“องอาจ” จี้ “ยิ่งลักษณ์” จัดการสอบไซฟ่อนเงินโผล่ฮ่องกง 1.6 หมื่นล้าน ซัดทำลับๆ ล่อๆ จำนำข้าวจีทูจีแหกตาประชาชน เผยญวนก็ส่งออกไม่เห็นต้องปิดบัง เชื่อไม่ได้ขายจริง แถมจ่อใช้ดอนเมืองเก็บข้าวด้วย ขอพูดความจริง “ชวนนท์” ดักคอรัฐคุ้ยเอ็มโอยูเก่าเหมารวมเป็นสัญญาซื้อข้าว แฉมีเร่งขายข้าวให้ชาติอื่นในราคาต่ำ ปูดทูตอินโดนีเซียบอกไม่เชื่อมั่นการค้ารัฐไทยแล้ว
แสดง FLASH VIDEO (ขนาดใหญ่จอ 550 pixel)
วันนี้ (13 ต.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.) พบข้อมูลการไซฟ่อนเงินไทยไปยังเกาะฮ่องกงจำนวน 1.6 หมื่นล้านบาทจากเยาวราช ซึ่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ของฮ่องกงอายัดเงินว่า อยากเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้ประกาศตัวต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันจัดการอย่างเอาจริงเอาจัง อย่าเพียงแค่สร้างภาพ ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ ปปง. ขอข้อมูลจากฮ่องกง ที่ผ่านมาทาง ภตช.ได้เคยประสานไปแล้ว แต่ทางฮ่องกงอ้างว่า ภตช.ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งดำเนินการตรวจสอบว่าเงินดังกล่าวออกไปจากที่ไหน เพราะเชื่อว่าเป็นเงินดำ และเงินผิดกฎหมาย เนื่องจากที่ผ่านมา พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ อดีตเลขาฯ ป.ป.ท. ก็เคยให้ข่าวว่ามีการไซฟ่อนเงินไปที่เกาะฮ่องกง ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลที่ตรงกัน
นายองอาจแถลงอีกว่า กรณีที่รัฐบาลไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดการส่งออกข้าวในลักษณะรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีได้นั้น เป็นพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ ของรัฐบาล เป็นข้ออ้างแหกตาประชาชนเพื่อสร้างความสับสนให้เกิดขึ้น เพราะการขายข้าวในลักษณะดังกล่าวไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใด จากการตรวจสอบข้อมูลของประเทศเวียดนามก็มีการส่งออกข้าวแบบรัฐต่อรัฐและก็สามารถเปิดเผยรายละเอียดของประเทศผู้ซื้อได้ แต่รัฐบาลไทยกลับไม่ยอมเปิดเผย จึงอยากให้รัฐบาลตระหนักว่าเงินที่นำมาใช้ในการรับจำนำข้าวนั้น คือเงินภาษีของประชาชน
นายองอาจกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การที่รัฐบาลอ้างตัวเลขการส่งออกข้าวของรัฐ รวมกับตัวเลขการส่งออกของเอกชนนั้น ความจริงแล้วไม่สามารถนำมารวมกันได้ จึงทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้มีการส่งออกข้าวจริง เพราะขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมโกดังเก็บข้าวรอบสองไว้แล้ว และจากการตรวจสอบของทีมงานที่เดินทางไปยังคลังสินค้าที่ดอนเมือง พบว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการทำความสะอาด และปรับปรุงคลังสินค้า โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นการปรับปรุงเพื่ออาจจะนำข้าวจากโครงการรับจำนำมาเก็บไว้ ทั้งที่รัฐบาลเคยบอกว่ามีโกดังเก็บข้าวอย่างเพียงพอ
“ขอให้รัฐบาลพูดความจริงกับประชาชน และตราบใดที่รัฐบาลยังไม่เปิดเผยข้อมูลออกมา ฝ่ายค้านก็มีความชอบธรรมที่จะสงสัยในพฤติกรรมของรัฐบาล ถือว่าเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบหรือไม่” นายองอาจกล่าว
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้ตนทราบว่ามีความพยายามนำบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) เก่า ที่ประเทศไทยได้ทำกับประเทศต่างๆ มาเหมารวมว่าเป็นสัญญาซื้อขายข้าว โดยรัฐบาลได้เร่งรัดให้กรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เร่ขายข้าวให้แก่ประเทศที่ได้ทำเอ็มโอยูร่วมกับประเทศไทยในราคาที่ต่ำ ซึ่งความพยายามดังกล่าวถือเป็นวิธีการเอาตัวรอดจากการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว พฤติกรรมดังกล่าวนี้่ได้รับการยืนยันจากนักการทูตของประเทศอินโดนีเซีย โดยทูตอินโดนีเซียระบุเพิ่มเติมว่าประเทศอินโดนีเซียไม่มีความเชื่อมั่นในรัฐบาลไทยต่อการค้าข้าวร่วมกัน เนื่องจากปีที่ผ่านมารัฐบาลไทยไม่สามารถส่งมอบข้าวได้ตามปริมาณและคุณภาพที่กำหนดไว้