่อให้ทักษิณได้อำนาจคืน แล้วใช้เงินของรัฐจ่ายค่าชีวิตประชาชนที่ออกมาตายเพื่อทักษิณ
น่าตลกไหมครับทั้งๆ ที่โลกเขารู้ว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงเป็นอย่างไร แต่ถึงตอนนี้พวกคนเสื้อแดงกลับยังไม่ยอมรับว่า ตัวเองใช้ความรุนแรงเลย
แต่รัฐบาลชุดนี้กลับสาดโคลนใส่ม็อบเสธ.อ้ายว่าจะใช้ความรุนแรง เหมือนกับคนกลัว “แรงเงา” ของตัวเอง ที่เคยสนับสนุนการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงเผาบ้านเผาเมืองและติดอาวุธมาก่อน