รอง ผบ.ตร.-ผบช.น.เดินทางเข้าหารือแกนนำ “องค์การพิทักษ์สยาม” เพื่อเตรียมมาตรการป้องกันเหตุจากมือที่ 3 ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายในช่วงการชุมนุม ยันข้อมูลสันติบาลมีกลุ่มจ้องป่วน ด้านรอง ผบช.น.ด้านงานจราจรประชุมทุก บก.น.เตรียมพร้อมรับมือรถติดช่วงมีม็อบ
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย หรือสนามม้านางเลิ้ง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เดินทางเข้าหารือร่วมกับ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย แกนนำกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยและป้องกันเหตุจากมือที่สามที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย ในวันที่ 24 พ.ย. 2555 โดยใช้เวลาหารือร่วมกันกว่า 1 ชั่วโมงเศษ
พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า การมาเจรจาในวันนี้ไม่ได้มาต่อรองเรื่องการชุมนุม แต่ตนในฐานะผู้ดูแลความสงบเรียบร้อยจึงได้นำข้อมูลบางอย่างที่มีอยู่มาเรียนให้ทราบเพื่อจะได้ช่วยกันระมัดระวัง ซึ่งทางเสธ.อ้ายก็ยืนยันว่าเป็นการชุมนุมที่สงบ แต่ขณะเดียวกัน ข้อมูลที่ตนได้รับมาจากทางตำรวจสันติบาลนั้นมีบางกลุ่มที่จะเข้ามาก่อกวนหรืออาจมาสร้างความวุ่นวายขึ้นได้ จึงมาหารือร่วมกันว่าจะมีการทำงานกันอย่างไร และในที่สุดได้ข้อยุติที่ว่าจะช่วยกันวางระบบป้องกันในเรื่องของการตั้งด่านตรวจ เรื่องของอาวุธที่จะไม่ให้เข้าไปข้างในที่ชุมนุม ซึ่งทางเสธ.อ้ายก็ยืนยันว่าจะแจ้งให้ผู้ชุมนุมช่วยกันดูแลในเรื่องเหล่านี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การข่าวที่ได้รับมาที่บอกว่าจะมีคนเข้ามาก่อความวุ่นวายมีลักษณะไหนแล้วได้รับทราบมานานแล้วหรือยัง พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ตนทราบข้อมูลมาประมาณ 1 อาทิตย์และได้ให้ตำรวจสันติบาลในพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง จนถึงขณะนี้ยังยืนยันว่ามันมีกระแสอยู่ ซึ่งหลักของการรักษาความปลอดภัยอยากจะทำความเข้าใจว่าแม้จะสะกิดเพียงนิดเดียวก็ต้องให้ความสำคัญและจะต้องไม่ประมาท ถึงจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าตำรวจใช้แผนอะไรในการดูแลความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมเพราะว่าจำนวนคนที่มาชุมนุมมาจำนวนมาก พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า คงจะเป็นเรื่องของการตั้งด่านสกัดในทิศทางที่ผู้ชุมนุมจะเข้ามา อย่างเช่น บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าซึ่งถนนที่เป็นเส้นทางผ่านทางก็จะตั้งด่านตรวจสกัดและได้รับความร่วมมือจากทางการ์ดของทางผู้ชุมนุมในการช่วยกันตรวจอาวุธไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบรัศมีออกไป 400 เมตร จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเฝ้าไว้ ซึ่งเฝ้าระวังอย่างเต็มที่
“ส่วนการชุมนุมที่ผ่านมาแต่ละครั้ง รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น ซึ่งตำรวจได้นำบทเรียนต่างๆ มาวิเคราะห์และพยายามป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีก” พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าว
ด้าน พล.อ.บุญเลิศ หรือ เสธ.อ้าย กล่าวว่า หลังจากหารือร่วมกันแล้ว ต่อไปจะแจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบว่าห้ามเอาอาวุธมาโดยเด็ดขาด ซึ่งความกังวลในมือที่ 3 นั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความมั่นใจ โดยเฉพาะ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ก็ให้ความยืนยันด้วย และจะมาดูแลเรื่องที่ว่าใครจะมารังแกใช้อาวุธวิถีโค้ง อาจจะเป็นเอ็ม79 หรืออื่นๆ ซึ่งจะดูแลเรื่องนี้ด้วยถือป็นเรื่องที่ดีมาก
“ส่วนการรักษาความปลอดภัยไม่ใช่หน้าที่ตำรวจเพียงอย่างเดียว และมีการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมมาร่วมดูแลด้วย ผมมั่นใจอีกว่าสื่อมวลชนที่มากันในวันนี้ก็เป็นหูเป็นตาช่วยกันได้” พล.อ.บุญเลิศกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มมวลชนที่ยืนยันจะมาเข้าร่วมชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้าเป็นกลุ่มไหนบ้างและมีการตอบรับกันมาเท่าไหร่แล้ว พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จากทางอินเทอร์เน็ตประมาณ 3 ล้านคน แต่ว่าจะมาเท่าไหร่ เบื้องต้นถ้ามากันน้อย คือบริเวณลานพระบรมรูปถึงทำเนียบรัฐบาล ตนยกเลิกการชุมนุมเลย แต่ถ้ามากันมากจนถึงสะพานผ่านฟ้าลีลาศก็จะเริ่มดำเนินการตามที่ตนตั้งใจไว้ แต่อย่าถามว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้ ยังยืนว่าเป็นการชุมนุมแบบสงบ และเป็นการชุมนุมไม่ยืดเยื้อเพียงวันเดียวจบ เพราะเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมาก็ได้ทดลองรวบรวมมวลชนแล้วว่าจะมีใครเห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน ส่วนถ้าวันที่ 24 พ.ย.นี้ มีมวลชนมากันจำนวนมากจะดำเนินการตามแผนที่วางไว้ แต่จะไม่มีการนัดชุมนุมครั้งที่ 3 อีกแน่นอน
