xs
xsm
sm
md
lg

อพส.สับรัฐกุข่าวป่วน แฉ ตร.กดดันชุมชนห้ามร่วม ชี้ “แม้ว” จ้อประกาศสงครามชัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม ชี้รัฐให้ข่าวป่วนเหมือนจะเกิดจริง ยันไม่คิดทำแน่ รับเผชิญสงครามกุข่าว เชื่อชาวบ้านไม่หวั่นไหว เผยประธาน ตท.8 ส่งจดหมายปัดเอี่ยว “ลูกพี่แม้ว” แฉสันติบาลเริ่มกดดันชุมชนไม่ให้ร่วม ซัด “ทักษิณ” ดูแคลนพม่าส่อกระทบสัมพันธ์ 2 ชาติ เชื่อประกาศสงครามพวกต้านชัด ส่งตัวแทนยื่นจดหมายสถานทูตจีนพรุ่งนี้


วันนี้ (20 พ.ย.) ที่สนามม้านางเลิ้ง พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม แถลงถึงกระแสข่าวการว่าจ้างให้คนใส่สีเสื้อแดงเข้ามาก่อความวุ่นวายระหว่างการชุมนุมในที่ 24 พ.ย. เพื่อกล่าวโทษรัฐบาลเพื่อสร้างเงื่อนไขนำไปสู่การรัฐประหารว่า น่าสังเกตว่าฝ่ายรัฐบาลพยายามออกมาแสดงความคิดเห็นสอดคล้องกับกระแสข่าวดังกล่าวเสมือนมีมูลความจริง แต่ทางองค์การพิทักษ์สยามมองว่าเป็นวิธีการที่เก่า และเราไม่มีแนวคิดเช่นนี้ หากมีการกระทำเช่นนั้นเกิดขึ้นจึงไม่ใช่เป็นการกระทำขององค์การพิทักษ์สยามอย่างแน่นอน เพราะได้ประกาศไปแล้วว่าไม่ต้องการใช้ความรุนแรง สร้างความวุ่นวายเพื่อเป็นอำนาจต่อรองกับรัฐบาล

“ขณะนี้องค์การพิทักษ์สยามกำลังเผชิญกับสงครามการสื่อสารที่มีการกุข่าวขึ้นมาให้ประชาชนเกิดความสับสนในข้อมูล และวิธีการดังกล่าวจะไม่ทำให้ประชาชนที่จะเข้าร่วมการชุมนุมกับเรามีความหวั่นไหวอย่างแน่นอน” พล.อ.ท.วัชระกล่าว

พล.อ.ท.วัชระกล่าวต่อว่า วันนี้ประธานศิษย์เก่านักเรียนเตรียมทหารรุ่น 8 (ตท.8) ได้มีหนังสือถึง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยามระบุว่า ตท.8 ไม่ได้เข้าร่วมกับ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีที่ออกแถลงการณ์ต่อต้านการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามแต่อย่างใด และในขณะนี้ได้รับรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลได้เข้าไปกดดันและปิดกั้นชุมชนต่างๆในพื้นที่ กทม.เพื่อไม่ให้เข้าร่วมชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยามนั้นเป็นสิ่งที่ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 74 ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่ดำเนินการรักษาผลประโยชน์ในส่วนร่วม และต้องมีความเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ส่วนที่รัฐบาลยังไม่ประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคง) มาควบคุมการชุมนุม ถือเป็นสิ่งที่ดีและแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลก็รู้อยู่แก่ใจว่าการชุมนุมเป็นการชุมนุมตามสิทธิ์ของรัฐธรรมนูญ

สำหรับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินมายังที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อพาดพิงว่าการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามจะทำให้ประเทศไทยล้าหลังเช่นประเทศพม่านั้น พล.อ.ท.วัชระกล่าวว่า คำพูดดังกล่าวเหมือนเป็นการดูแคลนประเทศพม่า และขณะนี้ประเทศพม่าถือเป็นประเทศที่เสมอภาคกับประเทศไทย การกระทำดังกล่าวอาจจะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้พูดถึงระบบประชาธิปไตยนั้น การที่พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนถูกตัดสินยุบพรรคจากการกระทำผิดเกี่ยวกับการจ้างพรรคเล็ก และซื้อเสียง อย่างนี้ถือเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ พร้อมทั้งมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการยั่วยุโทสะให้กลุ่มคนเสื้อแดง เป็นเหมือนการประกาศสงครามกับองค์การพิทักษ์สยามที่เป็นองค์การบริสุทธิ์ และ พล.อ.บุญเลิศก็ไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต่อต้านระบอบทักษิณเท่านั้น

พล.อ.ท.วัชระเปิดเผยด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ย.) จะมีตัวแทนขององค์การพิทักษ์สยามเดินทางไปยื่นหนังสือต่อสถานทูตจีน ถึงนายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะเดินทางมายังประเทศไทยระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย.นี้ เพื่อชี้แจงถึงการชุมนุมว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และจะไม่กระทบกับการค้าการลงทุนหรือสนธิสัญญาต่างๆ ระหว่างประเทศเหมือนกับที่ยื่นให้กับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางมาเยือนไทยก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ทางองค์การพิทักษ์สยามได้รับรายงานว่าหนังสือที่ยืนไปนั้นได้ถึงนายบารัค โอบามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โฆษกองค์การพิทักษ์สยามกล่าวต่อไปว่า ล่าสุดได้มีตัวแทนจากหลายกลุ่มแสดงเจตจำนงค์เข้าร่วมการชุมนุม เช่น เครือข่ายเกษตรกรผู้เดือนร้อนปัญหาที่ดินทำกินและหนี้สินทั่วประเทศ กว่า 250 กลุ่มที่เห็นว่าไม่ว่ารัฐบาลใดเข้ามาบริหารประเทศ กลุ่มเกษตรกรก็ไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม และเครือข่ายผู้ปกครองต่อต้านแป๊ะเจี๊ยแห่งชาติ นำโดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.บุญเลิศ เพื่อสะท้อนปัญหาเงินแปะเจี๊ยะ โดยหากการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามประสบความสำเร็จให้แก้ไขเรื่องดังกล่าวโดยเร่งด่วน





กำลังโหลดความคิดเห็น