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. เปิดเผยในการประชุมสั่งการจราจรผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนท์ กับกองบังคับการ 1-9 ถึงการเตรียมพร้อมด้านการจราจรในการจัดกำลังดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง (กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม) ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้ว่า ให้ฝ่ายงานจราจรทุกกองบังคับการ จัดเตรียมวางกำลังตำรวจจราจร ทุกทางร่วม ทางแยก คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง โดยใช้กำลังจากสถานีตำรวจนครบาลพื้นที่ และกำลังตำรวจจราจรกลาง จากกองบังคับการตำรวจจราจร พร้อมทั้งให้ฝ่ายจราจรทุกกองบังคับการ เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาในการรองรับการสั่งการ ในสถานการณ์การชุมนุม
ทั้งนี้ ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดกำลังไว้โดยประมาณ 50 กองร้อย โดยจะมีการรักษาความปลอดภัยในสถานที่สำคัญ เช่น ทำเนียบรัฐบาล อาคารรัฐสภา และอาคารสถานที่ราชการโดยรอบ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลในจุดจอดรถบัสของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัด ซึ่งอาจจะไม่ชินเส้นทางในกรุงเทพฯ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสภาพการจราจร แต่ถือว่าโดยรวมมีความพร้อมแล้ว
ต่อมาเวลา 14.15 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.แถลงข่าวสรุปผลการประชุมหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย แกนนำกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 24 พ.ย. 2555 ว่า เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้เป็นประธานการประชุม ศปก.ตร. โดยประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับทุกกองบัญชาการ เพื่อเตรียมการวางแผนและการจัดกำลังเพื่อรองรับสถานการณ์ชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า โดยในที่ประชุมได้ข้อสรุปผลในการจัดกำลังสนับสนุนให้ช่วยเหลือจากกองบัญชาการต่างๆ รวมทั้งหมดกว่า 100 กองร้อย และทุกกองบัญชาการต่างๆ จะนำข้อมูลการจัดกำลังให้ชัดเจนและส่งข้อมูลเข้ามาให้พร้อมกันในวันที่ 22 พ.ย.นี้
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวอีกว่า จากข้อมูลด้านการข่าวของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) ได้สรุปจำนวนผู้ที่จะเข้ามาร่วมชุมนุม โดยล่าสุดในวันที่ 18 พ.ย. 2555 คาดว่ามีประมาณ 29,000 คน และในวันที่ 24 พ.ย.ที่จะถึงนี้ อาจจะมีถึง 80,000-100,000 คน
“ทางด้าน ผบ.ตร.ได้สั่งการกำชับว่า กรณีการชุมนุมดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ผบช.น.จะเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่ ส่วนการจัดกำลังส่วนอื่นๆ ที่จะมาร่วมกันตั้งจุดตรวจอาวุธเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงนั้น พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น.จะเป็นผู้ดูแลต่อไป” พล.ต.ต.อดุลย์ระบุ
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนประเด็นที่ได้มีสื่อลงภาพข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสกัดกั้นกลุ่มผู้มาชุมนุมไม่ให้เข้ามาร่วมชุมนุมในวันดังกล่าวนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และบช.น. ขอยืนยันว่าไม่ได้มีนโยบายดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการตั้งจุดตรวจเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ ผบช.น.ได้สั่งการให้ผู้บังคับการ บก.น.1-9 ให้ช่วยกันเร่งรัดกวาดล้างอาวุธสงครามในช่วงนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเกิดเหตุรุนแรงหรือก่อความไม่สงบและเข้ามาแทรกแซงให้เกิดความปั่นป่วนระหว่างการชุมนุม